เสาร์ 8 พฤษภาคม 2010
5 โมง @ Kingford Smith Airport
เสร็จธุระที่เคาน์เตอร์ Emirates ภายใน 5 นาที
รวดเร็วเพราะเรา Check in online มาแล้ว
แค่โหลดกระเป๋า รับ boarding card เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
boarding time 6 โมงตรง ยังมีเวลาเหลือเฟือ
ไปแวะหาอะไรกินกันแบบชิล ๆ
6 โมง ยืนร่ำลากันอยู่หน้า Gate
คนมาส่งดูเศร้า ๆ แต่ยังตาใส
คนจะไปตาแดงๆ ร้องนำไปก่อนแล้ว
6 โมง 15 ต้องไปแล้วล่ะ
พี่อ้อยืนส่งจนลับสายตา
...............................
ล้อแตะรันเวย์สุวรรณภูมิ ตี 1พอดิบพอดี ตามเวลาประเทศไทย
1.40 ออกมาเจอเพื่อนที่จุดนัดพบตามเวลาที่คาดเดาไว้
ยืมโทรศัพท์เพื่อนส่ง sms หาพี่อ้อ ว่าถึงแล้วโดยสวัสดิภาพ
ตีสามของวันใหม่ ได้เวลาเข้านอน
...................................
อาทิตย์ 9 พฤษภาคม 2010
6.30 เราตื่นแล้ว แต่เพื่อนยังไม่ตื่น อืมม หลับต่อละกัน
7.30 เพื่อนตื่น เราตื่นด้วย
เพื่อนเปิดโทรศัพท์ปุ๊บ พี่อ้อโทรเข้ามาปั๊บ
ได้ความว่า sms ที่เราส่งไปนั้น มันไปไม่ถึง
พี่อ้อเลยกระสับกระส่าย ไม่ได้นอนเลยทั้งคืน
ตื่นเช้ามา โทรหาเพื่อนเราก็ไม่ติด รีบเปิดทีวี เปิดเน็ต เช็คข่าว
พี่อ้อสารภาพภายหลังว่า นาทีนั้น ความคิดนึงแว๊บเข้ามาในหัว
คิดไปว่า 'หากวันนั้นเราไม่มีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีก
พี่รู้สึกว่า พี่ยังไม่ได้ดูแลต้าให้มากพอเลย ถ้าไม่มีต้าแล้วพี่จะอยู่ต่อไปยังไง'
(หวานซ๊า แต่เอ.. พอได้กลับมาเจอกันจริง ๆแล้ว มันมากขึ้นตรงไหนหว่า )
................................
จันทร์ 10 พฤษภาคม 2010
ตี 5.10 นาที เราและเพื่อนทนายสาว (หล่อ) พร้อมออกเดินทาง
ตี 5.45 นาที ถึงสนามบินสุวรรณภูมิอีกครั้ง
check-in เรียบร้อย รอเครื่องออกตอน 6.30
.................................
7.50 ถึงสนามบินหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพ
จัดการหาอะไรใส่ท้องในมื้อเช้า
ทำธุระในตัวเมืองจนเกือบเที่ยง
แล้วเตรียมตัวไปศาลสงขลาตามเวลาที่นัดไว้ตอนบ่ายโมงตรง
26 กิโลฯ จากหาดใหญ่ ถึง สงขลา
..................................
ถือเป็นความรู้และประสบการณ์ใหม่ไว้ใส่สมอง
เคยเข้าใจไปว่า หากเราซึ่งเป็นทายาท น่าจะมีสิทธิโดยชอบธรรม
ในการเข้าแจ้งกับทางหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน
เพื่อขอเป็นผู้จัดการทรัพย์สินต่าง ๆ ของแม่ได้
ในเมื่อเราก็มีเอกสารต่าง ๆ ซึ่งสามารถยืนยันถึงความสัมพันธ์
อีกทั้งใบมรณบัตร ก็น่าจะเพียงพอ
ตั้งแต่แม่เสียเมื่อต้นปี เราเลยไปติดต่อทางธนาคาร ขอดูบัญชีของแม่
ซึ่งทุกธนาคาร ชี้แจงเหมือนกันว่า เราต้องมีเอกสารสำคัญซึ่งออกให้
โดยศาลจังหวัด แต่งตั้งให้เราเป็นผู้จัดการมรดก ซะก่อน
ถึงจะมีสิทธิในการทำธุรกรรมต่าง ๆ แทนแม่ได้
ถึงแม้ว่าทรัพย์สินนั้น จะมีมูลค่าเล็กน้อย หรือมากมายมหาศาลก็ตาม
เดือดร้อนให้เรา ต้องเดินทางกลับไทยอีกครั้งนึงในรอบนี้ เพื่อไปให้ศาล
ทำการไต่สวน ว่าเป็นทายาทจริง และไม่มีผู้คัดค้าน
เพื่อนอธิบายให้ฟังว่า ปกติเราจะต้องนั่งอยู่ตรงกลางห้องพิจารณา
ตรงเก้าอี้หน้าผู้พิพากษา แล้วเพื่อนก็จะยืนอยู่ด้านข้าง
ท่านก็จะไต่สวน ให้เราตอบทุกอย่างตามจริง
ฟังดูน่ากลัวเนอะ เหมือนไปทำผิดอะไรมา
แต่ในกรณีของเรา ไม่ได้มีโจทก์และจำเลย
เราถือเป็นผู้ร้อง เพื่อร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก
และด้วยรายละเอียดของเรา ก็ไม่น่าจะมีประเด็นอะไรให้ยุ่งยาก
เพราะเป็นบุตรเพียงคนเดียว และบิดาก็เสียไปนานแล้ว
ทายาทอีกคนซึ่งมีสิทธิในทรัพย์สินคือ อาม่า
ซึ่งหากไม่มีการคัดค้าน ก็ถือว่าไม่มีประเด็นอะไรให้วุ่นวาย
ท่านก็สามารถพิจารณาให้ออกเอกสารแต่งตั้งได้
เพื่อนบอกว่า ปกติถ้าเป็นศาลในกรุงเทพ อาจจะขอนัดเช้า แล้วเย็น
ก็รอรับเอกสารได้เลย แต่ที่สงขลานี่ เพื่อนเองก็ไม่แน่ใจ
บางจังหวัดอาจลากยาวเป็นอาทิตย์ หรือ สองอาทิตย์ก็มี
คิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเรื่องราวของเราไม่ได้ซับซ้อน ดูจะเบๆ เสียด้วยซ้ำ
หากท่านทำการไต่สวนแล้ว ก็จะน่าออกเอกสารให้ได้ในวันนี้เลย
หรือไม่ ก็น่าจะนัดให้มารับพรุ่งนี้เช้า
แต่.. ชีวิตตาต้า ไม่เคยมีอะไรได้มาง่าย ๆ
หรือจะถือเป็นความซวยของเราก็น่าจะได้ ที่..
นัดท่านผู้พิพากษาไว้วันนี้ บ่ายโมงตรง
บ่ายโมงครึ่ง หน้าบัลลังก์เดินเข้ามาบอกข่าวดีให้ทราบว่า
ท่านลาหยุดค่ะวันนี้ ( เออ ท่านคะ จะหยุดทำไมไม่รู้จักดูคิวงานก่อนละคะท่าน )
ต้า : เอ่อ แล้วปกติ ใช้เวลานานแค่ไหนค่ะ ในการออกเอกสาร
หน้าบัลลังก์ : อืมม ก็เป็นอาทิตย์อ่ะคะน้อง
ต้า : ช่วยเร่งให้สักหน่อยได้มั้ยค่ะ พอดีว่าไม่ได้อยู่ในเมืองไทย
ต้องรีบกลับไปหน่ะคะ แล้วนี่คุณทนายนัดวันให้ตั้งแต่เดือนมีนา ท่านก็มาลาซะอีก
หน้าบัลลังก์ : ก็ท่านไม่มาอ่ะคะ ต้องทิ้งเอกสารไว้
ขณะเดียวกัน เพื่อนก็ส่งซิกให้หย่อนค่าขนมให้ชีไป จะได้ง่ายขึ้น
ต้า : ช่วยหน่อยแล้วกันนะคะพี่ หนูยังต้องไปติดต่ออีกหลายที่เลยค่ะ
ที่สำคัญคือ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถ้าไม่มีเอกสารอันนี้ซะก่อน
ยังไง ขอเป็นพรุ่งนี้ได้มั้ยคะ
หน้าบัลลังก์ : พี่ก็อยากจะช่วยนะคะ แต่แหม ท่านก็ดันมาลา
แล้วพรุ่งนี้ พี่ก็ลาหยุดไว้ด้วยอ่ะคะ
เอ๋า....... ซวยซ้ำซ้อนอีกเรา
สรุปว่ากว่าท่านและหน้าบัลลังก์จะได้เจอกัน ก็วันพุธ
ต้า : งั้น ขอเป็นมารับเอกสารวันพุธได้มั้ยค่ะ
เพราะวันพฤหัสฯ เป็นวันพืชมงคล ราชการหยุดอีก
อย่างน้อย หนูจะได้ไปติดต่อธนาคารก็ยังดี
เพื่อน : งั้นรบกวนขอเบอร์ติดต่อพี่ไว้ได้มั้ยค่ะ จะได้โทรมาตามเรื่องได้
หน้าบัลลังก์สาว จดเบอร์มือถือพร้อมชื่อเล่นให้แต่โดยดี
เพื่อน : อันนี้เป็นสำนวนทั้งหมดนะคะ พิมพ์มาให้เรียบร้อยแล้ว
ชีรับเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบ แล้วขอเพิ่มเติมรายละเอียดบางอย่าง
เดือดร้อนให้เราและเพื่อน ต้องรีบบึ่งรถจากสงขลา กลับไปยังตัวเมืองหาดใหญ่
และรีบบึ่งกลับมาให้ทันก่อนเวลาเลิกงาน ซึ่งในขณะนั้น จวนเจียนจะบ่ายสามอยู่แล้ว
แต่เพื่อให้เรื่องราวของเอกสารเสร็จสิ้นครบถ้วนภายในวันนี้ จัดไปค่ะ
4.20 รถจอดติดไฟแดงอยู่สี่แยกไม่ใกล้จากศาล
เรารีบกดโทรศัพท์ไปหาชีเพื่อแจ้งให้ทราบว่าใกล้จะถึงแล้ว รอหน่อย รอหน่อย
4.35 เสร็จสิ้นเรื่องราวของเอกสารที่ยื่น
บอกชีไปว่า วันพุธจะโทรมาตามเรื่อง หากได้เอกสารเลยจะขอบพระคุณมาก
5.30 พาเพื่อนไปแวะหม่ำมื้อเย็นที่สะพานเปรมฯ เกาะยอ
ก่อนจะขับรถกลับไปตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อส่งเพื่อนกลับไปยังกรุงเทพฯ
ที่เหลือ เป็นเรื่องที่เราต้องจัดการเองทั้งหมด
.................................
สองทุ่มครึ่ง ตั่วกู๋มารับจากหาดใหญ่ ไปนอนบ้านอาม่า
บ้านอาม่าอยู่ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ไปร่วม 27 กิโลฯ
ตำบลพังลา บ้านคลองแงะ เป็นตำบลเล็กๆ ที่ไม่มีห้าง
มีแต่สวนยางเต็มสองข้างทาง แต่เด๋วนี้พัฒนา โรงงานผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
สามทุ่มนิด ๆ ถึงบ้านอาม่า อาม่าไม่อยู่บ้าน
น้าสาวคนเล็กมารับไปเที่ยวกระบี่หลายวันแล้ว
เพราะอาม่าอยู่บ้านแล้วเหงา ๆ เฉา ๆ คิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ
ตั่วกู๋บอกว่า อีกสองสามวันคงกลับ
ปกติจะนอนกับอาม่า แต่อาม่าล็อคห้อง เข้าไม่ได้
ไม่เป็นไร นอนมันกลางบ้านเลยละกัน
เหนื่อยจังวันนี้ นอนตรงไหนก็ได้แล้วเรา
................................