วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เล่น Ice skate กันมั้ย?


เสาร์ 20 กุมภาพันธ์ 2010



ตั้งแต่อุ๊ย้ายบ้านไป ไม่ค่อยได้เจอกันเลย

เสาร์ อาทิตย์นี้ ฤกษ์งามยามดี เราจะไปนอนค้างบ้านอุ๊กัน




ออกเดินทางจากบ้านประมาณบ่ายโมงสี่สิบ

ตอนแรกให้พี่อ้อเช็คดู Time table รถไฟ เส้นที่ผ่านแถวบ้านอุ๊

จะมีรถไฟมาถึง Station แถวบ้านเรา ตอนบ่ายสองโมงห้านาที

แต่พอไปถึง ปรากฏว่าไม่มีซะงั้น

เนื่องด้วยปิดเส้นทางเพื่อซ่อมแซมราง

เดือดร้อนเราต้องไปลงที่ Rockdale Station แทน

แล้วให้อุ๊ขับรถมารับ





เบ็ดเสร็จถึงบ้านอุ๊ก็ร่วมบ่ายสามโมงกว่า ๆ

หลังจากไม่ได้เจอก้นดำซะนาน

รู้สึกว่าชีผอมลง ผมยาว ตัวเพรียว ๆ และสูงขึ้น

แต่สิ่งนึงที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคือ สีผิว+ก้น
( ยังคงสงสัยว่าชีไปเอาจากใครมา )

ยังคงเป็นน้ำตาลไหม้ และดูจะไหม้ขึ้นเรื่อย ๆ

คาดว่าชีคงรู้ว่าเป็นที่ต้องการของตลาดที่นี่
เลยบ่มสีแทนตั้งแต่ในครรภ์มาเลย




เดี๋ยวนี้ชีพูดมาก พูดรู้เรื่อง และที่สำคัญซึ่งโดนใจป้ามาก ๆ คือ

พูดเพราะ ลงท้าย คะ ค่ะ เกือบทุกคำ

จากเด็กหน้าตาบ้าน ๆ ดูมีสกุลรุนชาติขึ้นมาทีเดียวเชียว

พอเจอกัน ก็บ้าพลัง ชวนป้าอ้อเล่นทุกอย่างที่ขวางหน้า

ช่วงนี้ ชีไปเรียนดนตรีมา เลยชวนป้าอ้อเต้นแกงการูทั้งวัน

ไว้วันหลังจะถ่ายคลิปมาให้ยล


ส่วนป้าต้ากับแม่อุ๊ก็ง่วนกับการเตรียมอาหารมื้อเย็นกันไป

วันนี้เราจะลองทำไอศครีมจากเครื่องที่พี่อ้อสมนาคุณให้กัน

โดยมีอุ๊เป็นคนจัดเตรียมของทั้งหมดไว้ให้

แล้วป้าต้ากับแม่อุ๊ก็ช่วยกันลองผิดลองถูก

ทำกันไป ผลัดกันอ่านคู่มือกันไป จนได้ส่วนผสมเหลว ๆ

ของไอศครีมช็อคโกแลตที่หอมหวลชวนกิน

แล้วก็ใส่ตู้เย็นเอาไว้


จากนั้น ก็มาจัดการ cook อาหารมื้อเย็นกันต่อ

จบจากมื้อเย็น

อุ๊ชวนไปลองเล่น Ice skate ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน

อุ๊เคยพาก้นดำมาชิมลางแล้วหนนึง

วันนี้เลยอยากให้ป้า ๆ มาลองดู

เผื่อจะรำลึกความหลัง ครั้งยังอยู่วัยเรียน

หนุ่ม ๆ สาว ๆ ชอบไปทำเท่แถวลาน Ice skate

( เคยเหมือนกันใช่มั้ยล๊า )



ก่อนไปถามก้นดำว่า

กีต้าร์เคยไป Ice skate แล้วยัง?

ไปแล้วค่ะ

แล้วชอบมั้ยคะ

มะชอบค่ะ

อ้าว ทำไมละคะ

มานลื่นค่ะ




......................................











ด้านหน้า







ไปถึงสองทุ่มพอดิบพอดี

คนยังไม่เยอะมาก เพราะเพิ่งเปิดสำหรับรอบเย็น

ค่าเสียหายอยู่ที่ $18 ต่อคน รวมรองเท้า

เล่นได้เกือบ ๆ 3 ชั่วโมง ต่อรอบ
















ด้านใน































อันนี้เป็นท่าประจำ

ใช้ประกอบคำถามพวก

ม้ามมี่ ... อยู่หนาย?























ชีคงคิดว่าถ่ายปก วัยน่ารักอยู่













พอเปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อย ก็พร้อมลงไปโชว์ลีลา



















ก้นดำไม่มีทีท่าจะกลัวแต่อย่างใด

ชีนำลิ่วลงลานก่อนใครเพื่อน




แต่พอไปถึงก็เกาะขอบหนึบ ไม่ไปไหนเลย











ต้องให้ป้าอ้อและแม่อุ๊ พาชีไถไปด้วยกัน





















พอเริ่มดึก คนก็ยิ่งเยอะ
เท่าที่สังเกตุดู มีแต่วัยทีนเต็มไปหมด
วัยดึกนี่ประปราย ดึกสุดน่าจะหนีไม่พ้น
ป้าอ้อของเรานี่เอง ^ ^












ส่วนป้าต้าหน่ะรึ๊ หึ หึ

เกาะขอบสิค๊า

เคยลองอยู่หนสองหนสมัยยังเป็นสาวแรกรุ่น

แต่ไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ เพราะล้มกระแทก

ก้นแทบหัก แถมหัวเข่าเขียวจนม่วง ไม่ชอบกีฬาเจ็บตัว

ก็เลยเล่นไม่เป็น


ทิ้งระยะห่างร่วมสิบกว่าปี กลับมาลองเล่นอีกครั้ง

อืมมม ดีขึ้น เล่นคนเดียวได้
ไถไปเรื่อย ๆ มีลื่นบ้าง แต่เกาะขอบทัน

และที่สำคัญ ไม่เจ็บตัว เพราะไม่ล้มเลยค๊า

( จะล้มได้ไง ไถอยู่ข้างขอบตลอด )







เล่นได้สักพัก ป้าต้ากับก้นดำก็แวะพัก

กิจกรรมระหว่างพักก็ไม่พ้น นางแบบคนนี้






















มีอยู่ช่วงนึง ก้นดำเกิดไม่อยากเล่นกะแม่

อยากให้ป้าต้าจูงไปแทน

ร้องเรียกป้าต้า พร้อมยื่นมือมาให้จับ

โอววววว ป้าต้ารีบร้องบอกเลย

ไม่ได้ ไม่ได้ ป้าต้ายังเอาตัวเองไม่รอดเลยลูกเอ๊ย






เล่นไปได้พักใหญ่ ป้าต้าเริ่มไม่ไหว เจ็บเท้า

ป้าต้ากับแม่อุ๊เลยขอไปนั่งพัก

ปล่อยให้ป้าอ้อพาก้นดำถูไถกันไป










สักพัก ป้าอ้อกลับออกมา พร้อมกับก้นดำที่น้ำตาซึม

ได้ความว่า ป้าอ้อให้ก้นดำอยู่ด้านหลังแล้วเกาะเอวไว้

แต่ชีเสียหลัก ลื่นแบบหงายหลัง พร้อมดึงป้าอ้อไปด้วย

ป้าอ้อก็เลยหงายหลังไปทับชีซะครึ่งตัว


โถ ก้นดำของป้า



..................................




สี่ทุ่มหน่อย ๆ ได้เวลากลับ

ก่อนออกรถ ถามก้นดำว่า

กีต้าร์ยังเจ็บอยู่ป่าว หายยัง

ชีตอบแบบง่วง ๆ ซึม ๆ ว่า

ม่ายเจ็บแล้วค่ะ

แล้วอยากมาอีกป่าวคะ

ม่ายมาแล้วค่ะ มานลื่นนน




................................





กลับไปถึงบ้าน จอดรถแล้วต้องขุดชีขึ้นมาจาก car seat

เพราะเพลียจนหลับ

ปลุกให้มาอาบน้ำ แปรงฟัน ชีก็ไม่ยอม งอแง ๆ

ป้าต้าก็พยายามไปแกล้งให้ชีตื่นมาแปรงฟัน

ชีตอบใส่หน้าว่า อยากนอน คีถ้าจานอน

ก็เลยแล้วแต่ชี

ปล่อยให้แม่อุ๊เช็ดตัวให้แบบง่วง ๆ กันไป

แต่พอป้าต้าตะโกนบอกชีว่า

ไปทำไอศครีมกินดีกว่า เท่านั้นแหล่ะ

ชีกระเด้งดึ๋ง ลุกจากที่นอน รีบตามมาในทันที




...............................




กลับมาที่ส่วนผสมที่เย็นแล้วของไอศครีมกันต่อ

สองสาวจัดการเอาช็อคฯเหลวที่ผสมแล้ว

ออกมาเทใส่เครื่องทำไอศครีม

โดยที่หารู้ไม่ว่า ต้องเอาตัวเครื่องไปแช่ช่องแข็งก่อน

ปั่นไปเกือบครึ่งชม...


เริ่มเอ๊ะใจ ทำไมไม่มีทีท่าว่าส่วนผสมจะแข็งตัว

อุ๊เริ่มหยิบคู่มือมาอ่านใหม่อีกรอบ

โอววววว จบกัน

มันบอกให้เอาตัวเครื่องไปแช่ในช่องแข็งที่อุณหภูมิ - 18 องศา

ไอ้เราก็สงสัย ๆ กันอยู่ ว่ามันจะแข็งเป็นไอศครีมได้ยังไง

หลงคิดไปว่า เครื่องมันคงจะมีที่ทำความเย็นฝังอยู่ด้านใน

เดือดร้อนต้องเทส่วนผสมทั้งหมดออกมาแช่ตู้เย็นไว้

ล้างตัวเครื่องแล้วเอาไปใส่ไว้ในช่องแข็ง

รอพรุ่งนี้ ค่อยลองดูกันใหม่


ต้า : เออ แล้วตู้เย็นอุ๊ ช่องฟรีซมันอุณหภูมิเท่าไหร่


อุ๊ : อืมม ไม่รู้เหมือนกันอ่ะพี่



....................................
พอหายงัวเงีย ชีก็พร้อมเล่นต่อเลย
แบตเหลือเฟือมากคร่า เด็กคนนี้

ท่าเต้นแกงการู


....................................

อาทิตย์ 21 กุมภาพันธ์ 2010



เช้านี้ เราจะลองกันใหม่

โดยเปลี่ยนจากรสช็อคฯ เป็นสตอเบอร์รี่แทน

ลงไปซุปเปอร์ฯ ซื้อส่วนผสมมาใหม่

กะว่าคราวนี้คงได้กินไอศครีมแฮนด์เมดสมใจ

เพราะแช่เครื่องไว้ตั้งหลายชม.


พอทุกอย่างพร้อม ก็หยอดส่วนผสมลงไปในเครื่องที่เย็นจัด

ผ่านไปร่วม 40 นาทีตามที่คู่มือบอก


แต่..........


ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าจะเป็นไอศครีมแต่อย่างใด

อุ๊หยิบคู่มือมาทบทวนอีกรอบ จนไปถึงหน้าท้าย ๆ

อุ๊ : เอ่อ พี่ ในนี้มันบอกว่า ไม่รับประกันนะ ว่าจะออกมา

เป็นไอศครีมสวยน่ากินเหมือนในรูป

ความผิดพลาดขึ้นอยู่กับ

ส่วนผสมอาจไม่ถูกต้อง หรือ

เครื่องทำไอศครีมอาจจะเย็นไม่พอ

ต้า : ( หันขวับไปมองหน้าพี่อ้อ )

ไหนว่าทำง่าย ๆ ไงค่ะดาร์ลิ้งงงง

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ต้นไม้ = ความรัก





ดอกไม้ที่พี่อ้อให้เมื่อวันวาเลนไทน์

ตกลงก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันมีชื่อว่าอะไร

แต่กระถางนี้ เดาว่า

น่าจะอยู่ในสายพันธุ์ใกล้เคียงกับพวก กล็อกซิเนีย

ตอนนี้มันงอกเงยออกมาอีก 3 - 4 ดอกแล้ว

เห็นว่ามันยังมีดอกตูม ๆ อยู่อีก หลายดอก



ดอกไม้ที่ร้าน เวลาวางขาย

ส่วนใหญ่ ดอกจะอู้ฟู่มาก

เหมือนจะแข่งกันเสนอหน้า ให้เลือกมันไป



แต่พอซื้อมาอยู่ที่บ้านได้สักพัก จะพร้อมใจกันหายหัวหม๊ด

ไม่รู้ว่า ถ้าหมดดอกตูม ๆ ของล็อตนี้แล้ว

มันจะยังมีดอกสวย ๆ โผล่ออกมาเสนอหน้า

ให้เราได้ชื่นชมอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้





ตอนนี้ก็พยายามสังเกตุว่ามันชอบวิธีการเอาใจแบบไหน

น้ำน้อย น้ำมาก แดดจัด หรือรำไร



ต้นไม้ ต้องการ การดูแล เอาใจใส่

เหมือนความรักเลยเนอะ



^__^







วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันแห่งความรัก 2010

5 กุมภาพันธ์ 2010




หลังจากได้รับเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ไปแล้วนั้น

ต้า : พี่อ้อๆ พี่เตรียมของขวัญวันวาเลนไทน์ไว้หรือยังคะ

พี่อ้อ : ก็คิด ๆ เอาไว้แล้วค่ะ

ต้า : แพงหรือเปล่า ไม่ต้องแพงนะ

พี่อ้อ : ไม่แพง ไม่แพง ไม่มีตังค์ หมดตูดแล้ว

ต้า : ที่จริงพี่ไม่ต้องให้อะไรเลยก็ได้นะ พูดจริง ๆ

แค่การ์ดใบเดียว ต้าก็โอเค happy แล้ว

ไม่ต้องมีของขวัญอะไรหรอก

กุหลาบก็ไม่ต้องนะ เปลือง


พี่อ้อ : กุหลาบหน่ะ ไม่ให้อยู่แล้ว

จีบติดแล้ว ไม่ให้หรอก






................................





ตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ ๆ ต้าไม่ค่อยให้ความสำคัญ

กับเทศกาลวาเลนไทน์สักเท่าไหร่

รู้สึกว่า มันไม่ใช่วันพิเศษของเรา

แต่พี่อ้อก็จะมีนู้นนี่มาเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เสมอ ๆ

( ต้าก็ทำตัวเป็นผู้รับอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน 555 )





ปีแรก คืนก่อนวันวาเลนไทน์

พี่อ้อบอกว่า ไม่มีดอกไม้ให้นะคะ

พอสาย ๆ วันที่ 14 กุมภาฯ

มีกระถาง Balloon Art ใบย่อม ๆ ส่งมาให้ถึงออฟฟิต

เป็นลูกโป่งรูปทรงดอกไม้สีสวยสดใส น่ารักเชียว

แล้วก็ยังมีอีกเซอร์ไพรส์

โดยให้เพื่อนจัดช่อดอกกุหลาบเล็ก ๆ

เอามาให้ที่ออฟฟิตด้วย




หลังจากนั้น ต้าก็เบรคไว้เลยว่า

วาเลนไทน์ ไม่ต้องซื้อดอกไม้มาให้นะคะ

ไม่ปลื้ม เพราะมันเปลือง

ด้วยราคาที่สูงเกินกว่าความเป็นจริงหลายเท่าตัว





.............................






13 กุมภาพันธ์ 2010






เย็นวันเสาร์ พี่อ้อไปทำงาน

กลับมาบ้านพร้อมด้วยสิ่งนี้






























ให้กันเป็นต้นเลยทีเดียว





เอาไปเลย 2 กระถาง ต้อนรับวาเลนไทน์

ดอกอะไรไม่รู้ แต่สวยดีค่ะ ชอบ ๆ

กระถางเก่าทั้งสองต้น สิ้นอายุขัยไปแล้ว

เพราะตอนต้ากลับไทย พี่อ้อลืมรดน้ำให้

กลับมาอีกที มันก็เลยแห้งเหี่ยว เฉาตาย



................................






14 กุมภาพันธ์ 2010





วาเลนไทน์ปีนี้ ตรงกับวันตรุษจีน

เช้าวันอาทิตย์

พี่อ้อให้อั่งเปากันแต่เช้าเลย

ได้รับมา ซองนี้เป็นซองที่ 5 แล้ว





ปีแรก อั่งเปาเดินทางไกล จากซิดนีย์ถึงตลิ่งชัน

ข้างในซองใส่เงินดอลล่าร์ออสเตรเลียใบละ $5 หนึ่งใบ


ปีต่อมา มอบให้ด้วยตนเอง

มีเพิ่มมูลค่าให้ด้วย จาก $5 เป็น $20


ปีถัด ๆ มา ก็ยังคงเป็น $ 20

ถามพี่อ้อไปว่า ทำไมมันไม่เพิ่มอีกเลยอ่ะคะ

พี่อ้อบอกว่า แหม ให้เป็นธรรมเนียม

หนุก ๆ อย่าโลภมาก


เอ๋า เค้าก็แอบลุ้นนิดนึงอ่ะ

ทุกซองยังคงเก็บไว้อย่างดี ไม่มีการเอามาใช้

เก็บไว้สร้างอนาคตเนอะ ^ ^

( ทำเหมือนเป็นมูลค่ามหาศาล )



..............................







สุขสันต์วันแห่งความรัก


สุขสันต์วันตรุษจีน


ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน


มีรักที่ดี ร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง


ร่ำรวยความสุข และรักกันทุก ๆ วันนะคะ



รักคนข้าง ๆ แล้ว อย่าลืมแบ่งปันความรักให้กับ

ครอบครัว

มิตรสหาย

เพื่อนมนุษย์

และโลกของเราด้วยจ๊ะ


...............................





Love is all around




^__ ^

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การ์ด + เมนูซัมเมอร์


8 กุมภาพันธ์ 2010

ได้รับการ์ดใบนี้จากเมืองไทย


v
v
v






..................................




11 กุมภาพันธ์ 2010

ตามมาอีกใบ ปิดท้ายวันเกิดปีนี้



v
v
v






ขอบคุณเจ้าของการ์ดทั้งสองมาก ๆ นะจ๊ะ

ปกติตู้จดหมาย จะมีแต่พวกใบแจ้งหนี้

ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ

ไม่เค๊ย ไม่เคย จะมีจดหมายจากเมืองไทย

จะมีก็แต่ของพี่อ้อบ้างประปราย ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากที่บ้าน

คนอยู่ไกลบ้าน เวลามีใครเขียนจดหมายมาหา

รู้สึกยิ้มได้นะคะ มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่า E-mail

ตรงที่ว่าอย่างน้อย ๆ คนส่งก็ต้องตั้งใจที่จะ

เลือกการ์ด

ไปไปรษณีย์

แล้วไหนยังต้องรอลุ้นอีก ว่าจะถึงในกี่วันกันน๊า

คนรับก็เก็บเอาไว้อ่านได้ แม้ว่าไฟจะดับ เน็ตจะล่ม

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ



ปล. ปีหน้า ให้ส่งตั้งแต่ปลายเดือนมกราเลยนะ
จะได้ถึงพอดี ๆ หุ หุ


...............................







6 กุมภาพันธ์ 2010


ช่วงนี้อากาศที่นี่ ตอนกลางวันร้อนทรมานผิวสาวมาก

แต่พอตกกลางคืนก็พอได้อยู่

พออากาศมันร้อน ก็ต้องหาอะไรเย็น ๆ กิน

ช่วงนี้ก็เลยฮิตทำน้ำสตอเบอร์รี่ปั่น

ส้มปั่น ไม่ก็มะนาวปั่นไว้ดับร้อน
...............................



วันนี้มีเมนูไกลบ้านอีกหนึ่งอย่างมานำเสนอ

ไม่ยากค่ะ ( เพราะยาก ๆ ก็ทำไม่เป็น )

นั่นก็คือ




พล่าเห็ดตำรับ Tar la la


เริ่มต้นด้วยเครื่องปรุง

เห็ด ( ที่เราชอบกิน )

ตะไคร้

ใบมะกรูด

ใบโหระพา

ผักชีฝรั่ง

หอมแดง

มะนาว

พริกป่น

น้ำปลา

เกลือ

น้ำพริกเผา



จริง ๆ ถ้าใส่ไปสักสามเห็ด ก็จะตามหลักชีวจิตกันเลย

ตอนแรกก็เล็งเห็ดเข็มทองไว้

แต่เห็ดเข็ม เวลาลวกแล้วเอามายำ

กลิ่นและน้ำในตัวเห็ด มันจะทำให้รสชาติไม่โดนใจ

เลยตัดไปเหลือสองเห็ดพอ


















เอามาฉีกเป็นเส้น ๆ แบบนี้















แล้วก็เอาเห็ดทั้งสองชนิดไปลวก

จากนั้นพักไว้ให้พออุ่น ๆ แล้วบีบน้ำออกให้ได้มากที่สุด

( ถ้าให้เห็ดอมน้ำไว้ มันจะทำให้น้ำยำจาง )









มาที่ขั้นตอนการทำน้ำพล่า

ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น เกลือนิดหน่อย

คนให้เข้ากันดี แล้วชิมรสตามใจชอบ

ถ้าใช้น้ำพริกเผายี่ห้อที่ไม่ค่อยหวาน ก็เติมน้ำตาลไปนิดหน่อย

















ใส่เห็ดที่สะเด็ดน้ำแล้ว พร้อมเครื่องปรุงที่เหลือลงไป

คลุกเคล้าให้เข้ากัน





เสร็จแล้วค๊า



ง่ายใช่มั้ยล๊า



..............................




แล้วก็ตบท้ายมื้อนี้ด้วย น้ำสเตอเบอร์รี่ปั่น

สเตอเบอร์รี่
มะนาว
เกลือ

น้ำเชื่อม
น้ำแข็ง









เย็นฉ่ำ ชื่นใจ






.................................




12 กุมภาพันธ์ 2010


Such a hot day!!!




เมื่อวานอ่านบล็อกคุณตั๊ก

เอาอีกแล้ว ทำร้ายคนไกลบ้านอีกแล้ว

เค้กจากร้าน After you กระแทกตาไปหลายชิ้น

เค้กที่นี่ หาอร่อย ๆ ถูกปากเราได้น้อยเหลือเกิน

ฝรั่งทำเค้ก เน้นหวานนำโด่งมาเลย

เนื้อเค้กก็อัดแน่น ไม่ฟ่องฟูนุ่มลิ้น

ที่พอจะกินได้คงจะไม่พ้นเค้กของเอเชียด้วยกัน

อย่าง จีน เกาหลี ไรงี้



.....................................




วันนี้เลิกงานเร็ว

เลิกแล้วก็ตรงดิ่งไป Paddy Market

เมนูเย็นนี้ พี่อ้อเสนอปลานึ่ง กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสจัดจ้าน

ไปตลาดซื้อปลา Snapper ไซด์บิ๊ก

ขากลับแวะร้าน Bread Top

สอยเค้กติดไม้ติดมือมาสองชิ้น

เอาไว้เป็นของหวานหลังกินปลา








Choc Mocca

Green Tea

ชิ้นละ $ 3.90



................................


แล้วก็ปิดท้ายแก้เลี่ยนด้วยน้ำมะนาวปั่น

พี่อ้อชอบสเตอเบอร์รี่ปั่น แต่วันนี้หาซื้อสเตอเบอร์รี่ไม่ได้

มี แต่แพง

มะนาวถูกกว่า

กินมะนาวปั่นไปก่อนละกันนะดาร์ลิ๊งงงงงง



......................................




ปล. คุณตั๊กค่ะ เค้กร้านนี้รองด้วยฟรอย

เพราะฉะนั้น เราจะสามารถกินได้หมดเกลี้ยง

โดยไม่ต้องเอาช้อนขูดจานเหมือนใครบางคน

วะหะฮ่า สะจายยยยยยยยยยยยย
^ __ ^

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ผิดแผน

9 กุมภาพันธ์ 2010






วันนี้ก่อนกลับบ้าน พี่อ้อโทรมาบอกว่า

เด๋วจะแวะไปไทยทาวน์แป๊บนึง

อยากรู้ว่า ตกลงหนังสือพิมพ์วางหรือยัง

เพราะล่าสุดที่คุยกันไว้ ชีบอกว่าช้าสุดน่าจะวันจันทร์

แต่วันจันทร์ที่ให้อุ๊แวะไปดู ก็ยังไม่เห็นวาง

แล้วถ้าวาง จะยังลงให้หรือเปล่า




..............................





หกโมงหน่อย ๆ พี่อ้อถึงบ้าน พร้อมด้วยหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับในมือ

อ้าววววววววววววววววววว

พี่อ้อ : มันวางแล้วหล่ะ ดาร์ลิ้ง

ต้ารีบกางหนังสือพิมพ์เปิดดู

อ๊ายยยยยยยยยยยยยย ตายแล้ว

หราเลย เขิลนะเนี่ย

จะมีใครจำได้มั้ย

จะมีใครมาล้อต้ามั้ย



พี่อ้อ : ไม่มีหรอก ทำยังกะมีใครรู้จักเรามากมาย

ต้า : เอ๋า อย่างน้อยก็เพื่อน ๆที่โรงเรียนไง

พี่อ้อ : เค้าอาจจะไม่อ่านก็ด๊ายยย




ต้า : แต่มันเลยกำหนดที่เค้าบอกมาแล้วนี่

แบบนี้ก็ต้องไปทวงตังค์คืน

พี่อ้อ : จะดีเหรอ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ไหน ๆ เค้าก็ลงไปแล้ว

ต้า : แต่มันไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้นี่นา

แล้วทำไมเอามาตั้งหลายฉบับอ่ะคะ

พี่อ้อ : ก็อุ๊บอกให้หยิบเผื่อ 2 ฉบับ

จะเอาไปฝากขวัญฉบับนึง

หวายยยยยยย เขิลอ่ะ




.................................



พี่อ้อบอกว่า จริง ๆ แล้ว กะจะให้ลงครึ่งหน้า

แต่ว่าค่าลงแพงเป็นอีกเท่าตัวนึง

เลยเอาแค่ 1 ส่วน 4 พอ



.................................




ตอนที่เอาซีดีไปให้ พี่อ้อฝากให้อุ๊ไปเจรจา

พี่อ้อ : รูปของพี่ต้า อุ๊บอกให้เค้า crop เอาแต่ตัวนะ

อุ๊ . : เอาแต่ตัวเหรอพี่

พี่อ้อ : อืม เอาแต่ตัว

อุ๊ : เอาแต่ตัวเหรอพี่ หัวไม่เอาเหรอ

พี่อ้อ : หัวอะไรว่ะ

อุ๊ : ก็เอาแต่ตัว แล้วหัวไม่เอาเหรอ

พี่อ้อ : พี่หมายความว่า ไม่อยากได้ background ด้านหลังอ่ะ

เกือบไม่มีหัวแล้วเรา



..............................












..................................














เห็นมั้ย เห็นมั้ย








..................................


























....................................






























....................................









ต้าไม่ชอบ อะไรที่มันไม่เป็นไปตามข้อตกลง

ต้าไม่ชอบ อะไรที่ผิดกติกา

แต่พี่อ้อบอกว่า ไม่เป็นไร

ง่ะ ก็มันไม่เซอร์ไพรส์แล้วนี่นา

ก็มันเสียแผนของพี่หมดแล้ว

ที่พี่จ่ายไปก็ไม่คุ้มค่าเงินหน่ะสิ

ต้าก็แค่... เสียดายตังค์






..................................






พี่อ้อ : เป็นคนแรกและคนเดียวในซิดนีย์เลยนะเนี่ย

ที่มี Birthday ลงหนังสือพิมพ์แบบนี้

เพราะตั้งแต่พี่อ่าน ๆ มา ยังไม่เคยเห็นใครทำเลย

ต้า : ถ้าแม่ยังอยู่ก็ดีสิเนอะ จะเอากลับไปอวดแม่

พี่อ้อ : ก็เอาไปให้อาม่าดูแทนสิ

ต้า : แล้วอาม่าจะเข้าใจมั้ยเนี่ย ต้องอธิบายยาววววอีก



.................................


วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เบื้องหลัง... ความสุข

ก่อนอ่านหน้านี้ ถ้ายังไม่ได้อ่านหน้าที่แล้ว

อาจจะไม่เข้าใจ รบกวนคลิ๊กกลับไปอ่านก่อนนะจ๊ะ



: เบื้องหลัง : > > > ความสุข


- เริ่มต้นด้วยการส่งความสุข กับน้องผู้หญิงคนนั้น ที่เราไม่รู้จัก


พี่อ้อเล่าว่า

พี่อยากได้ใครก็ได้ที่ต้าไม่รู้จัก

ตอนแรก ไปถามอุ๊ ว่ามีใครที่อุ๊รู้จัก แล้วพี่ต้าไม่รู้จักบ้างมั้ย

จะเอามายืนถือแผ่นป้ายหน้าตึก


อุ๊ก็นึกไปถึงน้อง ๆ ที่ร้านกาแฟ แต่ส่วนใหญ่ก็มีงานช่วงเช้ากัน

พี่อ้อก็เลยไปเสริซหาคนว่างงาน จากเวปไทยในซิดนีย์

ไปเจอน้องคนนี้ลงประกาศหางาน

พี่อ้อก็เลยโทรไปเจรจา

ตอนแรกน้องเค้าบอกว่า พี่จะให้หนูแต่งตัวอะไรด้วยมั้ย

แต่งชุดไทยก็ได้นะพี่

แต่พี่อ้อบอกว่าอย่าเลย เด๋วเค้าจะนึกว่านางไม้มาสิงอยู่หน้าตึก


ตามที่ตกลงกันไว้กับน้อง

คือให้มายืนรอตั้งแต่ประมาณ 8 โมงครึ่ง ถึงเก้าโมง

เพราะพี่อ้อคาดเดาว่า ต้าน่าจะออกจากบ้านราว ๆ นั้น

(ครึ่งชั่วโมง กับการมายืนถือป้าย พี่อ้อจ่ายให้ $25 รายได้ดีนะเนี่ย)


ป้ายวันเกิดนั้น พี่อ้อแอบไปทำที่ทำงานตอนเย็นวันพุธ

แล้วก็เอาไปให้น้องที่ทำงาน แต่บอกต้าว่า มีงานตอนเย็น จะถึงบ้านค่ำ ๆ

พี่อ้อบอกน้องไปว่า ให้บอกต้าว่าถ่ายรูปไว้ด้วยนะ




- หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่งความสุข น้องก็รีบโทรรายงานพี่อ้อว่า

หนูเห็นพี่เค้าสีหน้าดูตกใจ

หนูเลยไม่กล้าบอกให้พี่เค้าถ่ายรูปหนูไว้อ่ะคะ

คนเดินเข้าออกหน้าตึก เค้ามองหนูกันใหญ่เลยอ่ะพี่

สงสัยเป็นเพราะหนูใส่หมวกไว้

พี่อ้อเลยบอกไปว่า ให้ถอดก่อนก็ได้ เด๋วไว้สัก 8.45 ค่อยเอามาใส่

น้องตอบกลับมาว่า

ไม่ได้หรอกพี่ หนูตื่นเต้น หนูต้องใส่เตรียมไว้ก่อน


- นาฬิกาใหม่ แต่ยังใส่ไม่ได้

ต้องเอาไปตัดสายออก

ตอนแรกพี่อ้อจะตัดมาให้เลย

โดยวัดเอาจากข้อมือพี่อ้อ คาดว่าน่าจะตัดประมาณ 3 ข้อ

แต่คนขายบอกว่า บริการตัดให้ฟรีได้แค่ครั้งเดียวนะ

พี่อ้อเลยปลอดภัยไว้ก่อน ให้วัดกับข้อมือต้าเองดีกว่า

ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว ไม่งั้น อาจจะต้องไปเสียตังค์ค่าตัดอีกรอบ

เพราะต้าวัดดูแล้ว ต้องตัดออกถึง 4 ข้อแน่ะ

เสียดายอ่ะ รู้สึกไม่คุ้มยังไงไม่รู้



- ตอนแรก พี่อ้อไม่ได้จะซื้อนาฬิกาให้ มีอย่างอื่นที่คิดไว้แล้ว

แต่เห็นว่าต้าอยากได้ เลยเปลี่ยนใจ

พี่อ้อเล่าว่า ใช้เวลาในการเลือกนานมาก

เดินดูหลายร้าน เวลาก็มีน้อย

ที่สวยถูกใจก็ไม่ได้เป็นสายเหล็กอีก

จนมาถึงร้านสุดท้าย เจอเข้ากับเรือนนี้ โอเคสุดแล้ว




- ต้าสงสัย พี่อ้อเอาเวลาตอนไหนไปซื้อหน่ะ

เพราะปกติ เราก็อยู่ด้วยกันตลอด น้อยมากที่จะแยกกัน

พี่อ้อบอกว่า ก่อนหน้าวันเกิดอาทิตย์นึง

เย็นวันนั้น ต้าไม่ได้ทำกับข้าว

เรานัดไปกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ฟู้ดคอร์ทในเมือง

หลังเลิกงาน พี่อ้อบอกให้ต้าไปเจอที่ร้านตอนหกโมงครึ่ง

แล้วก็แอบไปซื้อก่อนจะมาเจอกัน



- น้ำทับทิมที่บอกว่าอยากกินแล้วต้องไปซื้อก่อนเข้าร้านนั่น

ที่จริงก็ไม่ได้อยากกินหรอก

แต่จะได้ให้อุ๊เข้าไปในร้านก่อน เพื่อเอาการ์ดไปใส่ไว้ในเมนู

แล้วอุ๊ก็ไม่ได้ปวดฉี่แต่อย่างใด



- ของขวัญ + การ์ด พี่อ้อก็แอบเอาไปใส่ไว้ในกระเป๋าอุ๊

ตอนที่ต้ากำลังง่วนอยู่กับก้นดำ



- ตอนสั่งผลไม้และไอศครีมเสร็จ แล้วพี่อ้อขอไปเข้าห้องน้ำ

จริง ๆ แล้วไม่ได้ปวด

แต่เดินเอาเทียนที่พกมาจากบ้านไปให้พนักงาน

คือร้านนี้มีเมนูของหวานแค่ไอศครีมชาเขียวเป็นลูก ๆ ไม่มีการตกแต่ง

พี่อ้อเลยคิดไว้ว่า จะให้เอาเทียน 4 เล่ม ปักบนไอศครีมทั้ง 4 ถ้วย

แต่ดันไม่ได้เตี๊ยมกะอุ๊

ตอนสั่ง อุ๊บอกว่าอิ่ม กินไม่ไหว ต้าเลยสั่งไปแค่ 3

คือของต้า 2 และพี่อ้อ 1 ก้นดำชีไม่กินชาเขียว

กลายเป็นเหลือแค่ 3 ถ้วย พี่อ้อเลยเปลี่ยนใจ

ให้ปักแค่อันเดียวพอ

ทางร้านพอรู้ว่าเป็นวันเกิด ก็เลยตกแต่งเพิ่มให้นิดหน่อย

แถมเทียนแท่งยาว มาให้อีกอัน ตามที่ลงรูปไป



- เรื่องน้ำหอม สงสัย เลยถามอุ๊ไปว่า ทำไมต้องให้อุ๊ 4 ดอล์

อุ๊บอกว่า ก็พี่เกิดวันที่ 4 แล้วประมาณว่าคอนเซปต์ปีนี้คือ เลข 4

ก็เลยขอ 4 ดอล์

ต้าแอบคิดในใจ เอ๊ะ แล้วถ้าพี่เกิดวันที่ 31 ล่ะ

อุ๊จะขอพี่ 31 ดอล์มั้ยน๊า ( เกือบได้ค่าน้ำหอมกันเลย )




- อีกหนึ่งเบื้องหลังความสุข

ที่พี่อ้อเพิ่งมาเฉลยวันนี้

ว่าเป็นอีกแผนนึงที่พี่อ้อตั้งใจจะทำเซอร์ไพรส์ให้

แต่ดันไม่สำเร็จ


เรื่องมีอยู่ว่า ที่ซิดนีย์เนี่ย มีหนังสือพิมพ์ไทยแจกฟรีอยู่สองหัว

คือ ไทยมีเดีย กับไทยเพรส

เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ วางแจกตามร้านไทย

พี่อ้อตั้งใจเซอร์ไพรสปิดท้าย ด้วยการลง AD

Happy birthday ต้า ในหนังสือพิมพ์ไทยมีเดีย

โดยมีการโทรไปเจรจา แจ้งความประสงค์กันเป็นที่เรียบร้อย

แถมจ่ายเงินไปแล้วด้วย

แต่ไม่คิดมาก่อนว่า ทั้งออฟฟิต เห็นมีพนักงานนั่งอยู่คนเดียว

ทำมันทุกอย่างเลย


พี่อ้อเล่าว่า ตอนที่โทรคุยกัน ชีบอกว่า หนังสือจะวางวันที่ 6

พี่อ้อเห็นว่า เลยมาแค่สองวัน ก็ยังพอโอเค

แล้วพี่อ้อก็ส่งรูป ส่งแบบ Art work ทั้งหมดใส่ซีดีไปให้

ว่าอยากได้ประมาณนี้ นี้


ประมาณสักวันที่ 29 ก็โทรไปถาม ว่าทุกอย่างเรียบร้อยหรือยัง

ชีตอบกลับมาว่ายังไม่เสร็จเลย

โทรไปถามครั้งที่ 2 และ 3 ก็ผลัดวันไปเรื่อย

จนวันศุกร์ที่ 5 เพิ่งส่ง Art work ฉบับที่พร้อมจะลงมาให้ดู

ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่พี่อ้ออยากได้เลย

ผิดแบบ ผิดสเป็ก

แล้วแถมก็ยังไม่แน่ใจอีกว่าจะได้ลงทันวันที่ 6 หรือเปล่า

เพราะชีบอกว่า ชีจะต้องกลับเมืองไทย

เลยไม่มีใครไปตามงานที่โรงพิมพ์ให้

ไม่มั่นใจว่าโรงพิมพ์จะพิมพ์ให้ทันวันที่จะวางหรือเปล่า

คือเอาแน่นอนอะไรไม่ได้สักอย่าง

ชีบอกว่า เอางี้ ถ้าเกิดวันจันทร์โรงพิมพ์บอกว่าพิมพ์ให้ไม่ทัน

จะดึง AD นี้ออกแล้วกันนะคะ

แล้วพอชีกลับมาจากเมืองไทย ค่อยให้พี่อ้อมาเอาเงินคืน


วันนี้ 8 กุมภาพันธ์ เลยวันที่หนังสือพิมพ์ต้องออกวางมาแล้ว 2 วัน

พี่อ้อให้อุ๊แวะไปดูที่ร้านไทย

ไม่เจอหนังสือพิมพ์ไทยมีเดียวางแผง



.................................



หมดกัน เซอร์ไพรส์ยกสุดท้าย ล่มค๊า

ไว้อาทิตย์หน้า ชีกลับจากไทย ต้องไปเอาเงินคืน



...............................






พี่อ้อบอกว่า ที่ทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้มากมายในปีนี้

เพราะเห็นว่าต้าเพิ่งผ่านเรื่องแย่ ๆ มา

ไม่อยากเห็นต้าเศร้า ๆ อยากให้มีความสุข






...................................


ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาอวยพรวันเกิดให้ต้าในปีนี้นะคะ

ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขโดยทั่วกันค่ะ









^ ^

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ปีนี้.. ก็แค่ 33 เอ๊งง

4 กุมภาพันธ์ 2010




วันนี้ วันครบรอบวันเกิดของต้าเอง

ปีนี้ มีสิ่งนึงที่ต่างไปจากทุก ๆ ปี

ที่ผ่านมา สิ่งสุดท้ายที่จะทำในวันเกิด

ก็คือ โทรหาแม่

โทรไปทวง ว่านี่วันเกิดหนูนะ

แม่มักจะลืม เป็นประจำ

แต่ก่อนมีอยู่ช่วงนึง แม่จะจำได้

เพราะมีเด็กน้อยตรงข้ามบ้าน เกิดวันเดียวกัน

เวลาถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์

แม่ของเด็กน้อย ก็จะจัดงานวันเกิดเล็ก ๆให้

กลายเป็นการช่วยเตือนให้แม่นึกได้
ว่านี่ก็วันเกิดลูกสาวด้วย

เวลาโทรไป แม่จะอวยพรให้ โดยไม่ต้องทวง

อยู่มาวันนึง ครอบครัวเด็กน้อยคนนั้น ย้ายบ้านไป

แม่กลับมาลืม ให้เราต้องทวงอีก เหมือนเดิม

คืนนี้ ก่อนนอน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่มีแม่ให้โทรหา

ไม่เป็นไร โทรไปหาอาม่าแทน

พยายามคุยให้ร่าเริงที่สุด แจ่มใสที่สุด

เพราะตั่วกู๋ ( พี่ชายแม่ ) บอกว่า ให้ระวังหน่อย

พยายามอย่าพูดอะไรให้อาม่าเศร้า

ถามตั่วกู๋ไปว่า ช่วงนี้อาม่ายังร้องไห้อีกมั้ย

ตั่วกู๋บอกว่า ไม่ค่อยเห็นว่าร้องแล้ว

แต่เวลาวางสายจากต้า แล้วอาม่าก็จะร้อง

เหมือนว่าพอคุยกับลูก แล้วก็จะคิดถึงแม่

อาม่าให้พรแล้ว ก็วางสายไป

.... คิดถึงแม่

เริ่มเศร้าแล้ว ไม่เอา ไม่เอา

เปลี่ยนโหมดดีกว่า ไม่อยากเศร้า

อยากให้บล็อกของเรามีแต่เรื่องสนุก ๆ

เพื่อนๆ มาอ่านจะได้สดใส ซาบซ่า

....................................

คืนวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์

พี่อ้อ : ดาร์ลิ้ง เมื่อเช้าเค้าตื่นเช๊า เช้า
ตอนนี้เค้าก็ง๊วง ง่วง เค้าขอไม่รอจนถึง..

ต้า : จ๊า ไม่ต้องจ๊ะ ต้าเข้าใจ ว่ามันไม่ใช่ธรรมเนียมของพี่

เข้านอนตามสบายเลยคะ ต้าไม่ว่าจ๊ะ

พี่อ้อวิตก หลังจากที่รู้ว่า

ธรรมเนียมของต้าและเพื่อนสมัยอยู่ไทยนั้น

คือต้องส่งข้อความอวยพรกันตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเลยทีเดียว

ประมาณว่า เที่ยงคืนปุ๊บ แมสเซจดังปั๊บ

พี่อ้อบอกว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพิ่งได้ยินจากต้าเนี่ยแหล่ะ

หรือจริง ๆแล้ว มันเป็นแค่เราและเพื่อนเราเอง เหรอ?

........................................







: เบื้องหน้า :

เช้าวันพฤหัสฯ ที่ 4 กุมภาพันธ์

เจ็ดโมงครึ่ง พี่อ้อบอก Happy birthday ต้า
ที่ยังคงสลึมสลืออยู่

แล้วพี่อ้อก็ออกไปทำงาน

แปดโมงสิบห้า ต้าลุกจากเตียง
เริ่มเดินสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง

ไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างอยู่ถูกที่ถูกทาง

แปดโมงสี่สิบห้า ต้าพร้อมออกจากบ้านไปทำงาน

เปิดประตูห้อง แล้วก็ปิดประตู

อุ๊ย อุ๊ย ^ ^

เจอสิ่งนี้อยู่หน้าประตูบ้าน ( ด้านนอกด้วยนะ )

















เซอร์ไพรส์ยกที่หนึ่ง เริ่มขึ้นแร๊วววววค๊า

พอดึงซองออกมาจากหน้าประตู ก็ล็อก

แล้วก็เดินไปเพื่อจะลงบันได

เดินไปยังไม่ได้แกะซอง ก้าวลงบันได

สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรแว๊บ ๆ อยู่ตรงมุม ๆ

เลยก้มลงไปหยิบมาดู อ่ะ อ่ะ ไม่ได้การ

รีบเปิดซองจดหมายเพื่ออ่านด่วน

เปิดซองมาก็เจอจดหมายฉบับนี้ค่ะ









อ่านไปถึงบรรทัดที่สี่ สะดุดตรงเครื่องอบผ้า

รีบเดินย้อนกลับไปที่ห้อง Laundry รวม

เปิดฝาตูปุ๊บ ก็เจอกับเจ้าสิ่งนี้ ^ ^
















ตอนนี้เราก็ได้เจ้า 'ความสุข' สีม่วงมาสองอัน















จาก เครื่องอบผ้า และ หล่นอยู่ตามพื้น

อ่านต่อไปถึงตรงที่ 'หรือรอต้าอยู่หน้าบ้าน'

รีบออกจากห้อง Laundry แล้วเดินลงบันไดไปหน้าตึก

สายตาก็สอดส่องตามพื้นทางเดิน

ไปถึงประตูใหญ่ เอ๊ะ เห็นน้องผู้หญิงอยู่คนนึงใส่หมวก

ยืนหลบ ๆ ถือป้ายอยู่แถวตู้ Mail box

พอน้องเค้าเห็นต้า เค้าก็เดินออกมาแล้วถามว่า

"พี่ต้าใช่มั้ยค่ะ"

"ใช่ค่ะ"

ว่าแล้วน้องเค้าก็ยกป้ายกระดาษขึ้นมาโชว์แล้วพูดว่า

"Happy Birthday ค่ะพี่"

โอวววววว หน้าพี่อ้อลอยเด่นขึ้นมาในหัวตึ๊งเลย

"ขอบคุณค่ะน้อง นี่มารอนานมั้ยค่ะ"

"ไม่เท่าไหร่ค่ะ"

"พี่อ้อเค้าฝากซองนี่ไว้ให้พี่ต้าด้วยค่ะ"

ต้ารับป้ายกระดาษแผ่นใหญ่และซองจดหมายเล็ก ๆ นั้นมา

น้องเค้าก็พูดต่อว่า

"เอ่อ พี่ค่ะ หนูไม่รู้จะพูดอวยพรอะไรอ่ะคะ"

"อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะน้อง"

"เอ่อ แล้วแผ่นป้ายนั่น พี่จะให้หนูเอาเก็บไปให้มั้ยค่ะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ เด๋วพี่เอาขึ้นไปเก็บบนห้องเอง ขอบคุณมากนะคะ"
.........................................

ระหว่างเดินกลับไปบนห้อง รีบแกะซองเล็กออกดู

เจออีกหนึ่ง 'ความสุข' อยู่ในซอง

แล้วต้าก็เอาทั้งหมดนี้ เก็บไว้ในห้อง แล้วก็ออกไปทำงาน
























ในใจก็นึกไปว่า พี่อ้อไปเอาน้องคนนี้มาจากไหนฟ่ะเนี่ย

...........................................

ขณะนั่งอยู่บนรถเมล์ นึกขึ้นได้ถึงข้อความในจดหมาย

"แม้กระทั่งอยู่ในกระเป๋าของต้าเอง"

ปิ๊งง รีบรื้อกระเป๋า แล้วก็เจออีกหนึ่ง 'ความสุข'

อยู่ในกระเป๋าใส่เหรียญ

นั่งรถไป ยิ้มไป เริ่มต้นวันด้วยความสุข สดใส
ยิ้มหน้าบานแฉ่งเลย

ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้ภาพเมื่อห้าปีก่อน เด้งตึ๊งเข้ามาในหัว

วันเกิดของต้าปีแรกที่เราคบกัน

พี่อ้อเซอร์ไพรส์ด้วยการส่งดอกกุหลาบสีแดงสดดอกโต ๆ

1 ช่อใหญ่ ไปให้ต้าที่ออฟฟิต ตั้งแต่เช้า

พอตกบ่ายก็มีพัสดุส่งตรงจาก Sydney มาให้

ข้างในเป็นกล้องเวปแคม เอาไว้มองหน้ากันไป ทำงานกันไป

( อู้งานได้อีก )

วันนั้นทั้งวัน ต้าไม่เป็นอันทำงาน

เพราะมัวแต่โต้ตอบเพื่อน ๆที่วนเวียนแวะมาแซว

...............................



ตามโปรแกรมที่นัดกันไว้ เย็นนี้

ต้าจะเลี้ยงขอบคุณอุ๊ ก้นดำ และพี่อ้อ

ที่ร้าน BBQ Koh-Ya Japanese Restaurant

แถว Neutral Bay ฝั่ง North Sydney

โทรไปจองโต๊ะ Buffet ไว้ตอนหกโมงครึ่ง

บ่ายสองโมงครึ่ง ต้าเลิกงานและกลับถึงห้อง

บ่ายสามโมงครึ่ง อุ๊เลิกงานแล้วบึ่งไปรับก้นดำ
เพื่อมาเจอกันที่ห้อง

ห้าโมงสิบ พี่อ้อกลับมาถึงบ้านแล้วรีบอาบน้ำ

ห้าโมงสี่สิบ สี่สาวพร้อมอาการหิวโหย เคลื่อนขบวนออกจากบ้าน

........................................

รถติดพอสมควร เพราะเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงาน

แต่เราก็ไปถึงที่หมายทันเวลาที่จอง

จอดรถปุ๊บ พี่อ้อบอกว่า พี่อยากกินน้ำทับทิม

ขอแวะไปซื้อที่ซุปเปอร์ฯก่อน

ส่วนอุ๊ปวดฉี่มาก ขอพาก้นดำไปที่ร้านเลย เด๋วเจอกัน

ซื้อน้ำทับทิมเสร็จแล้วก็รีบเดินเข้าไปที่ร้าน

พี่อ้อบอให้ต้านั่งด้านนอก พี่จะนั่งฝั่งเดียวกับก้นดำ

นั่งปุ๊บ ต้าก็ยกเมนูขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวสั่ง

เปิดเมนูปุ๊บ ก็มีซองสีเหลืองอ๋อยตกลงไปที่พื้น












ข้างในเป็นการ์ด ด้านในมีทั้งลายมืออุ๊และพี่อ้อ

พี่อ้อบอกให้อ่านดูสิ ว่าในการ์ดบอกให้ต้าทำอะไร

พอดีกับที่เด็กเสริฟมารอรับ order เลยชุลมุนเล็กน้อย

พอสั่งอาหารเรียบร้อย

พี่อ้อก็หันมาถามว่า ต้าเอา 'ความสุข' มาด้วยหรือเปล่า

"อ้าว ไม่ได้เอามาอ่ะ ต้องเอามาด้วยเหรอ"

"เอ๋า ก็ในจดหมายบอกให้เก็บ 'ความสุข' ไว้กับตัว"

"ง่ะ ก็ไม่คิดว่าจะต้องพกไว้อ่ะ นึกว่าแค่ให้เก็บเอาไว้"

"เป็นอะไรมั้ยอ่ะ แล้วจะเสียแผนป่าว ยังเล่นต่อได้มั้ย"

"อืมม ก็พอได้คะ"

แต่จากที่อ่านในการ์ด ต้าก็พอจะเข้าใจค่ะ ว่าคืออะไร

เอาเป็นว่า ต้าตัดภาพการ์ดที่เสร็จสมบูรณ์แล้วมาให้ดูเลยละกัน












แล้วก็ได้เวลารับของขวัญ

จากอุ๊ ปีนี้มีคอนเซปต์ ของขวัญ 4 ชิ้น
สำหรับคนเกิดวันที่ 4

สามชิ้นแรก ให้ล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้แล้ว

( ยังคงรักษาคอนเซปต์ส่วนตัว ชอบให้ก่อนนาน ๆ )

เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจาก M.A.C

- Serum

- Eye Cream

- Lip Balm





และชิ้นที่ 4 สำหรับวันนี้คือ

น้ำหอมกลิ่นหวาน ๆ ของ Britney Spears ขวดนี้

ก่อนรับของขวัญ อุ๊บอกว่าเอามาให้อุ๊ 4 ดอล์

เพราะเค้าถือ ว่าหากให้น้ำหอมแล้วจะต้องทะเลาะ
หรือเลิกคบกัน เอาตังค์มาให้ เหมือนเป็นการซื้อ

อืมมม ก็แล้วแต่ความเชื่อเนอะ

........................................







สังเกตรูปใหญ่นะคะ

ดูก้นดำ ดูตาชีสิ จิกได้อีก

























ชีเลือกไปนั่งอยู่คนเดียวตรงหลืบโต๊ะ
เพราะกลัวไฟจากเตา BBQ
วันนี้ชีไปโรงเรียน แม่อุ๊รับกลับมา
แล้วก็ขี้เกียจอาบน้ำแต่งตัวให้ชีใหม่
มามันมอม ๆ แบบนี้แหล่ะ สวยธรรมชาติ






..................................







แล้วก็มาถึงของขวัญชิ้นสำคัญจากคนรู้ใจ

ไม่ได้คาดเดาไว้ล่วงหน้า ว่าพี่อ้อจะให้อะไร

เพราะพี่อ้อเนียนมาก ไม่มีแพร่งพราย

ของขวัญของพี่อ้อ ใส่มาในถุงกระดาษยับ ๆ เยิน ๆ

เปิดห่อออกมา แว๊บแรกที่เห็น

โอ๊ยยยย หัวใจพองโต ดีใจ๊ ดีใจ ถูกใจ๊ ถูกใจ

ถูกใจมากกกกกจริง ๆ

อันนี้เซอร์ไพรส์สุด ๆ ไม่คิดว่าพี่อ้อจะซื้อนาฬิกาให้อีก

จำได้ว่า ต้าแค่เปรย ๆ ไปหนนึงตอนกลับมาจากไทย

ว่าอยากได้นาฬิกาสายเหล็กสวย ๆ สักเรือน

เพราะเรือนที่มีอยู่ ใส่ทำงานซะสมบุกสมบันหมดแล้ว

พี่อ้อยังตอบกลับมาว่า
ก็ไว้ต้ากลับไทยกลางปีนี้ ค่อยไปเลือกซื้อดูสิ

ไม่คิดเลยว่า จะได้ใส่ทันใจขนาดนี้

ที่สำคัญ สวย ถูกใจมากค๊า








อุ๊บอกว่า ยี่ห้อนี้ดี แล้วก็แพงด้วยนะพี่

รีบหันไปสบตาพี่อ้อ "แพงมั้ย เท่าไหร่อ่ะ"

ได้ยินคำตอบแล้ว อืมมมม….

………………………….

หลังจากทั้งปิ้ง ทั้งคีบ กันจนอิ่มหนำสำราญใจ

ก็ได้เวลา Last order กับของหวาน

ผลไม้และไอศครีม

สั่งเสร็จ พี่อ้อขอไปเข้าห้องน้ำ

ไปไม่ถึง 10 วิ เดินกลับมา
บอกว่าคนเยอะ เด๋วค่อยไปใหม่

พักนึง ไอศครีมพร้อมผลไม้ก็มาเสริฟ

แต่กลายเป็นไอศครีมแบบนี้











พี่อ้อบอกว่า ปีนี้ไม่มีเค้กนะคะ
เพราะแค่นี้ก็อิ่มจนจะยัดกันไม่ลงอยู่แล้ว

ไม่เป็นไรเลยค๊า แค่นี้ก็ปลื้มเต็มที่แล้ว

..................................








ขอบคุณ... อุ๊และก้นดำ นะจ๊ะ

สำหรับของขวัญทุกชิ้นเลย ถูกใจมาก ๆจ๊ะ

รายได้ก็ไม่ค่อยมี ยังอุตส่าห์ซื้อของแพง ๆ มาให้พี่
ซึ้งใจ.... T T

ในยามที่เราต้องอยู่ไกลบ้านกันแบบนี้

เวลายิ่งผ่านไป ก็ยิ่งทำให้เรารู้ว่า

มิตรภาพดีดีที่จะทำให้เรารู้สึกเต็มได้นั้น
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณ

แม้ว่าเราจะมีกันอยู่เพียงแค่นี้

แต่ก็อบอุ่น เพราะมันเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

ของความรัก ความหวังดีและจริงใจ

^ ^ Love you both

…………………………


ขอบคุณ... พี่อ้อ นะคะ

ตั้งแต่มีพี่เข้ามาในชีวิต

พี่ทำให้วันธรรมดาของต้า กลายเป็นวันพิเศษ

พี่ทำให้วันพิเศษของต้า กลายเป็นวันที่พิเศษยิ่งกว่า

พี่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มาตลอด..อย่างสม่ำเสมอ

ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

พี่เป็นคนรักที่วิเศษที่สุดเลยคะ ^ ^

I do love you… my beloved

…………………………….




เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเบื้องหน้าไปแล้ว

ไว้บล็อกหน้าต่อไป จะมาเล่าเรื่องราวเบื้องหลังให้ฟังนะคะ













See ya ^ ^
....................................