เพิ่งจะอันแพ็คกระเป๋าจากทริปเจแปนได้แพร๊บนึง ถึงเวลาต้องจัดเป๋าใหม่อีกล๊าววววว
ทริปนี้เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ จดจ้องโปรแอร์เอเชีย จองตั๋ว จองที่พักไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ได้ตั๋วเครื่องบินรวมค่าโหลดกระเป๋า ค่าเลือกที่นั่ง นู้นนี่ ไป-กลับ เบ็ดเสร็จแล้วคนละ 3,225 บาท
ถือเป็นราคาที่รับได้
จองโรงแรมผ่านอโกด้า เลือกพักที่ Champion Hotel ย่าน East Coat
ค่าที่พัก คืนละ 2 พันหน่อย ๆ พักที่เดียวกันทั้ง 2 คืน
ตอนแรกกะเปลี่ยนโรงแรม เผื่อที่พักไม่ดี จะได้มีลุ้นอีกที่
คิดอีกที ขี้เกียจเก็บของ แล้วยังต้องลากสัมภาระไปด้วย กว่าจะได้ check in อีกที่ เอาวะ วัดดวง
จุดมุ่งหมายของเราค่อนข้างชัดเจน
ร้านรองเท้า Charles & Keith และ Universal studio
ต้นปี มีรุ่นพี่ขอติดสอยห้อยตามไปเที่ยวด้วยอีก 2 คน
จัดแจงจองตั๋วเพิ่ม ที่พักเพิ่ม โชคดี ที่โรงแรมยังมีห้องว่าง เลยได้พักที่เดียวกัน ชั้นเดียวกัน
ก่อนเดินทางอาทิตย์นึง หาข้อมูลท่องเที่ยวจากรีวิวบ้าง หนังสือบ้าง ศึกษาเส้นทางที่จะต้องไป
ตั้งใจว่าจะไม่ซื้อ sim เพราะไปด้วยกัน ไม่มีความจำเป็นต้องโทรกลับไทย
ส่วน net ก็กะอาศัย wifi ฟรีที่โรงแรมใช้เอา
หาข้อมูลเดินทางให้เยอะหน่อย สิงค์โปร์เมืองเล็ก ๆ แล้วก็ใช้ภาษาอังกฤษ คงไม่น่ากังวล
อีกภารกิจสำคัญ ก่อนการเดินทาง คือหาที่ฝากหมาเน่า
ซึ่ง... พี่อ้อไม่อยากฝากไว้ตามคลีนิค หรือ pet shop เพราะเค้าจะให้อยู่ในกรงตลอดเวลา
รู้เลยว่าทองทองจะต้องโหยหวน ทุรนทุรายขนาดไหน
เพราะนางเคยชินกับการได้วิ่ง เดิน เล่น ตามอัธยาศัย
แล้วด้วยความที่กลัวหมาเน่าจะจิตตก เลยเสริซหาที่รับฝากหมาละแวกบ้าน ที่ไม่ขังไว้ตลอดเวลา
ความตั้งใจแรก กะจะฝากฝังไว้กับครูที่ฝึกทองทอง ที่คลิกเกอร์ด็อก
โป๊ะเช๊ะ ดันเป็นอาทิตย์ที่ครูก็ไม่อยู่บ้าน งดรับฝากอาทิตย์นั้นด้วยพอดี
ลองไป cotton dog เค้าบอกอ้อม ๆ แต่แปลความได้ว่า ไม่สะดวกรับฝากหมาไทย
สุดท้าย ก็ได้ที่ love me love my pet ที่เคยเขียนถึงไปเมื่อตอน ทองทองไปโรงเรียน 2
ด้วยความที่เราต้องเดินทางกันแต่เช้ามืดวันเสาร์ พี่อ้อเลยต้องเอานางไปฝากไว้ตั้งแต่เย็นวันศุกร์
กลับมาบ้าน ไม่เห็นนาง ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เล่น ไม่น่าเชื่อ โคตร.. คิดถึงหมาเน่า
June 06 , 2015
ออกจากบ้านตั้งแต่ยังไม่ตี 5 ดี เพื่อแวะไปรับรุ่นพี่ ก่อนตรงดิ่งไปสนามบินดอนเมือง
เอารถไปจอดอาคารจอดรถ เสียค่าจอดวันละ 250
กะเวลาว่าไปถึง check in โหลดกระเป๋า น่าจะมีเวลาเหลือพอให้หาไรกิน ชิล ๆ
แต่ความเป็นจริง เสียเวลากับด่านตรวจคนออกนอกประเทศเกินครึ่ง ชม
แถวขยับช้ามากกก กว่าจะหลุดเข้าไปด้านในได้ รีบหาอะไรรองท้อง
แล้ววิ่งไปขึ้นบัสแทบจะเป็นกลุ่มสุดท้าย ทำเอาเสียพลังงานแต่เช้า
10.25 ตามเวลาสิงค์โปร์ อากาศวันนี้ ไม่ร้อนมากนัก สบายกว่าไทยหน่อยนึง
รับสัมภาระเรียบร้อย เริ่มเดินทางตามข้อมูลที่หามา
ให้นั่ง Sky Train ( ฟรี ) เพื่อมุ่งหน้าไป Terminal 2
ถึง Terminal 2 ก็จัดแจงลงไปชั้นล่างเพื่อหาซื้อตั๋วสำหรับการเดินทางตลอดทริปนี้
เราเลือกซื้อตั๋ว Singapore tourist pass สำหรับ 3 วัน
ขึ้นได้ทั้ง Bus และ MRT ราคา $20 มัดจำบัตร $10 คืนเงินเมื่อคืนบัตร
ตอนแรกลังเลระหว่างตั๋วแบบ EZ link ที่ใช้เติมเงิน
แต่คิด ๆ ดูแล้ว ซื้อเหมาเลยน่าจะเหมาะกับพวกเรามากกว่า
เผื่ออยากแวะระหว่างทาง เผื่อหลง จะได้ไม่ต้องกังวล ขึ้นลงกันเต็มที่
ได้ตั๋วเรียบร้อย ก็ลากกระเป๋าไปรอขึ้นรถเมล์ ที่ Bus Station
จากสนามบินไปโรงแรม ถ้านั่ง MRT จะเดินไกลหน่อย
เลยเลือกนั่งรถเมล์ดีกว่า เดินใกล้ แถมได้ดูวิวด้วย
นั่งรถเมล์ที่นี่ นึกถึงรถเมล์ที่ซิดนีย์ คล้าย ๆ กันเลย
สะอาด ใหม่ คนขับมีวินัย ขึ้น ลง ตรงป้าย เป๊ะ ๆ ไม่มีแถม
ถึงโรงแรม จัดการ check in ปกติให้เข้าบ่าย 2 แต่ห้องคงว่าง ให้เข้าห้องได้เลย
Internet Zone บริเวณ Lobby โรงแรม
Lobby
Lobby
Lobby
ห้องพัก
ห้องพัก
ห้องน้ำ เล็ก แต่ ครบครัน
เรียบร้อยเรื่องที่พัก ก็เตรียมตัวออกเดินทางไปจุดมุ่งหมายหลัก
แต่ก่อนเดินทาง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ออกจากโรงแรมปุ๊บ เลือกฝากท้องไว้ร้านอาหารข้าง ๆ โรงแรม
ทริปนี้ เรื่องของอาหารการกิน ตั้งใจจะไม่ตามรอยรีวิว เจอร้านไหนน่าสนใจ สมาชิกเห็นพ้อง ก็จัดเลย
ชื่อร้าน Kampong Cafe ตกแต่งร้านด้วยสไตล์ไหน ไม่สามารถระบุชัดได้ ดูเป็นอินโด+มาเลย์
สั่งกันมาคนละจาน สำหรับเราถือว่าพลาด เค้าจัดเยอะ จัดใหญ่
จริง ๆจานนึงก็แชร์กันก็ได้ จะได้อิ่มสบายกำลังดี
Pattaya Fried rice ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเกี่ยวกะ พัทยาตรงไหน
แต่จัดว่ารสชาติดี ข้าวผัดหอมกลิ่นเนย ๆ อร่อยดี
อันนี้คล้าย ๆ หมี่กรอบราดหน้าของบ้านเรา แต่เส้นจะออกเค็มกว่านิดนึง
Milk tea หวังไว้ว่าคงจะอร่อยเหมือนชาชัก
เค้าคงชักหลายรอบไปหน่อย จางงงงงงง เชียว
เพื่อจะไปร้านรองเท้าที่เค้าว่าเป็น outlet อยู่ในห้าง Anchorpoint
ดั้นด้นมาเพื่อจะพบว่า ร้านเล็กกระจิดนึง
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที กวาดสายตาครบถ้วน ทุกคู่ ทุก shelf
ผิดหวัง ไม่มีคู่ไหนเตะตา โดนใจ แบบว่า แค่ชอบนิด ๆ ยังไม่มีเลย T T
ไม่ให้เสียเวลา เดินทางต่อไป chinatown station เพื่อไปซื้อตั๋วเข้า USS กับ Garden by the bay
เค้าว่าซื้อที่เอเจ่น sea wheel ในห้าง people park จะได้ราคาที่ดีที่สุด
ไปถึงร้าน ลองเดินเปรียบเทียบราคากับร้านจีนอีกร้านนึง
สรุปว่า sea wheel ถูกกว่าจริง ๆ ได้มาในราคาใบละ $62 ได้คูปองอาหาร $5 กับคูปองซื้อของอีก $5
ส่วนค่าเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์ 2 โซน ได้มาที่ $18
ซื้อตั๋วเรียบร้อย นั่ง MRT ต่อ ไปลงที่ bayfront station จุดมุ่งหมายอยู่ที่ห้าง The Shoppe
การเดินทางที่นี่ สะดวกมากถึงมากที่สุด เชื่อมกันได้หมดทุกทิศทาง
โผล่จาก MRT เดินเชื่อมต่อเข้ามาถึงกลางห้างเลย
เขา อิง กัน
( จริง ๆ คือไร ปวดขางี้ )
เหมือนมีเรดา สายตาผลันเหลือบไปเห็นร้านโปรดทันทีแบบไม่ต้องเดินหา
ร้านใหญ่กว่าที่แรกเท่านึงได้ ขนาดพอ ๆ กับร้านในห้างบ้านเรา หรืออาจจะใหญ่กว่าหน่อยนึง
เดินวน ๆ ถูกใจบ้าง แต่ไม่มาก ราคาก็ไม่ได้ลดมากอย่างที่คิด
ตัดสินใจเล็ง ๆ ไว้เป็นทางเลือกก่อน แต่ยังไม่ซื้อ ยังมีเวลาอีก 2 วัน
เดินเล่นชิล ๆ จนไปเจอร้านหลุยส์วิดตอง รุ่นพี่ขอแวะเข้าไปเยี่ยมชมสักหน่อย
ต๊าย ตาย ถือเป็นครั้งแรกของเราที่ได้เข้าแบรนด์นี้ ไหนดูสิ แพงอะไรนักหนา
น่าจะเป็น shop ใหญ่ เพราะมีตั้ง 3 ชั้น รุ่นพี่ได้กระเป๋าราคาตามงบ สำหรับให้ลูกค้ามาเรียบร้อย
เดินทะลุออกมานอกร้านที่ชั้น 3 เจอวิวของ Marina Bay พอดี วิวค่ำคืนสวยงาม
พวกเราเดินโผล่ออกมาจากประตูตรงบันไดนั่นหล่ะ
นึกขึ้นได้ ลองเช็คข้อมูลที่หามา เค้าว่าจะมีโชว์ Wonder full รอบแรกตอน 2 ทุ่ม
ใกล้ได้เวลาพอดี ว่าแล้วก็จับจองที่นั่ง รอดูโชว์ฟรี
จับจองที่นั่ง รอชมโชว์ฟรี
เริ่มล๊าววววว
ถ่ายทอดเรื่องราว เข้ากับสถานการณ์ซีเกมส์ช่วงนี้ด้วย
โชว์จบ อย่างหิว เดินกลับเข้าไปในห้าง ตรงดิ่งไปฟู๊ดคอร์ท หาซื้อไรหม่ำกัน
เมนูของรุ่นพี่ ของเราเป็นราเมงร้านญี่ปุ่น ถ่ายไม่ทัน หิวเกิ๊น
ลานหน้าฟู๊ดคอร์ท คาดว่าเป็นลานไอซ์สเก็ต แต่ตอนนี้ปิด สงสัยน้ำแข็งหมด
ออกจากห้าง เกือบจะ 4 ทุ่มนั่ง MRT ไปลงที่ Paya lebar Station
พาสังขารเดินต่อไปยังโรงแรม ผ่านหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต Fair price ขอโฉบเข้าไปนิดนึง
สำรวจตลาด เรียกว่าโฉบจริง ๆ เพราะอีก 5 นาที เค้ากำลังจะปิด
สอยน้ำส้ม กับโยเกริต์ มาคนละขวด 2 ขวด สบายใจ
กลับถึงห้องพักกันแบบกระปลกกระเปรี้ย ได้เวลาพักร่างกันเถอะเรา
พรุ่งนี้จะได้มีแรงตามหาคู่ ( ขา ) กันต่อไป ฮู๊ ฮู๊
กู๊ดไนท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น