วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ภารกิจ1 ภาค 2

อังคาร 11 พฤษภาคม 2010




6.30 ตื่นแล้ว ล้างหน้า แปรงฟัน บิดจักรยานไฟฟ้าออกไปตลาด

ตลาดขนาดย่อม ๆ ผู้คนคึกคัก อาหารท้องถิ่นที่คุ้นเคยตั้งแต่เด็ก

ขนม ผลไม้ ที่ไม่ได้กินมานาน อยากซื้อมันทั้งตลาดเลย ฮึ่ม ฮึ่ม

ใส่บาตรเสร็จ ก็ซื้อผลไม้ ขนมนมเนย แล้วบิดกลับบ้าน

กิจกรรมของวันนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั่ง ๆ นอน ๆ แล้วก็กิน


................................




ทุ่มนึง รถน้าสาวเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้าน

อาม่ากลับมาแว๊วววววววววว

อาม่าบอกว่า พอรู้ว่าหลานมา ก็เลยรีบกลับ เพราะรู้ว่าเข้าห้องไม่ได้

แต่แว่ว ๆ มาว่า เพราะเสื้อผ้าที่เตรียมไปใส่จนหมด เลยต้องกลับ (มิใช่รึ)

สบายแล้วเราคืนนี้ ไม่ต้องนอนร้อน ๆ อยู่นอกห้องอีกต่อไป




...............................




พุธ 12 พฤษภาคม 2010


เที่ยงกว่า ตัดสินใจโทรไปหาบัลลังก์สาวเพื่อตามเรื่อง

ได้คำตอบกลับมาว่า ท่านยังไม่ได้เซ็น น่าจะได้วันศุกร์

เฮ้อ รอต่อไป


ช่วงเย็น อี้แก๋วชวนไปเดินแก้เซ็งในสวน

เห็นขนุนลูกโต ตกอยู่ใต้ต้น ว๊าว ๆๆ มีอะไรทำแล้วเรา

อุ้มขนุนกลับมาตัดแบ่ง ให้คนงานเสี้ยวนึง ให้น้าข้างบ้านเสี้ยวนึง

ที่เหลือก็แกะกินกันเอง

นอกจากได้ขนุนกลับมาแล้ว ยังได้ตุ่มแดง ๆ เม็ดเป้ง ๆ จากยุงกลับมาด้วย




...............................




พฤหัสบดี 13 พฤษภาคม 2010


พืชมงคล

หลังจากดูพระโคเลือกกินไปแล้ว

เราก็ไปหาอะไรกินบ้าง

อากาศประเทศชาติ ร้อนสะใจจริง ๆ

ยิ่งบ่ายยิ่งร้อน ร้อน ๆ แบบนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่า

หลบเข้าห้องไปนอนตากแอร์ดีฝ่า

ดูรายการทีวีไป สลับกับดูวิกฤตประเทศไป

เฮ้อ เครียด


...............................


บ่ายแก่ ๆ มีรถขายไอติมกะทิผ่านมา น้าสาวกวักมือเรียกไว้

ทั้งยาย ทั้งหลาน รีบเดินออกมาตามเสียงกระดิ่งรถไอติม

เป็นไอติมถังสแตนเลสกลม ๆ แบบที่เราไม่ได้เห็นมานานแล้ว

มีแบบตักใส่กรวย กับ ขนมปัง

เครื่องเคียงก็มีข้าวเหนียว ลูกชิด ถั่วลิสง นมตราเหยี่ยว

อาม่าตะโกนถามคนขายว่า "อาหร่อยอ่ะป่าว"

โถ อาม่า ใครจะตอบว่าไม่อร่อยหรอก อย่ากินเลย

อาม่าบอกคนขายหนุ่มว่า วันก่อนมีเจ้านึงมาขาย ไม่อร่อย

หวานอย่างเดียว ไม่หอม ไม่มัน


เราเลือกใส่กรวยเหมือนอาม่า

ไม่รู้ว่าเราโตขึ้น หรือขนาดมันลดลง

มีความรู้สึกว่า ขนาดและปริมาณของทุกอย่าง มันจุ๋มจิ๋มไปหมด

กรวยบาง ๆ กัดสองคำหมด ใส่ไอติมกะทิขนาดเท่าลูกชิ้นได้ 3 ลูก

อันละ 5 บาท ถ้าเป็นใส่ขนมปังแผ่นบาง ๆ นั้นก็ 10 บาท

ระหว่างที่เรารอคนขายตักของเราอยู่ อาม่าซึ่งได้ของตัวเองไปหม่ำแล้วนั้น

ก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน แล้วออกมาใหม่

พร้อมกับแก้วสแตนเลสเล็ก ๆ หนึ่งใบ

ได้ความว่า อาม่าถูกใจรสชาติไอติม เลยจะซื้อเก็บไว้กินอีก

อาม่า : ใส่ให้เต็มแก้วเลยนา เอาถั่วโรยหน้าด้วย

เหลือบไปเห็นพ่อหนุ่มคนขายแอบอมยิ้มน้อย ๆ

ขายเรากะอาม่าเสร็จ ก็ยังขายให้คนงานได้อีกนิดหน่อย


...............................


3 ทุ่มกว่า


นอนดูทีวี รออาม่าอยู่ในห้อง

อาม่าไปงานศพของอาแปะแถว ๆ บ้าน


4 ทุ่ม


ได้ยินเสียงอาม่ากลับมาแล้ว


4 ทุ่มนิดๆ


เอ๊ะ ทำไมยังไม่เข้ามาในห้อง

เลยเดินออกไปดู

เห็นตั่วกู๋นั่งดูทีวีอยู่คนเดียว เลยถามหาอาม่า

ตั่วกู๋ชี้ไปในครัว

ภาพที่เห็นคือ อาม่านั่งกินไอติมจากแก้วสแตนเลสที่ซื้อไว้เมื่อบ่าย

ต้า : อาม่า โห นึกว่าลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าซื้อตุนไว้

อาม่าตอบเสียงใสว่า ไม่ลื๊ม แล้วก็ตักใส่ปากต่อไป

แลดูสบายอารมณ์จริ๊ง อาม่าชั้น

คนแก่ ยิ่งแก่ ก็ยิ่งเหมือนเด็กเนอะ


...............................

.

.

.






ถ่ายกับอาม่า เมื่อสักห้าปีที่แล้วได้



3 ความคิดเห็น:

  1. มันไม่ใช่เพราะคุณต้าโตขึ้น หรือขนาดของมันลดลงหรอกค่ะ
    แต่เราเดาว่า เพราะคุณต้า ไปอยู่ในที่ที่อะไรๆ มัน
    ก้อทำใหญ่โต ไปซะหมดต่างหาก ทั้งแพคใหญ่ ชิ้นใหญ่

    ดูน้ำผลไม้ของเรา กล่องเล็กน่ารัก 250 CC ดื่มหมดกำลังดี
    ของบ้านคุณต้า ขวดละ 2 ลิตร ไม่รู้จะใหญ่ไปไหน อิอิ

    ติดตามอ่านเรื่อยๆ นะคะ แม้หลายที ที่ไม่ได้ แวะทักทาย
    แต่ก้อเหมือนว่า ฟ้่าหลังฝน จะไม่มีเงาของเมฆดำอีกแล้ว

    ตอบลบ
  2. มุมน่ารัก ๆ ของอาม่า อ่านแล้วก็อมยิ้มตามไปด้วย

    ตอบลบ