อังคาร 11 พฤษภาคม 2010
6.30 ตื่นแล้ว ล้างหน้า แปรงฟัน บิดจักรยานไฟฟ้าออกไปตลาด
ตลาดขนาดย่อม ๆ ผู้คนคึกคัก อาหารท้องถิ่นที่คุ้นเคยตั้งแต่เด็ก
ขนม ผลไม้ ที่ไม่ได้กินมานาน อยากซื้อมันทั้งตลาดเลย ฮึ่ม ฮึ่ม
ใส่บาตรเสร็จ ก็ซื้อผลไม้ ขนมนมเนย แล้วบิดกลับบ้าน
กิจกรรมของวันนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั่ง ๆ นอน ๆ แล้วก็กิน
................................
ทุ่มนึง รถน้าสาวเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้าน
อาม่ากลับมาแว๊วววววววววว
อาม่าบอกว่า พอรู้ว่าหลานมา ก็เลยรีบกลับ เพราะรู้ว่าเข้าห้องไม่ได้
แต่แว่ว ๆ มาว่า เพราะเสื้อผ้าที่เตรียมไปใส่จนหมด เลยต้องกลับ (มิใช่รึ)
สบายแล้วเราคืนนี้ ไม่ต้องนอนร้อน ๆ อยู่นอกห้องอีกต่อไป
...............................
พุธ 12 พฤษภาคม 2010
เที่ยงกว่า ตัดสินใจโทรไปหาบัลลังก์สาวเพื่อตามเรื่อง
ได้คำตอบกลับมาว่า ท่านยังไม่ได้เซ็น น่าจะได้วันศุกร์
เฮ้อ รอต่อไป
ช่วงเย็น อี้แก๋วชวนไปเดินแก้เซ็งในสวน
เห็นขนุนลูกโต ตกอยู่ใต้ต้น ว๊าว ๆๆ มีอะไรทำแล้วเรา
อุ้มขนุนกลับมาตัดแบ่ง ให้คนงานเสี้ยวนึง ให้น้าข้างบ้านเสี้ยวนึง
ที่เหลือก็แกะกินกันเอง
นอกจากได้ขนุนกลับมาแล้ว ยังได้ตุ่มแดง ๆ เม็ดเป้ง ๆ จากยุงกลับมาด้วย
...............................
พฤหัสบดี 13 พฤษภาคม 2010
พืชมงคล
หลังจากดูพระโคเลือกกินไปแล้ว
เราก็ไปหาอะไรกินบ้าง
อากาศประเทศชาติ ร้อนสะใจจริง ๆ
ยิ่งบ่ายยิ่งร้อน ร้อน ๆ แบบนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่า
หลบเข้าห้องไปนอนตากแอร์ดีฝ่า
ดูรายการทีวีไป สลับกับดูวิกฤตประเทศไป
เฮ้อ เครียด
...............................
บ่ายแก่ ๆ มีรถขายไอติมกะทิผ่านมา น้าสาวกวักมือเรียกไว้
ทั้งยาย ทั้งหลาน รีบเดินออกมาตามเสียงกระดิ่งรถไอติม
เป็นไอติมถังสแตนเลสกลม ๆ แบบที่เราไม่ได้เห็นมานานแล้ว
มีแบบตักใส่กรวย กับ ขนมปัง
เครื่องเคียงก็มีข้าวเหนียว ลูกชิด ถั่วลิสง นมตราเหยี่ยว
อาม่าตะโกนถามคนขายว่า "อาหร่อยอ่ะป่าว"
โถ อาม่า ใครจะตอบว่าไม่อร่อยหรอก อย่ากินเลย
อาม่าบอกคนขายหนุ่มว่า วันก่อนมีเจ้านึงมาขาย ไม่อร่อย
หวานอย่างเดียว ไม่หอม ไม่มัน
เราเลือกใส่กรวยเหมือนอาม่า
ไม่รู้ว่าเราโตขึ้น หรือขนาดมันลดลง
มีความรู้สึกว่า ขนาดและปริมาณของทุกอย่าง มันจุ๋มจิ๋มไปหมด
กรวยบาง ๆ กัดสองคำหมด ใส่ไอติมกะทิขนาดเท่าลูกชิ้นได้ 3 ลูก
อันละ 5 บาท ถ้าเป็นใส่ขนมปังแผ่นบาง ๆ นั้นก็ 10 บาท
ระหว่างที่เรารอคนขายตักของเราอยู่ อาม่าซึ่งได้ของตัวเองไปหม่ำแล้วนั้น
ก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน แล้วออกมาใหม่
พร้อมกับแก้วสแตนเลสเล็ก ๆ หนึ่งใบ
ได้ความว่า อาม่าถูกใจรสชาติไอติม เลยจะซื้อเก็บไว้กินอีก
อาม่า : ใส่ให้เต็มแก้วเลยนา เอาถั่วโรยหน้าด้วย
เหลือบไปเห็นพ่อหนุ่มคนขายแอบอมยิ้มน้อย ๆ
ขายเรากะอาม่าเสร็จ ก็ยังขายให้คนงานได้อีกนิดหน่อย
...............................
3 ทุ่มกว่า
นอนดูทีวี รออาม่าอยู่ในห้อง
อาม่าไปงานศพของอาแปะแถว ๆ บ้าน
4 ทุ่ม
ได้ยินเสียงอาม่ากลับมาแล้ว
4 ทุ่มนิดๆ
เอ๊ะ ทำไมยังไม่เข้ามาในห้อง
เลยเดินออกไปดู
เห็นตั่วกู๋นั่งดูทีวีอยู่คนเดียว เลยถามหาอาม่า
ตั่วกู๋ชี้ไปในครัว
ภาพที่เห็นคือ อาม่านั่งกินไอติมจากแก้วสแตนเลสที่ซื้อไว้เมื่อบ่าย
ต้า : อาม่า โห นึกว่าลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าซื้อตุนไว้
อาม่าตอบเสียงใสว่า ไม่ลื๊ม แล้วก็ตักใส่ปากต่อไป
แลดูสบายอารมณ์จริ๊ง อาม่าชั้น
คนแก่ ยิ่งแก่ ก็ยิ่งเหมือนเด็กเนอะ
...............................
.
.
.
ถ่ายกับอาม่า เมื่อสักห้าปีที่แล้วได้
เจิมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ตอบลบมันไม่ใช่เพราะคุณต้าโตขึ้น หรือขนาดของมันลดลงหรอกค่ะ
ตอบลบแต่เราเดาว่า เพราะคุณต้า ไปอยู่ในที่ที่อะไรๆ มัน
ก้อทำใหญ่โต ไปซะหมดต่างหาก ทั้งแพคใหญ่ ชิ้นใหญ่
ดูน้ำผลไม้ของเรา กล่องเล็กน่ารัก 250 CC ดื่มหมดกำลังดี
ของบ้านคุณต้า ขวดละ 2 ลิตร ไม่รู้จะใหญ่ไปไหน อิอิ
ติดตามอ่านเรื่อยๆ นะคะ แม้หลายที ที่ไม่ได้ แวะทักทาย
แต่ก้อเหมือนว่า ฟ้่าหลังฝน จะไม่มีเงาของเมฆดำอีกแล้ว
มุมน่ารัก ๆ ของอาม่า อ่านแล้วก็อมยิ้มตามไปด้วย
ตอบลบ