วันสุดท้ายแล้ว เริ่มต้นวันทุกอย่าง เหมือนเดิมอย่างเมื่อวาน
นั่งรถเมล์ป้ายเดิม สายเดิม ลงที่เดิม กินข้าวที่เดิม
และ... พี่อ้อเลือกกินเมนูเดิม เอร๊ยยยยย เค้าถูกใจของเค้าจริง ๆ
พี่แกบอกว่า ร้านที่บ้านเรา อร่อย แต่กินแล้วหิวน้ำมากมาย
ร้านเค้าใจป้ำ ไม่หวงผงชูรส
แต่ที่นี่ กินแล้วไม่กระหายน้ำ อร่อยแบบรู้สึกดี
ผงชูรสเค้าคงแพง คงแอบหวงไว้กินเอง
วันนี้เราเลือกลองข้าวมันไก่ที่ใคร ๆ เค้าว่ามาสิงค์โปร์แล้วต้องกิน
มาเป็นเซ็ต มีผักน้ำมันหอยมาให้ด้วย
คือ ส่วนตัวเลย กินข้าวมันไก่แถวบ้านก็ได้นะ
ถูกปากคนไทยฝ่า เชื่อเค้าเห๊อะ
เมื่อวาน แผนล่ม เพราะฝนพรำ วันนี้หล่ะ หนักกว่าเมื่อวาน
หมายถึงฝนนั่นหล่ะ ตกหนักกว่าเมื่อวานอี๊กกกกกก
แต่ the show must go on คืนนี้จะกลับแล้ว ตั๋ว 62$ แหน่ะ
ต่อให้มีพายุมาก็ต้องเข้าไปแมะ
จะว่าไป ก็ไม่เลวร้ายนัก ฝนเริ่มหยุดตอนไปถึงทางเข้า
มีปรอย ๆ พรำ ๆ ให้ฉ่ำเย็นเป็นระยะ ๆ
สลับกับมีแดดโผล่มาบ้างให้พอถ่ายรูปสวย ๆ
วันนี้วันจันทร์ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังแน่น
เห็นคิวแต่ละจุดก็ถอดใจ
อันแรกที่จับพลัดจับพลูได้อยู่หัวแถว ปราสาทของเชร็ค
เป็นครั้งแรกสำหรับหนัง 4D
ตอนเข้าไปก็ไม่ได้สังเกต เริ่มรู้สึกตัวตอนที่เก้าอี้มันโยก
พี่อ้อขำ เพราะเราดันหันไปมองคนข้างหลัง
นึกว่ามีคนเตะเก้าอี้เล่น
จนมันเริ่มโยกรุนแรงตอนฉากควบม้า
แถมมีน้ำมูกของเจ้าหญิง สาดกระเด็นโดนนั่นหล่ะ ถึงได้เข้าใจ
อีกอันนึง เป็นการแสดงจากหนังเรื่อง Water world
เวลาที่เหลือก็ เดินให้ทั่ว ๆ ถ่ายรูป ชมบรรยากาศ
รุ่นพี่แปลกใจ ทำไมอ้อไม่เล่นเครื่องเล่นหล่ะ
อ้อกลัวความสูงอ่ะพี่
อ๊าววววว แล้วมาเที่ยวสวนสนุกทำไม
อ้อไม่ได้ชอบเล่นเครื่องเล่น แต่อ้อชอบบรรยากาศของสวนสนุก
ตามนั้นนะพี่นะ
หลังจากเดินดื่มด่ำกับบรรยากาศของสวนสนุกได้พักใหญ่
สมควรแก่เวลาที่เราจะต้องไป
เผื่อเวลากินข้าว นั่งรถเมล์กลับไปเอาสัมภาระ นั่งรถต่อไปสนามบิน
เอาตั๋ว tourist pass ไปแลกเงินคืน โหลดกระเป๋า ทำ tax refund นู้นนี่นั่น
ไปถึงสนามบิน เพื่อที่จะพบว่า
ดูเวลากลับผิด ไม่ใช่สองทุ่ม แต่เป็นสี่ทุ่ม
อ๊ากกกกกกก เผื่อ+ผิด เวลาเหลือบานนนนนน เลอ คราวนี้
เอาไงละทีนี้ มีเวลาเหลือร่วม 3 ชั่วโมง
ตัดสินใจยังไม่คืนตั๋วรถไฟ
ไปถามไถ่เรื่องขอ check in โชคดี เค้าให้เช็คได้เลย
จัดการโหลดสัมภาระ ออกเอกสาร tax refund ให้เรียบร้อย
แล้วนั่ง MRT ไปเที่ยวต่อ
ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวเล่นที่ Bugis
มีน้องคนไทยพักที่เดียวกันแนะนำว่าชอคโกแลตถูก
ระหว่างทางบนรถไฟ สมาชิกเหลือบเห็นห้างใหญ่อยู่ถัดจากสนามบินแค่ป้ายเดียว
ถามความสมัครใจในฉับพลัน สรุปว่าเปลี่ยนเป้าหมาย
ลง Expo Station ไปเดินเล่นห้างแถวนั้นแทน
ห้างนี้มีร้านรองเท้าในดวงใจด้วย
ร้านเล็ก แบบไม่ค่อยสวย แต่ลดเยอะมากกกก
เกือบละ เกือบจะสอยมาอีกคู่ ด้วยความถูก
แต่ติดตรงไม่มีไซส์ รอดตัวไป
เดินเล่น กินข้าว กินขนม ใกล้เวลาแล้วก็นั่งรถไฟกลับไปสนามบิน
เจอแว๊ววววว ได้ลิ้มลอง ลอดช่องสิงค์โปร์ก่อนกลับ
ชอบอ่าาาา อร่อยดี รสชาติเหมือนร้านดังที่เพชรบุรีเบยยยย หง่ะ
ส่วนตัว รู้สึกว่า ประเทศนี้ หาซื้อขนมเป็นของฝากยากจุง
ไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน
อาหารการกิน เป็นการรวม ๆ กันของหลายเชื้อชาติ
ทรัพยากรของประเทศ คือ คน
กิจกรรมหลักของคนที่นี่คือ เดินห้าง ห้างเยอะมาก ฟู๊ดคอร์ทก็เยอะมากด้วย
บางประเทศ เวลาไปเที่ยว มันจะมีความรู้สึกแบบว่า สวยจัง น่าอยู่ อยากอยู่
แต่ที่นี่ มันไม่มีอะไรประทับใจแบบตราตรึง
ถ้าแค่มาเที่ยวเล่น ช้อปปิ้งขำ ๆ พอไหว
บะ บาย สิงค์โปร์ ไว้รอโปรดีดี แล้วจะกลับมาเที่ยวใหม่