วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ประสบการณ์พลัดพราก @ สิงค์โปร์

June 07 , 2015


โปรแกรมวันนี้    เป็นวันของพี่อ้อ จะไปปล่อยแก่กันที่ Universal studio 
นั่งรถเมล์จากหน้าโรงแรม ชมวิวทิวทัศน์ของเมือง
น่าแปลกใจ ทำยังไงหนอ ทำไมบ้านนี้เมืองนี้ รถไม่ติดเลย
ครึ่งชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงหน้าห้าง Vivo City หรือย่าน Harbourfront

10.15 am        มาได้เวลาห้างเพิ่งเปิดพอดี
คนยังน้อย ๆ สี่สาวตรงดิ่งขึ้นไปชั้น 3 ที่หมายคือ   Foodrepublic





มื้อแรกเราจะฝากท้องกันไว้ที่นี่ ด้านในตกแต่งสไตล์จีนโบราณ 
เดินเข้าไปแล้วรู้สึกอยากจะตามหาก๊วยเจ๋งมานั่งหม่ำมื้อเช้าด้วยกัน 

















เดินวน 1 รอบ น่าจะเป็นอาหารพื้นเมืองของหลาย ๆ ชาติรวมกัน มาเลย์ อินโด จีน เกาหลี ประมาณนี้ 
พี่อ้อสะดุดกับเมนู ก๋วยเตี๋ยวไหหลำ ร้านนี้





ไหนลองสั่งมากินดูสิ   จะอร่อยเหมือนร้านประจำแถวสะพานขาวรึป่าว
ไม่รู้ใครเป็นต้นตำรับกว่ากัน จะว่าไปมันไม่เหมือนกันซะทีเดียว
ที่บ้านเราจะเครื่องเคราเยอะกว่านี้สักหน่อย 




เข้าปากคำแรก พี่อ้อถึงกับเพ้อ พร่ำชมจนหมดชาม อร่อยถูกใจเค้าจริง ๆ



อันนี้เห็นแล้วนึกถึงร้านข้าวต้มโต้รุ่งบ้างเราเลย   แต่ต่างกันตรงที่ อยากกินอะไรก็คีบใส่จานให้เค้าปรุงให้






    ชามนี้เป็นของรุ่นพี่สุดหล่อ  บะหมี่น้ำ ใส่ไข่ หมูสับ มีปลากรอบโรยหน้ามาด้วย




 กิมจิซุป  ปลาเล็กปลาน้อยในถ้วยนั่น ไม่ได้เผลอทำหกนะ   เค้าให้มาแค่นั้น จริง ๆ





                                 ร้านอาหารอินโด




               เมนูคล้าย ๆ ผัดผักบ้านเรา



                                จานนี้ของรุ่นพี่สุดสวย




 จะว่าไป อาหารการกิน ก็ไม่ต่างกันมากนักในเรื่องของวัตถุดิบ  แล้วแต่ว่าจะหนักไปทางรสชาติไหน





แก้วนี้ปลื้มอ่า น้ำอ้อย ผสม น้ำแห้ว  หอม ๆ อร่อยดี






ออกจากฟู๊ดคอร์ท เพื่อจะพบว่า ข้างนอกมีฝนพรำ ๆ ฟ้าครึ้ม เมฆตั้งเค้า 
อืมมมม รอแป๊บนึงละกัน เด๋วมันคงหยุด ระหว่างนี้ไปเดินดูของในห้างไปพลาง ๆ ก่อน 
เข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ เกือบชั่วโมงผ่านไป ยังคงตกอยู่ 
สมาชิกปรึกษากัน หรือเราจะมาใหม่พรุ่งนี้ดี ส่วนวันนี้ก็เปลี่ยนไปเที่ยวโปรแกรมของวันพรุ่งนี้แทน 


ว่าแล้วก็ตามนั้น เดินกลับไปขึ้น MRT เพื่อจะมุ่งหน้าไปเที่ยว Garden by the bay แทน
ระหว่างเดินตาม ๆ กันลงบันไดเลื่อน  เห็น MRT คันที่จอดอยู่ เป็นคันที่เราจะต้องขึ้นพอดี
หัวแถวนำด้วย พี่อ้อ เรา รุ่นพี่ทั้งสอง ซอยเท้ากึ่ง ๆ วิ่งลงบันได เพื่อไปให้ทันก่อนประตูปิด

และ... เมื่อพี่อ้อก้าว   เราก้าว เข้าพ้นประตูปั๊บ
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ฟึ่บ... ประตูปิด พร้อมกับที่เราทั้งสอง หันออกไปมองผ่านกระจกใส
เห็นหน้าเหวอ ๆ ของรุ่นพี่ทั้งสอง อยู่ที่ชานชาลา
รหัสลับสุดท้ายที่พี่อ้อพูดพร้อมส่งภาษามือออกไปคือ  " รอคันที่ 2 " 
ในขณะที่เรา สบตาพี่ๆ แว๊บสุดท้ายพร้อมบอกว่า   " ป้ายหน้า "

แย่แว๊ววววววว ที่แย่คือ เป็นคู่เราคู่เดียว ที่รู้ว่าเรากำลังจะไปลงสถานีไหน ต่อรถขบวนอะไร 
รุ่นพี่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย รู้แค่ว่า จะมาเที่ยวตามเรา เดินตามเรา อย่างเดียว
คู่เรา เลือกที่จะลงป้ายถัดไป เพื่อรอดูว่า พี่เค้าจะขึ้นขบวนถัดไปตามมามั้ย

เหมือนเป็นช่วงเวลาของการเดาใจกัน ด้วยสัญญาณสุดท้าย ว่าพี่ ๆ เค้าจะยังไงต่อ 
เราเลือกให้พี่อ้อรออยู่ที่ป้าย รอขบวนถัดไป เผื่อพี่เค้าจะตามมา
แล้วเราก็นั่งรถไฟกลับไปสถานทีเดิม เผื่อว่าเค้าจะรออยู่ที่เดิม 

สุดท้าย... ไม่เจอ ทั้งที่ป้ายเดิม และป้ายถัดมา
ตัดสินใจอีกครั้ง จากภาษามือ " 2 " ที่พี่อ้อทิ้งไว้ให้ นั่งรถไฟต่อไปอีกป้าย 
เผื่อว่าเค้าจะตีความหมายว่าเจอกัน ป้ายที่สอง    ลองดู 
ระหว่างรอก็คิดกันไปต่าง ๆ นา ๆ  เดาใจกันไปเรื่อย

รถไฟมา กระโดดขึ้น ใจจดจ่อ
พอรถเริ่มเทียบชานชาลา จากเร็ว เป็นชะลอ ช้าลง ๆ 
เพ่งมองผ่านกระจกรถไฟออกไป
แว๊บนึง เห็นหน้ารุ่นพี่ทั้งสอง มองจดจ่อเข้ามาในรถไฟด้วยเหมือนกัน 

สองสาวด้านใน กวักมือเรียก สองสาวด้านนอก ดีใจรีบวิ่งเข้ามา
โอ้โห อย่างกะในหนัง เหมือนพลัดพรากจากกันมาเป็นเวลานาน แล้วหวนมาเจอกันอีกครั้ง 
โผเข้ากอดกัน  สองรุ่นพี่หัวเราะไป น้ำตาไหลไป 555555 
อย่าถามว่าคนในรถขบวนเดียวกันนั้น ทำหน้าอย่างไร
ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ความระทึกใจในต่างแดน
หลังจากนั้น เวลาจะขึ้น ลง รถ เลยต้องให้แน่ใจ ว่าเราจะก้าวไป พร้อม ๆ กัน 5555 








Garden by the bay แบ่งสวนเป็น 2 โซน จะว่าไป มันก็ไม่มีอะไรมาก
เดินชมสวน ต้นไม้ ดอกไม้ เพลิน ๆ เย็น ๆ



























อันนี้เป็นเลโก้  เก่งอ่า ต่อซะเหมือนเลย























ง่ะ....



ถ้าเจอกลุ่มนี้ที่แอร์พอร์ต บอกเลยว่าพี่วิ่งสุดชีวิต




















จาก MRT bayfront นั่งรถไฟฟ้าต่อไปลง Esplanade Station
เพื่อจะเดินเล่นตรง Underground , ต่อเนื่องไป chinatown 
หาข้อมูลมาว่า ทางเดินตรง Underground ก็มีร้านรองเท้าอยู่อีกหนึ่งสาขาด้วยเหมือนกัน 
ออกจากรถไฟฟ้า เดินเจอร้านซูชิ ป้ายตัวบะเริ่มว่า ทุกจาน 1.50$ อย่ารอช้าสิค่ะ ตรงดิ่งไปเลย
จัดไปคนละหลายจาน อิ่มหนำ อร่อย ฟินนนน 

เดินต่อไปอีกนิด เจอร้านรองเท้าในดวงใจ ตรงดิ่งเข้าไปในทันใด
สแกนด้วยหัวใจก่อน 1 รอบ หัวใจพอง มีคู่ที่โดนใจ เด๋ววนกลับมาคัดกรองใหม่อีกที
คนไม่เยอะมาก เลือกลองได้ตามสบาย ในที่สุด สอยมา 3 คู่ ในราคาสามพันต้น ๆ
เก็บใบเสร็จไปทำ tax refund ได้อีกหน่อย

นั่ง MRT ต่ออีกหน่อย ไปลง chinatown เที่ยวชมชีวิตยามค่ำคืน 




เหนื่อยล้าพอแล้วสำหรับวันนี้ กลับโรงแรม ไปชื่นชมรองเท้าต่อด้วยความสุขใจ
ในที่สุด ก็ได้คู่ ( ขา ) ที่เค้าคู่ควร  อ่าาาาาา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น