วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Baby-sit

Sun August 23 , 2009





วันนี้มาเฉลยแผนแกล้งหลานของเรากันดีกว่า

.
.


^ ^



ป้าอ้อเอาแมงมุมตัวอ้วนมาวางไว้กลางห้อง แล้วเรียกให้ชีดู




"กีต้าร์ นี่ตัวอะไรนี่ ดูซิ "


"แมงมุมกีต้าร์ เนี่ย แมงมุม ชอบป่าว"

"กีต้าร์จับดูสิ ตัวมันนิ่มๆด้วยน๊า"





ก้นดำไม่มีท่าทางตื่นตกใจแต่อย่างใด เดินเข้าไปดู แล้วก็เอามือแตะๆได้

ป้าอ้อเลยกดรีโมทให้มันเริ่มคลืบคลาน

เท่านั้นล่ะค๊า.......





วิ่งปรู๊ดไปตั้งหลักอยู่หน้าประตู


"มะอาว มะอาว คีถ้ามะอาว"




แล้วชีก็ไม่สนใจที่จะเข้าใกล้มันอีกเลย


โอเค๊ วันนี้พอแค่นี้ก่อน เด๋ววันหลังจะลองใหม่ ฮิ ฮิ ^ ^



.


กิจกรรมช่วงบ่าย หลังจากส่งมอบก้นดำจากป๊ะป๋าของชีแล้ว

เราก็เอาเมนูไส้กรอกพันเบคอนมานำเสนอ

เพราะโดยปกติ ชีโปรดปรานเบคอน กินได้หลายแผ่นอยู่




แต่... วันนี้ชีสั่นหัว มะอาว มะอาว


"ทำไมไม่กินอ่ะ ปกติหนูชอบนี่นา เบคอนเนี่ย ไม่หิวเหรอ"

"มะหิว อิ่ม"



สงสัยเป็นเพราะป๊ะป๋าเพิ่งให้ข้าวให้น้ำชีมา งั้นไม่เป็นไร เด๋วหิวแล้วชีคงจะกินเอง


แล้วชีก็เริ่มกิจกรรมรื้อบ้าน รื้อนู้นนี่ รื้อทุกอย่างที่พอจะรื้อมาเล่นได้ ขณะเดียวกันก็ต้องเปิดแผ่นดีวีดีการ์ตูนของชีไปด้วย ( อิป้าดูจนขึ้นใจทุกแผ่นกันเลย )


บรรดาของเล่นของป้าอ้อ โดนกวาดมากองเละเทะอยู่กลางห้อง

ก้นดำเป็นเด็กที่อยู่ไม่นิ่งเลยสักนาทีเดียว เข้าขั้นไฮเปอร์รึป่าวไม่รู้

เรี่ยวแรงเธอมีมากมหาศาล ยิ่งหลังตื่นตอน เหมือนได้ชาจท์แบตเต็มที่

ชีเล่นประหนึ่งว่าถ้าพลังงานเหลือเด๋วจะนอนไม่หลับ ต้องใช้ให้หมดเป็นวัน ๆ ไป
.


หลังจากเราเริ่มเอียนการ์ตูนของชีที่เปิดวนไม่รู้กี่รอบแล้ว

ป้าอ้อเลยเปิดแผ่นเกมส์วีให้ชีเล่นแทน

เล่นเกมส์ง่าย ๆ พวก ปิงปอง ขับรถ




อย่างเกมส์ปิงปอง เวลาตีโดนลูก รีโมทมันจะสั่นๆ ซึ่งก้นดำคงจะรู้สึกได้ ตีมั่วๆ ไป โดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่ดูตั้งใจ สีหน้ามุ่งมั่น ประหนึ่งจะเป็นทีมชาติให้ได้

เกมส์รถแข่งนี่ค่อนข้างเลวร้าย ชีขับชนทะลุแผงกั้น เสยฟุตบาทกระจัดกระจายไปเลยค๊า











เกือบๆ สี่โมง ป้าต้าเห็นว่าเราอยู่ในห้องกันนานไปแร่ะ ไปหาอะไรเล่นนอกบ้านกันดีกว่า เลยชวนป้าอ้อและก้นดำไปสนามเด็กเล่นแถวบ้าน ซึ่งถัดไปแค่ซอยเดียว
.


.

ตอนแรกก้นดำดูอิดออด ไม่อยากไป อยากอยู่บ้าน แต่พอพาไปแล้วตอนจะพากลับไม่ยอมกลับซะงั้น



.

เดินไปถึง มีเด็กผู้หญิงอายุสักหกเจ็ดขวบเล่นม้าโยกอยู่ ส่วน Daddy ชี เตะฟุตบอลอยู่ใกล้ ๆ
ไปถึงปุ๊บ ก้นดำชีวิ่งปรู๊ดเข้าไปแถวๆม้าโยก เด็กฝรั่งคนนั้นชีคงตกใจ รีบลงจากม้าโยก วิ่งไปหาพ่อเธอในทันใด



ลั้นลาเลย ก้นดำครองพื้นที่ วิ่งเล่นอันนู้น อันนี้ ประหนึ่งเป็นสนามส่วนตัว อิป้ามันสร้างไว้เอง เกินครึ่งชั่วโมงที่ชีวิ่งเล่นนู้นนี่ไม่ได้หยุดเลยสักวินาที













.













ผ่านไปพักใหญ่ ป้าๆ เริ่มเหนื่อยและหิวน้ำ เลยพาชีกลับกันดีกว่า

มาถึงห้อง ชีเริ่มตอบรับไส้กรอกพันเบคอน คงเริ่มหิวแล้ว

ป้าต้าก็เลยเจียวไข่ให้ชีกินกับข้าวต้มที่เหลืออยู่ เป็นมื้อเย็น



เกือบสามทุ่ม แม่อุ๊ก็มารับ

จอดรถแล้วขึ้นมานั่งเม้าท์กันแป๊บนึง

สามทุ่มกว่า


"ไปกีตาร์ กลับบ้านกันดีกว่า ดึกแล้วลูก แม่ง่วงแล้ว"

"มะอาว ๆ เล่น ๆ"

"งั้นแม่ไปแล้วนะ กีตาร์อยู่นี่ใช่มั้ย นอนนี่เลยละกัน โอเคป่ะ"

"โอเค บะบาย" ( รักแม่มันน่าดู )



ตอนนี้พัฒนาการของก้นดำ ก้าวหน้าขึ้นเยอะ พูดจาตอบโต้กันรู้เรื่อง ไทยมั่ง อังกฤษมั่ง ปนๆกันไป

แล้วชีก็ดื้อสุด ๆ ด้วยเหมือนกัน ทำเอาอิแม่มันปวดตะบานได้วันละหลาย ๆ รอบ

ที่เพิ่มมาอีกอย่างคือ มารยา ใครว่าเด็กไม่มีมารยา คงต้องคิดกันใหม่ เคยดูตีสิบ ที่เอาคลิปมาให้ดู เด็กไม่กี่ขวบ แกล้งทำเป็นล้มลงต่อหน้าแม่เพื่อเรียกร้องความสนใจ

ตอนนี้ก้นดำเริ่มมีมารยาบ้างแล้วเหมือนกัน

วันก่อนชีวิ่งแล้วหกล้ม แต่ก่อน ล้มแล้วก็ลุกเองได้ ไม่ค่อยร้องไห้ ออกแนวอึด แค่เบะ ๆ แล้วก็หาย

เด๋วนี้ล้มแล้วร้องลั่น สะอึกสะอื้น ถ้าไม่เห็นภาพ ได้ยินแต่เสียง คงคิดว่าหัวเข่าชีน่าจะหลุดไปแล้ว แถมสะอื้นยาวนาน ออดอ้อนสุดชีวิต


"คีถ้าเจ๊ะ คีถ้าร้องห๊ายย"


ต้องให้อุ้มให้โอ๋ ซึ่งสรีระชีตอนนี้ เกินจะรับไหว


17 กิโลแล้ว เกินหน้าเกินตาเด็กสามขวบมั่ก ๆ


อุ้มได้ห้านาที หมดรอบ ลงเหอะ หลังป้าจะหัก ไม่ไหวจริง ๆ ลูกเอ๊ย



สิ่งนึงที่ยังคงเหมือนเดิมสำหรับชีคือความร่าเริง


ไม่รู้จะเริงร่าอะไรนักหนา สามารถเล่น พูด เดิน วิ่ง ได้ตลอดเวลา


ยิ่งช่วงนี้พูดมากกกกกกกกก สุด ๆ พูดไปเรื่อย รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง



ป้าต้าเคยคิดว่า อยากรู้จังเลยเวลาหนูอยู่กับเพื่อนๆวัยเดียวกันที่ day care วัน ๆนึง พวกหนู ๆ คุยอะไรกันบ้างน๊อ แล้วรู้เรื่องกันบ้างมั้ยอ่ะจ๊ะ







........................................



.
.


ปล. คุณ ว ดี
ขอ ของกิน .. ของกินก็มา (ในบล็อกที่แล้ว )
ขอ ก้นดำ .. ก้นดำก็มา ( ในบล็อกนี้ )
แถมคลิปให้ด้วย แต่ถ้าเปิดดูไม่ได้ ลองไปที่ร้านส้มตำ เอ๊ย ร้านกาแฟของคุณเจ๊สิคะ
แค่ทำตัวเป็นลูกค้าที่ดี คิดว่าก็น่าจะมีอินเตอร์เน็ตฟรีให้ใช้ได้อยู่น๊า ใช่ป่าวค่ะเจ๊ ^ ^

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

My dessert

Sun August 23 , 2009









อาทิตย์นี้ ไม่มีโปรแกรมออกไปไหน ต้องรอรับเสด็จหญิงคีต้า



เนื่องจากแม่อุ๊ จะต้องไปช่วยเพื่อนที่ทำงานย้ายบ้านแต่เช้า



ก็เลยจะเอาก้นดำมาฝากป้าๆไว้




โดยจะให้ป๊ะป๋าพาชีมาส่งตอนสายๆ เพราะบ่ายๆ ป๊ะป๋าจะไปลั๊นลา
( ป๊ะป๋าคีถ้าชอบทำตัวเป็นหนุ่มโสด )













เช้านี้ ต้าจะทำข้าวต้มทรงเครื่อง ใส่กระดูกหมูกับกุ้ง ต้องใส่สองอย่าง เพราะพี่อ้อไม่โปรดกระดูกหมู เลยให้กินกุ้งแทน







ทำน้ำสต๊อกไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืนตอนต้มจับฉ่าย ก็เลยใช้เวลาไม่นานมากนัก แต่แค่ตื่นมาพี่อ้อก็บ่นหิวแล้ว เลยให้หม่ำต้มจับฉ่ายที่ทำไว้เมื่อคืนรองท้องไปก่อนถ้วยนึง









ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ข้าวต้มหอมฉุย พร้อมเสริฟ






ตักแบ่งไปให้ฝ้ายกะแฟน 2 ชาม พร้อมด้วยต้มจับฉ่ายอีกชามใหญ่










( ไม่มีรูปให้ดู เพราะคิดว่าเป็นเมนูที่เพื่อนๆน่าจะคุ้นเคย และกินบ่อยๆ ลงรูปไปก็คงมิได้เย้ายวน )











จะว่าไป บ้านเราหาจับฉ่ายกินง่าย มีขายทั่วไปตามร้านกับข้าว

แต่ที่นี่ ยังไม่เคยเห็นมีขาย ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ อยากกิน เลยใช้วิธีโทรถามแม่เอาว่าทำยังไง แล้วก็ลองทำกินเอง ก็พอให้เป็นเมนูประจำบ้าน กินกันตายได้อยู่









พออิ่มหนำสำราญ ก็เรื่อยเปื่อยรอก้นดำ แต่ นี่มันจะเที่ยงอยู่แร่ะ ทำไมยังไม่มา

ไหนลองโทรไปถามอุ๊สิ

อุ๊โทรถามแฟน แล้วได้ความว่า

ป๊ะป๋ากำลังจะให้อาหารเที่ยงชีก่อน แล้วค่อยพามาส่ง อีกสักพักคงจะมาแล้วหละ












ระหว่างนี้ ป้าต้ากับป้าอ้อ เลยเข้าครัว ไปลองทำเมนูใหม่ ไว้รอก้นดำ

เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ป้าอ้ออยากทำให้ก้นดำกิน คิดว่าชีน่าจะชอบ และป้าอ้อเองก็อยากกิน






ซื้อของเตรียมไว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน


เบคอน ไส้กรอก แฮม ไม้จิ้มฟัน และ ขนมปัง




วันนี้ป้าอ้อเป็นคนลงมือเอง ป้าต้าแค่คอยวางเรียงลงบนถาดที่รองด้วยแผ่นฟรอย แล้วเอาเข้า oven
























ตั้งแต่ย้ายบ้านมา ยังไม่เคยลองใช้ oven อันนี้เลย ใช้แต่ grill ไม่รู้เหมือนกันว่ามันต่างกันยังไง






มุดเข้าไปดูในเตา มันก็ใช้ขดลวดนำความร้อนเหมือนๆกันนั่นล่ะว๊า






ไม่แน่ใจว่าต้องใช้ไฟเท่าไหร่ เลยขอระยะปลอดภัย แค่ 170 ก่อนละกัน









ระหว่างรออบ ต้าก็กะว่าจะทำข้าวเหนียวเปียกลำไยไปด้วยเลยละกัน



เป็นคนชอบกินขนมหวานแบบไทยๆ ชอบกินมาตั้งแต่เด็ก


จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ แม่จะพาซ้อนมอเตอร์ไซด์ไปตลาดโต้รุ่ง


มีเจ้าประจำอยู่หน้าโรงเรียนแสงทอง คนขายเป็นหญิงจีนสูงวัย รูปร่างผอม แต่ยังดูแข็งแรง


ขนมหวานหลากหลายชนิดในหม้อสแตนเลสวางขายเต็มรถเข็น


ข้าวเหนียวดำเผือก ถั่วเขียวต้มน้ำตาล มันต้มน้ำขิง กล้วยเชื่อม มันเชื่อม ถั่วดำ เต้าทึง ข้าวฟ่าง บวดเผือก บวดฟักทอง เต้าส่วน บัวลอย โอ๊ยตาย น่ากินทุกอย่างเลย





เวลาไปยืนเลือกอยู่หน้ารถเข็นจะทำใจลำบากมาก ไม่รู้จะเอาอันไหนดี อยากกินทุกอย่างเลย เคยแอบคิดในใจว่า ถ้าบอกแม่ค้าว่าจะขอกินอย่างละคำสองคำ แต่กินทุกหม้อเลย




แม่ค้าจะขายป่าวน๊อ









นอกจากขนมหวานเป็นหม้อ ๆ แบบนี้แล้ว พวกที่ขายเป็นถาด ๆนั่นก็ปลื้ม


หม้อแกง ถั่วกวน เผือกกวน ข้าวเหนียวแก้ว ตะโก้ ขนมชั้น ข้าวเหนียวตัด ฟักทองสังขยา ข้าวต้มมัด ถั่วแปบ ขนมเหนียว เปียกปูน ฯลฯ







ที่เขียนมานี่ชอบกินทุกอย่างเลย แล้วก็จะเกิดอาการเดียวกันเวลาไปยืนหน้าร้านขายขนม






ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ก็มิได้อดอยากขนมหวานประเภทนี้แต่อย่างใด ยังคงหากินได้บ้าง เป็นบางอย่าง มีคนทำใส่กล่องมาฝากขายตามร้านไทย แต่รสชาติก็แค่พอกินให้หายอยาก ( พอแหล่กล่ายนั่นละ ) ไม่ได้อร่อยล้ำเหมือนเจ้าเก่าเจ้าดังที่บ้านเรา









ตอนอยู่เมืองไทย ไม่เคยคิดจะลองทำแต่อย่างใด ก็แหม มันหาซื้อกินง่ายกว่านี่นะ อร่อยด้วย



พอมาอยู่นี่ บางอย่างที่อยากกิน แต่ไม่มีขายก็ต้องลองทำเอง ( ไม่งั้นมันจะอยากอยู่อย่างนั้น ) แต่ก็เป็นประเภทที่ทำง่าย ๆ เดา ๆ เอาเองได้ เช่น





ถั่วเขียวต้มน้ำตาลทรายแดง ( มีขายในร้ายไทย แต่ไม่ซื้อ เพราะชอบกินแบบต้มเปื่อย ๆ เละ ๆ ข้น ๆ เลยต้องทำเอง )




วุ้นกระทิ คิดถึงวุ้นคุณอุ๊ นครปฐม เลยมั่ว ๆทำดู พอกินได้อยู่ ใส่เนื้อมะพร้าวได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวขาดทุน




ถั่วแดงต้ม เวลาไปกินไอติมชาเขียวตามร้านญี่ปุ่น แล้วเค้าจะโปะไว้บนไอติม ชอบกิน แต่ที่ร้านให้นิดเดียว ไม่สะใจ เลยกลับมาต้มกินเอง







กล้วยบวชชี เคยทำหนนึง ไม่ค่อยรุ่ง กระทิแตกตัว มันเกิ๊น ไม่ไหว อีกอย่าง กล้วยน้ำว้าต้องนำเข้า แพงเอาเรื่องอยู่ เลยเปลี่ยนมาเป็นกล้วยหอมนมสดแทน



( จริง ๆ ร้านไทยพอจะมีขาย แต่ไม่เข้าใจทำไมต้องใส่สาคูลงไปด้วย ไม่ได้อยากกินสาคูในกล้วยบวชชีนิ )






อีกอย่างนึงที่ชอบกิน แต่ไม่เคยเห็นมีขาย นั่นก็คือ ข้าวเหนียวเปียกลำไย เห็นมีแต่เปียกข้าวโพด











วันนี้ก็เลยกะว่าจะทำกินเอง ทั้งที่ไม่รู้หรอก ว่าจริงๆแล้ว เค้าทำกันยังไง ไม่ได้ search หาสูตรจากเวป เพราะขี้เกียจ ใช้วิธีเดา ๆ เอา ( เหมือนเดิม )


อันที่จริงเคยทำกินแล้วครั้งนึง เหตุเกิดเพราะความผิดพลาดบางประการ











วันนั้นเราทำส้มตำกินกัน ให้พี่อ้อเป็นคนหุงข้าวเหนียว ( ด้วยไมโครเวฟ ) พี่อ้อไม่เคยหุงมาก่อน ใส่น้ำท่วมข้าวไปมากมาย ( พี่อ้อคิดเอาว่าข้าวเหนียวมันน่าจะต้องใส่น้ำเยอะกว่าข้าวสารสิเนอะ )








สิบกว่านาทีผ่านไป แทนที่เราจะได้ข้าวเหนียวมากินกับส้มตำไก่ย่าง ปรากฏว่า ได้ข้าวเหนียวเละ ๆ แฉะ ๆ มาแทน คือใส่กระทิไปนี่ก็ข้าวเหนียวมูลกันเลยทีเดียว


เลยต้องหุงใหม่ แล้วด้วยความเสียดายข้าวเหนียวเละ ๆ นั้น ต้าก็เลยคิดว่า ถ้าใส่น้ำตาลลงไป มันจะกลายเป็นของหวานได้มั้ยหนอ??




ว่าแล้วก็เลยค้นตู้เก็บอาหารแห้ง เจอลำไยกระป๋อง ที่ซื้อเก็บไว้อยู่กระป๋องนึง เลยเอามาลองเทใส่ แล้วคอยเติมน้ำ คนไปเรื่อย ๆ เติมเกลือ น้ำตาล
ชิมดู อืม รสชาติไม่เลว แล้วก็ใช้กระทิสำเร็จรูป เทใส่หม้อตั้งไฟอ่อน ๆ เติมเกลือหน่อยนึง เอาไว้ราดหน้าขนมตอนจะกิน โอ้ว... หนูทำได้


( แต่ อันที่จริง ก็ไม่รู้หรอก ว่าข้าวเหนียวที่ใช้ทำขนม กับข้าวเหนียวที่กินกะส้มตำเนี่ย มันชนิดเดียวกันรึป่าวหว่า )















วันนี้ก็เลยจะทำดูอีกที แต่ตั้งใจ มิใช่ผิดพลาดเรื่องข้าวเหนียวแต่อย่างใด



















ใส่ลำไย2กระป๋องเลย กะให้เคี้ยวเจอลำไยกันทุกคำไป









แช่ข้าวเหนียวไว้ตั้งแต่เมื่อคืน จะได้เปื่อยง่าย ๆ



เอาหม้อที่ใส่ข้าวเหนียวและน้ำไว้แล้ว ขึ้นตั้งไฟ แล้วก็ไปเช็คดูไส้กรอกพันเบคอนใน oven


อืม ไส้กรอกเกรียมๆ นิด ๆ น่าจะได้แล้ว ทยอยเอาออกมาเลยแล้วกัน





























แล้วก็ไปสาละวนกับไส้กรอก จนลืมข้าวเหนียว



หันไปดูอีกที ตายแล๊ววววววว






ด้วยความที่ไม่ได้หมั่นคน เลยทำให้ข้าวเหนียวก้นๆ หม้อเริ่มไหม้ T T


















แต่ไม่เป็นไร ยังพอได้อยู่ พยายามไม่คนให้ถึงก้นหม้อ จะได้ไม่เอาที่ไหม้ ๆ ขึ้นมา

คราวนี้ดันแช่ข้าวเหนียวเยอะไปหน่อย ต้มไปต้มมา อึดเต็มหม้อ

เลยได้ข้าวเหนียวเปียกหม้อบะเริ่ม







ตักแบ่งไปให้ฝ้ายถ้วยใหญ่ แล้วแบ่งใส่กล่องคอนเทนเนอร์อีกสามกล่องใหญ่



ให้อุ๊กล่องนึง ฝากไปให้แฟลตเมทอุ๊อีกกล่องนึง



แล้วเหลือเก็บไว้กินเองกล่องนึง ^ ^





























เอารูปมาอวดคุณตั๊กให้อยากหม่ำเล่น เพราะเคยอ่านเจอว่าคุณตั๊กก็โปรดปราน

































กิจกรรมช่วงบ่าย หลังจากก้นดำมา และแผนแกล้งหลานนั้น





ไว้จะมาเขียนเล่าให้ฟังอีกวันนะจ๊ะ
^^


วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Don't tease me!!

Friday August 21 , 2009





สองทุ่มกว่า ๆ


ต้าอาบน้ำเสร็จ


เปิดประตูห้องน้ำ แต่ยังไม่ได้เดินออกมา





เห็นหน้าพี่อ้อโผล่พ้นชั้นวางของมาดู




ต้า : มีไรเหรอ

พี่อ้อ : ป่าว

ต้า : แล้วชะเง้อมามองไรอ่ะ มีไรป่าว

พี่อ้อ : ไม่มี๊ ไม่มีไรจริงๆ

ต้า : ไม่จริงอ่ะ ไม่จริง ต้องมีไร บอกมานะ

พร้อมกับเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ตรงพรมหน้าห้องน้ำ








ต้า : กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!! ( คาดว่าดังไปถึงชั้นล่างเรียบร้อย )

พี่อ้อ : หัวเราะชอบอกชอบใจ

ต้า : ไอ้พี่อ้อบ้านี่!!










เป็นแมงมุมไซด์บิ๊กเบิ้ม บังคับให้เคลื่อนไหวด้วยรีโมท
คล้ายๆรถบังคับประมาณนั้น




อันที่จริง ไม่ได้กลัวแมงมุมแต่อย่างใด แต่พอเห็นขนาดของมันแล้วก็ไม่ค่อยชอบหน้ามันเท่าไหร่


พอยิ่งขยับเดินได้ด้วยนี่ มันแขยง ๆ ยังไงชอบกล



.

.

.

.






(เปรียบเทียบขนาดให้ดูกับเม้าท์ไซด์ปกติ)



ต้า : บังคับให้มันไปทางอื่นเด๋วนี้เลย!!









ทำธุระนู้นนี่เสร็จ มานั่งเล่นคอม สักพัก พี่อ้อเอาอีกแร่ะ
เริ่มบังคับให้มันค่อยๆกระดึ๊บ ๆเข้ามาหา


โวยวายไปที ก็บังคับให้มันกลับไปที







ต้าเดินไปในครัว เดินกลับออกมา ไม่ทันมองทาง
เกือบเหยียบเข้าไปเต็ม ๆ



ต้า : ไอ้พี่อ้อออออออออ ไอ้บร้านี่ พอเลย ๆ เด๋วจับโยนทิ้งหน้าต่างไปเลยนะ


พี่อ้อ : ^ ^ แกล้งดาร์ลิ๊งนี่มันสนุกจริงๆ 55555






………………………………………..







ต้า : พี่ พี่ว่ากีตาร์มันจะกลัวมั้ย ( แผนชั่วเริ่มก่อตัว )

พี่อ้อ : พี่ว่าไม่นะ กีตาร์มันชอบอะไรน่าเกลียด ๆ จะตายไป

ต้า : แต่ต้าว่าชีน่าจะกลัวนะ ยิ่งมันเคลื่อนไหวได้ด้วยอีก
ช่วงนี้ชีเซ้นซิทีฟจะตาย กลัวไปเรื่อย









เมื่อสมัยชียังเล็กมาก เพิ่งเริ่มคลาน ป้าอ้อมักจะซื้อตุ๊กตาน่ารัก ๆ มาให้ชีเสมอ

ชีไม่ปลื้มเลยสักตัว

แต่กลับชอบเล่นพวก ...






ถุงก๊อบแก๊บ
ป้าต้าเป่าให้พองๆแล้วโยนตบไปตบมา ชีจะชอบใจมาก หัวเราะเอิ๊กอ๊ากได้เป็นนานๆ จนอิป้ามันเบื่อ เลิกเล่นไปเอง



รองเท้า
ต้องคู่เน่า ๆด้วยนะ เอามาถือเล่น ไม่ก็คาบซะงั้น
(ชีไปจำพฤติกรรมใครมาน๊อ)



ถังขยะ
ถังขยะห้องเก่าอยู่ใต้oven มีที่ปิดเรียบร้อย
ชีก็ชอบไปแง้มเปิดออกมา สงสัยคิดว่าเป็นตู้กับข้าว



ห้องน้ำ
ชอบจริงๆ เผลอไม่ได้ ชีคลานหายไปในห้องน้ำ ผลุบเข้าผลุบออกอยู่อย่างนั้น
เอ๊ะ หรือว่ายังไม่อิ่ม



เล่นแต่ละอย่าง ช่างสมฐานะ ดูมีชาติตระกูลมั่ก ๆเลยหลานป้า






ป้าต้าสรุปว่าชีน่าจะกลัวเจ้าแมงมุมยักษ์ตัวนี้ ส่วนป้าอ้อคิดว่าไม่

แล้วน้า ๆ ป้าๆ ล่ะจ๊ะ คิดว่ายังไง??




ร่วมส่งความคิดเห็นของคุณได้โดยการกด ดอกจัน 789 (ไม่ใช่แร่ะ)

แค่เม้นท์ไว้ก็พอจ๊ะ แล้วเราจะไปหาคำตอบมาให้ อิ อิ

^^


วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Time

เย็นวันหนึ่ง....




เลิกงาน กลับบ้าน

วันนี้พี่อ้อเลิกเร็ว ถึงบ้านก่อน




ก่อนเข้าบ้าน ต้าแวะเปิด mail box หน้าตึก

ในใจนึกอยู่ว่า พี่อ้อน่าจะเปิดไปแล้ว

แต่ยังไงมิรู้ได้ ลองเปิดสักหน่อย เผื่อมีจดหมายตกค้าง





เปิดไปตู้ว่าง ไม่มีจดหมาย แต่...








เอ๊ะ ห่ออะไร ยาว ๆ ดำ ๆ

นึกไปว่า เด๋วนี้เค้ามีแจกของกันแบบนี้ด้วยรึ ปกติเห็นแต่ใบปลิว









หยิบออกมาดู เอ๊ะ ยี่ห้อนี่คุ้น ๆ

ยี่ห้อเดียวกับต่างหูเราที่ได้เมื่อตอนวาเลนไทน์นี่

ไหนลองเปิดห่อดูสิ














โอ๊ะ....โอ


ชัวร์แร่ะ แหมๆๆๆๆ แฟนใครหว่า น่ารักจริง





เดินยิ้มขึ้นตึกไป ไขประตูห้องไปปุ๊บ แกล้งทำเฉยๆ ได้สักนาที ก็หยิบของในห่อออกมาอวดพี่อ้อ






พี่อ้อ : ชอบป่ะคะ

ต้า : ชอบจ๊ะ อารมณ์ไหนเนี่ย แวะช๊อปนาฬิกามาให้

พี่อ้อ : เห็นว่ามันเก๋ ๆ ถ้าอยู่บนข้อมือตัวเองคงจะสวยดี

อีกอย่าง เด๋วจะหาว่าหลังๆ เค้าไม่ค่อยมีเซอร์ไพรส์ไรเลย


ต้า : แพงป่าว

พี่อ้อ : ไม่แพง ไว้ให้ดาร์ลิ๊งใส่เล่น ๆ

ต้า : เท่าไหร่

พี่อ้อ : ห้าสิบ

ต้า : ห๊า ห้าสิบ อู๊ยยยย แพง

พี่อ้อ : โห นาฬิกาเรือนละห้าสิบ ไม่ถือว่าแพงหรอกดาร์ลิ๊งงงง

















ถือเป็นนาฬิกาเรือนที่ 3 แล้ว ที่ได้จากพี่อ้อ

เรือนแรก ตอนวันเกิดปีก่อนนู้น

เรือนที่สอง นาฬิกาดอกไม้จากบูทงานมาร์ดิกา

แล้วก็เรือนนี้







.



.




.




.









สายเป็นลายฉลุๆ สวยเก๋

.



.




.


3 เรือน 3 สไตล์

จะใส่สลับๆกันไม่ให้เรือนไหนต้องน้อยใจนะจ๊ะ




ขอบคุณนะค่ะ...พี่อ้อ









ps. ให้นาฬิกา = ให้เวลา
เพราะฉะนั้น พี่ไม่เหลือเวลาพอจะใช้ร่วมกับใครอีกแล้วล่ะนะ... รู้เปล่า






...........................................................



--ตอบเม้นท์ที่เหลือ--


เต่านา
สุขภาพเราอ่ะพอได้
แต่พี่อ้อนี่สิ เริ่มเป็นไปตามวัย




เจ๊happy
ขอบคุณมากค่ะเจ๊
ไว้ต้าจะลองทำดู แต่ว่ากลัวอ่ะสิ
กลัวไม่มีใครมาเล่นง่ะ




เพื่อนเป็ด
ทุกวันนี้ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะมัวแต่หาข้ออ้างนี่ละค๊าคุณเพื่อน




คุณchocogirl
อยู่ที่นี่ไม่ค่อยมีเรื่องเครียดค่ะ
พอhappyดี ก็เลยเจริญอาหารพรวดๆไงค่ะ
เอาไว้ถ้าสุดจะทนรับสภาพตัวเองได้ แล้วจะสอบถามคุณแจงนะคะ
ขอบคุณจ๊ะ




คุณแหม่ม
เอาน่า อ้วนก็ยังน่ารักนะค่ะ


เหมือนคุณแหม่มใช่ป่าววว ^^


วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Fat Fat

อ้วน...อ้วน...และอ้วน




น้ำหนักแข่งกันขึ้นแบบกลัวจะน้อยหน้ากัน


วันก่อนเดินผ่านกระจกหน้าร้านขายของ พี่อ้อเห็นเงาตัวเองสะท้อนจากกระจกร้าน


พี่อ้อ : อ๋ายยยย ตัวเองดูดิ เค้าเหมือนหมาปั๊กเลยอ่ะ กลมไปหมดทั้งตัวแร๊ววววเนี่ย


ตัวเอ๊งงง เค้าจะลดความอ้วนอย่างจริงจัง!


( เห็นพูดมาไม่รู้กี่รอบแร่ะ จริงจังทุกรอบเลย )






ช่วงนี้พี่อ้อเลยฟิต ไปว่ายน้ำเกือบทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหนึ่งวันเป็นอย่างต่ำ


ส่วนใหญ่จะเป็นเย็นวันจันทร์ ต้าไปเรียน พี่อ้อเลิกงานเร็ว เลยไปว่ายน้ำ


ส่วนต้า เคยตามไปว่ายมาเมื่ออังคารก่อนนู๊นนนนน


วันเดียวจบ ยังไม่มีการไปอีก


ก็แหม ถึงใน Aquatic มันจะเป็นสระปรับอุณหภูมิ แต่ไอ้ช่วงก่อนลงสระกับหลังขึ้นมาเนี่ย


มันก็ยังทรมานใจอยู่ดี














นึกย้อนไปสมัยมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ


มาพร้อมกับน้ำหนัก 46-47 กิโลกรัม


ผ่านไปได้สักครึ่งปี น้ำหนักขึ้นฮวบ ๆ มาอยู่ที่ 50กว่า


พุ่งไปสูงสุดหยุดอยู่ที่ 54 โอ้ววววแม่เจ้า ทำไปได้


มากสุดแล้วในชีวิตนี้ ไม่ค่อยปล่อยให้อ้วนขนาดนี้มาก่อน


ครึ่งปี ได้เพิ่มมา 6-7 กิโลกรัม หน้ากลม เอวหนา






โบ๊ยให้เป็นความผิดของการทำงานร้านไทย เลิกงานดึก


ร้านปิดสี่ทุ่ม ถึงบ้านหิวซ่ก พี่อ้อเตรียมนู้นนี่ไว้ให้กิน


กินอย่างปล้น อิ่มพุงปลิ้น


อาบน้ำ แล้วนอน ไม่อ้วนก็ให้มันรู้ไปซี๊









พอออกจากร้านไทย ค่อยดีขึ้น น้ำหนักเริ่มลดลงมาเอง


มาตั้งหลักอยู่ที่ 52 ( เอาวะ 2 กิโลก็ดีใจเหลือหลาย )







คงที่อยู่อย่างนั้นจนมาช่วงกลับเมืองไทยเมื่อสิงหาปีที่แล้ว


กลับไปก็กิน กิน และกิน แม่เตรียมทุกอย่างที่อยากกินไว้ให้


แต่บ้านเราอากาศร้อน แค่เดินไปเซเว่นก็เหงื่อแตกพลั่กแล้ว


ได้เผาผลาญออกไปบ้าง ( ไม่เหมือนที่นี่ กว่าจะได้เหงื่อแต่ละเม็ด แทบจะวิ่งรอบโอเปร่าเฮ้าส์ )










กลับจากเมืองไทยมาชั่งน้ำหนักดูอีกที เหลือ 49 เอ๊ะ ก็กินเยอะ แต่ทำไมน้ำหนักลด


( ดีใจ๊ ดีใจ ) ตัวเริ่มเบา ๆ ใส่เสื้อผ้าสบายๆตัว


เริ่มขุดเอาเสื้อผ้าเก่ากลับมาใส่ได้ใหม่


ชะล่าใจ ก็เลย enjoy กับการกินยกใหญ่


ปกติก็กินเก่ง กินตลอดเวลา กินจนกว่าจะเข้านอน





พี่อ้อก็ไม่เคยห้ามปรามกัน มีแต่ชวนกันกิน


รู้สึกตัวอีกที ทำไมกางเกงเริ่มคับหว่า ไหนช่างน้ำหนักดูสิ


อ๊ายยยยยยย มันกลับมา 52 อีกแร๊วววววว


ง่ะ ทำไงดี ทำไงดี






กลุ้มสิ ที่ต้องกลุ้ม เพราะปัญหาก็คือ


อ้วนแล้วเสื้อผ้าที่มีอยู่บางตัวเริ่มใส่ไม่ได้ ใส่แล้วอึดอัด ใส่แล้วไม่สวย (อันนี้สำคัญ)


จะซื้อใหม่ก็ใช่ที่ เสื้อผ้าที่นี่ ไม่ได้ 199 ก็สวยได้เหมือนบ้านเรา


ไอ้ที่สวยก็ไม่ถูก ไอ้ที่ถูกก็ไม่สวย


ไม่อยากเบียดเบียนตังค์ในกระเป๋า เลยต้องใส่วนไปวนมาแค่ไอ้ตัวที่ใส่ได้แบบไม่อึดอัด





แล้วช่วงนี้อากาศหนาว ต้องใส่หลายชั้น ใส่แล้วเริ่มรู้สึกเหมือนหมีเข้าไปทุกที ทำไมกลมแบบนี้ฟร่ะ


บ่นไป กลุ้มไป แต่ก็ยังไม่หยุดกิน ยังคงเดินหน้ากินอย่างต่อเนื่อง


สี่ห้าทุ่ม นั่งดูหนังกัน อดใจไม่ได้ต้องเข้าครัวไปคุ้ยหาอะไรมากินกัน


ไอติม ช็อคโกแลต ขนมเค้ก มันฝรั่งถุง ของหวาน ของคาวทั้งหลาย







โอ๊ยยยยยยย ตัดใจจากอะไรไม่ได้สักอย่างเลยค๊า










.



.



.



.



.




รูปตอนมาใหม่ ๆ ดูแล้วเศร้าใจ T T






.



.



.



.


วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

love you...

Wed 12 August, 2009

11 pm. Sydney Time



ลูกสาว : ฮัลโหล สุขสันต์วันแม่นะจ๊ะ

แม่ : จ้า

ลูกสาว : มีความสุขมาก ๆ น๊า ร่างกายแข็งแรง

แม่ : จ้า ขอให้ลูกมีความสุขมากๆเหมือนกัน

ลูกสาว / แม่ : สัพเพเหระ บลา ๆๆๆๆๆๆๆ

ลูกสาว : โอเคนะแม่ แค่นี้แหล่ะจ๊ะ จะไปนอนแร่ะ

แม่ : จ๊ะ หวัดดีจ๊ะ

ลูกสาว : แม่....เลิฟยูน๊า

แม่ : จ้า..... ไอเลิฟยู จ๊ะ



^ ^


love you ... mom

xoxo

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

up and down

wed 29 July, 2009

เย็นนี้แม่อุ๊มีธุระ

เอาก้นดำมาฝากไว้กะป้าอ้อและป้าต้า 2-3 ชั่วโมง

กิจกรรมยามว่างของป้าหลานในวันนี้

ได้แก๊

v

v

v

อั๊พ แอ๊นด์ ด๊าว

v

v

ชุดสวยของก้นดำ อภินันทนาการจากป้าขวัญ (เพื่อนเลิฟของแม่อุ๊)

ใส่แล้วดูเป็นสาว ( กระแดะได้อี๊ก )