วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ตามหาคู่ ( ขา ) @ สิงค์โปร์

June 05 , 2015


เพิ่งจะอันแพ็คกระเป๋าจากทริปเจแปนได้แพร๊บนึง  ถึงเวลาต้องจัดเป๋าใหม่อีกล๊าววววว 

ทริปนี้เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ  จดจ้องโปรแอร์เอเชีย จองตั๋ว จองที่พักไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว 
ได้ตั๋วเครื่องบินรวมค่าโหลดกระเป๋า ค่าเลือกที่นั่ง นู้นนี่ ไป-กลับ เบ็ดเสร็จแล้วคนละ 3,225 บาท
ถือเป็นราคาที่รับได้

จองโรงแรมผ่านอโกด้า เลือกพักที่ Champion Hotel ย่าน East Coat
ค่าที่พัก คืนละ 2 พันหน่อย ๆ พักที่เดียวกันทั้ง 2 คืน

ตอนแรกกะเปลี่ยนโรงแรม เผื่อที่พักไม่ดี จะได้มีลุ้นอีกที่ 
คิดอีกที ขี้เกียจเก็บของ แล้วยังต้องลากสัมภาระไปด้วย กว่าจะได้ check in อีกที่ เอาวะ วัดดวง 

จุดมุ่งหมายของเราค่อนข้างชัดเจน
ร้านรองเท้า Charles & Keith และ Universal studio


ต้นปี  มีรุ่นพี่ขอติดสอยห้อยตามไปเที่ยวด้วยอีก 2 คน
จัดแจงจองตั๋วเพิ่ม ที่พักเพิ่ม โชคดี ที่โรงแรมยังมีห้องว่าง เลยได้พักที่เดียวกัน ชั้นเดียวกัน

ก่อนเดินทางอาทิตย์นึง   หาข้อมูลท่องเที่ยวจากรีวิวบ้าง หนังสือบ้าง ศึกษาเส้นทางที่จะต้องไป 
ตั้งใจว่าจะไม่ซื้อ sim เพราะไปด้วยกัน ไม่มีความจำเป็นต้องโทรกลับไทย 
ส่วน net ก็กะอาศัย wifi ฟรีที่โรงแรมใช้เอา
หาข้อมูลเดินทางให้เยอะหน่อย สิงค์โปร์เมืองเล็ก ๆ แล้วก็ใช้ภาษาอังกฤษ คงไม่น่ากังวล 


อีกภารกิจสำคัญ ก่อนการเดินทาง คือหาที่ฝากหมาเน่า
ซึ่ง... พี่อ้อไม่อยากฝากไว้ตามคลีนิค หรือ pet shop    เพราะเค้าจะให้อยู่ในกรงตลอดเวลา 
รู้เลยว่าทองทองจะต้องโหยหวน  ทุรนทุรายขนาดไหน
เพราะนางเคยชินกับการได้วิ่ง เดิน เล่น ตามอัธยาศัย 
แล้วด้วยความที่กลัวหมาเน่าจะจิตตก เลยเสริซหาที่รับฝากหมาละแวกบ้าน ที่ไม่ขังไว้ตลอดเวลา 

ความตั้งใจแรก กะจะฝากฝังไว้กับครูที่ฝึกทองทอง ที่คลิกเกอร์ด็อก
โป๊ะเช๊ะ  ดันเป็นอาทิตย์ที่ครูก็ไม่อยู่บ้าน  งดรับฝากอาทิตย์นั้นด้วยพอดี

ลองไป cotton dog   เค้าบอกอ้อม ๆ แต่แปลความได้ว่า ไม่สะดวกรับฝากหมาไทย
สุดท้าย  ก็ได้ที่ love me love my pet   ที่เคยเขียนถึงไปเมื่อตอน ทองทองไปโรงเรียน 2 

ด้วยความที่เราต้องเดินทางกันแต่เช้ามืดวันเสาร์  พี่อ้อเลยต้องเอานางไปฝากไว้ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ 
กลับมาบ้าน ไม่เห็นนาง ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เล่น ไม่น่าเชื่อ   โคตร.. คิดถึงหมาเน่า


June 06 , 2015


ออกจากบ้านตั้งแต่ยังไม่ตี 5 ดี   เพื่อแวะไปรับรุ่นพี่ ก่อนตรงดิ่งไปสนามบินดอนเมือง 
เอารถไปจอดอาคารจอดรถ เสียค่าจอดวันละ 250
กะเวลาว่าไปถึง check in โหลดกระเป๋า น่าจะมีเวลาเหลือพอให้หาไรกิน ชิล ๆ 

แต่ความเป็นจริง เสียเวลากับด่านตรวจคนออกนอกประเทศเกินครึ่ง ชม
แถวขยับช้ามากกก  กว่าจะหลุดเข้าไปด้านในได้  รีบหาอะไรรองท้อง
แล้ววิ่งไปขึ้นบัสแทบจะเป็นกลุ่มสุดท้าย  ทำเอาเสียพลังงานแต่เช้า


10.25    ตามเวลาสิงค์โปร์ อากาศวันนี้ ไม่ร้อนมากนัก สบายกว่าไทยหน่อยนึง 
รับสัมภาระเรียบร้อย  เริ่มเดินทางตามข้อมูลที่หามา
ให้นั่ง Sky Train ( ฟรี ) เพื่อมุ่งหน้าไป Terminal 2

ถึง Terminal 2 ก็จัดแจงลงไปชั้นล่างเพื่อหาซื้อตั๋วสำหรับการเดินทางตลอดทริปนี้
เราเลือกซื้อตั๋ว Singapore tourist pass สำหรับ 3 วัน
ขึ้นได้ทั้ง Bus และ MRT ราคา $20   มัดจำบัตร  $10    คืนเงินเมื่อคืนบัตร





ตอนแรกลังเลระหว่างตั๋วแบบ   EZ link ที่ใช้เติมเงิน
แต่คิด ๆ ดูแล้ว ซื้อเหมาเลยน่าจะเหมาะกับพวกเรามากกว่า
เผื่ออยากแวะระหว่างทาง เผื่อหลง จะได้ไม่ต้องกังวล ขึ้นลงกันเต็มที่ 

ได้ตั๋วเรียบร้อย ก็ลากกระเป๋าไปรอขึ้นรถเมล์ ที่ Bus Station 





จากสนามบินไปโรงแรม   ถ้านั่ง MRT จะเดินไกลหน่อย
เลยเลือกนั่งรถเมล์ดีกว่า เดินใกล้ แถมได้ดูวิวด้วย
นั่งรถเมล์ที่นี่ นึกถึงรถเมล์ที่ซิดนีย์ คล้าย ๆ กันเลย
สะอาด ใหม่ คนขับมีวินัย ขึ้น ลง ตรงป้าย เป๊ะ ๆ ไม่มีแถม


ถึงโรงแรม  จัดการ check in   ปกติให้เข้าบ่าย 2 แต่ห้องคงว่าง ให้เข้าห้องได้เลย




                                  Internet Zone บริเวณ Lobby โรงแรม




                                               Lobby




                                                  Lobby




Lobby




ห้องพัก 




                                          ห้องพัก




                                    ตู้เสื้อผ้า แบบไม่มีหน้าบาน






ห้องน้ำ เล็ก แต่ ครบครัน








เรียบร้อยเรื่องที่พัก ก็เตรียมตัวออกเดินทางไปจุดมุ่งหมายหลัก 
แต่ก่อนเดินทาง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ออกจากโรงแรมปุ๊บ เลือกฝากท้องไว้ร้านอาหารข้าง ๆ โรงแรม 
ทริปนี้ เรื่องของอาหารการกิน ตั้งใจจะไม่ตามรอยรีวิว เจอร้านไหนน่าสนใจ สมาชิกเห็นพ้อง ก็จัดเลย 

ชื่อร้าน Kampong Cafe ตกแต่งร้านด้วยสไตล์ไหน ไม่สามารถระบุชัดได้ ดูเป็นอินโด+มาเลย์ 
สั่งกันมาคนละจาน  สำหรับเราถือว่าพลาด เค้าจัดเยอะ จัดใหญ่
จริง ๆจานนึงก็แชร์กันก็ได้ จะได้อิ่มสบายกำลังดี



      Pattaya Fried rice  ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเกี่ยวกะ พัทยาตรงไหน
      แต่จัดว่ารสชาติดี ข้าวผัดหอมกลิ่นเนย ๆ อร่อยดี



        Tomyum Fried rice   ใส่เครื่องหลากหลาย มั่วมาก มีลูกชิ้นปลาเส้นด้วย





อันนี้คล้าย ๆ หมี่กรอบราดหน้าของบ้านเรา แต่เส้นจะออกเค็มกว่านิดนึง




Milk tea  หวังไว้ว่าคงจะอร่อยเหมือนชาชัก  
เค้าคงชักหลายรอบไปหน่อย จางงงงงงง เชียว




อิ่มแล้วก็ออกเดินทาง จุดมุ่งหมายอยู่ที่ Queenstown Station
เพื่อจะไปร้านรองเท้าที่เค้าว่าเป็น outlet อยู่ในห้าง Anchorpoint





ดั้นด้นมาเพื่อจะพบว่า  ร้านเล็กกระจิดนึง
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที กวาดสายตาครบถ้วน ทุกคู่   ทุก shelf
ผิดหวัง  ไม่มีคู่ไหนเตะตา โดนใจ   แบบว่า แค่ชอบนิด ๆ ยังไม่มีเลย   T T

ไม่ให้เสียเวลา เดินทางต่อไป chinatown station เพื่อไปซื้อตั๋วเข้า USS กับ Garden by the bay
เค้าว่าซื้อที่เอเจ่น sea wheel  ในห้าง  people park จะได้ราคาที่ดีที่สุด

ไปถึงร้าน ลองเดินเปรียบเทียบราคากับร้านจีนอีกร้านนึง
สรุปว่า sea wheel ถูกกว่าจริง ๆ ได้มาในราคาใบละ $62 ได้คูปองอาหาร $5 กับคูปองซื้อของอีก $5 
ส่วนค่าเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์ 2 โซน ได้มาที่ $18

ซื้อตั๋วเรียบร้อย นั่ง MRT ต่อ ไปลงที่ bayfront station จุดมุ่งหมายอยู่ที่ห้าง The Shoppe
การเดินทางที่นี่  สะดวกมากถึงมากที่สุด เชื่อมกันได้หมดทุกทิศทาง 
โผล่จาก MRT เดินเชื่อมต่อเข้ามาถึงกลางห้างเลย







เขา  อิง  กัน  
 ( จริง ๆ คือไร ปวดขางี้ )




เหมือนมีเรดา  สายตาผลันเหลือบไปเห็นร้านโปรดทันทีแบบไม่ต้องเดินหา
ร้านใหญ่กว่าที่แรกเท่านึงได้ ขนาดพอ ๆ กับร้านในห้างบ้านเรา หรืออาจจะใหญ่กว่าหน่อยนึง
เดินวน ๆ ถูกใจบ้าง แต่ไม่มาก ราคาก็ไม่ได้ลดมากอย่างที่คิด 
ตัดสินใจเล็ง ๆ ไว้เป็นทางเลือกก่อน แต่ยังไม่ซื้อ  ยังมีเวลาอีก 2 วัน

เดินเล่นชิล ๆ จนไปเจอร้านหลุยส์วิดตอง รุ่นพี่ขอแวะเข้าไปเยี่ยมชมสักหน่อย 
ต๊าย ตาย ถือเป็นครั้งแรกของเราที่ได้เข้าแบรนด์นี้ ไหนดูสิ แพงอะไรนักหนา 
น่าจะเป็น shop ใหญ่ เพราะมีตั้ง 3 ชั้น รุ่นพี่ได้กระเป๋าราคาตามงบ สำหรับให้ลูกค้ามาเรียบร้อย 
เดินทะลุออกมานอกร้านที่ชั้น 3   เจอวิวของ Marina Bay พอดี  วิวค่ำคืนสวยงาม



            พวกเราเดินโผล่ออกมาจากประตูตรงบันไดนั่นหล่ะ
















นึกขึ้นได้ ลองเช็คข้อมูลที่หามา เค้าว่าจะมีโชว์ Wonder full รอบแรกตอน 2 ทุ่ม
ใกล้ได้เวลาพอดี ว่าแล้วก็จับจองที่นั่ง รอดูโชว์ฟรี 



   
             จับจองที่นั่ง รอชมโชว์ฟรี





             เริ่มล๊าววววว
         




         ถ่ายทอดเรื่องราว เข้ากับสถานการณ์ซีเกมส์ช่วงนี้ด้วย




โชว์จบ อย่างหิว เดินกลับเข้าไปในห้าง ตรงดิ่งไปฟู๊ดคอร์ท หาซื้อไรหม่ำกัน




             เมนูของรุ่นพี่  ของเราเป็นราเมงร้านญี่ปุ่น ถ่ายไม่ทัน หิวเกิ๊น




         ลานหน้าฟู๊ดคอร์ท คาดว่าเป็นลานไอซ์สเก็ต แต่ตอนนี้ปิด สงสัยน้ำแข็งหมด





ออกจากห้าง เกือบจะ 4 ทุ่มนั่ง   MRT ไปลงที่   Paya lebar Station
พาสังขารเดินต่อไปยังโรงแรม   ผ่านหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต Fair price ขอโฉบเข้าไปนิดนึง
สำรวจตลาด เรียกว่าโฉบจริง ๆ เพราะอีก 5 นาที เค้ากำลังจะปิด
สอยน้ำส้ม กับโยเกริต์ มาคนละขวด 2 ขวด สบายใจ 
กลับถึงห้องพักกันแบบกระปลกกระเปรี้ย ได้เวลาพักร่างกันเถอะเรา

พรุ่งนี้จะได้มีแรงตามหาคู่ ( ขา )  กันต่อไป ฮู๊ ฮู๊

กู๊ดไนท์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น