วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

- ขม -

กาลครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้เอง

มีสาวงามนางนึง ( หลงตัวเองซะด้วย ) กำลังติดอะโวคาโดปั่นขั้นรุนแรง
กินติดต่อกันมาร่วมอาทิตย์


วันศุกร์อะโวหมด อดกิน

บ่ายวันเสาร์แวะไปHaymarket ซื้อมา 3 ลูก ช่วงนี้กะลังเซลล์ 3 ลูกขาย $3 ซื้อลูกเดียวขายเหรียญกว่า แต่ถ้าไปซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ต ขายลูกละ $2.50

เลือกแบบยังแข็งๆ มาทั้ง 3 ลูก กะซื้อเก็บไว้ ทยอยกิน

วันจันทร์ จับดู ยังแข็งอยู่

วันอังคาร กดดู ยังแข็งอยู่
ลืมไปว่าช่วงนี้อากาศเย็น ผัก ผลไม้ค่อนข้างจะเหี่ยวช้า
( แต่หนังหน้าก็ยังเหี่ยวได้แม้อากาศหนาวจัด )


วันพุธ บีบดู ฮ๊า... มีลูกนึงเริ่มนิ่มๆ แล้ว
จัดการเอามีดผ่ามันออก เอ๊ะ.. เปลือกยังไม่ร่อน แกะไม่ออก ไม่เป็นไร เอาช้อนแคะเอาก็ได้ แคะไปเจอแถวๆ ใกล้ขั้ว ยังแข็งโป๊ก แคะไม่ออก เอามีดพยายามตัดมันออกมา
คิดไปว่า ไม่เป็นไร เด๋วก็ต้องปั่นละเอียด จะแข็ง จะนิ่ม ไม่ต่างกัน เครื่องมันปั่นได้


เสร็จเรียบร้อย ใส่แก้ว พร้อมกิน
ตักคำแรกเข้าปากปุ๊บ จ๊ากกกกก แม่เจ้า..........

เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ไม่เคยซื้อกินมาก่อน ไม่ค่อยสนิทกัน เลยไม่รู้สักนิดว่า

อะโวฯ เวลามันยังไม่สุกดีเนี่ย รสชาติห่วยแตกมากกกกกกก

ขมติดลิ้นเลยง่ะ ด้วยความเสียดาย ทนกินไปครึ่งแก้ว ไม่ไหวแล้ว สุดกล้ำกลืน
รสชาติเหมือนเวลากัดโดนเม็ดมะละกอดิบประมาณนั้น
เททิ้ง รสขมยังติดลิ้นอยู่ ทำไงดีหว่า ไปเปิดตู้เย็น เอาคัสตาร์ดมากินแทน

คัสตาร์ดหมดไปแล้ว รสขมยังติดลิ้นอยู่ ทำไงดี

ไปแปรงฟันดีกว่า
แปรงฟันเสร็จแล้ว เตรียมตัวเข้านอน

แต่... รสขมยังอยู่ แหว่ะ ๆๆ

เสียดายอะโวฯ เสียดายน้ำผึ้ง เสียดายค่าไฟ


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าชิงสุกก่อนห่าม อดขมไว้กินหวาน ....เอย


......


ตอบเม้นท์จ๊า


เจ๊happy py

ไขมันดี คอเรลตอรอลส่วนดี....
งั้นต้าสรุปเอาว่ามันดีแล้วกันเนอะ
ว่าแล้วก็มุ่งหน้ากินมันต่อไป สบายใจ ^ ^



เต่านา

แกลองดูมั่งมั้ยอ่ะ ไปยืมเด็กข้างบ้านมาลองเลี้ยงกะอี่ดูจิ
จะได้รู้ว่าหนุกหนานแค่หนายยย



July

นู๋พัชเอ๊ย เจ้าสงสัยถูกแร๋น ที่เห็นนั่นหน่ะ เสื่อ พี่อ้อเอามาปูให้ก้นดำนั่ง
กลัวชีจะแพ้ไรฝุ่นในพรม ผิวชียิ่งบอบบางอยู่

ก้นดำชีโตเกินเด็กวัยเดียวกันมานานแล้ว แม่ชีเลี้ยงดี กะปริมาณให้ลูกกินผิดขนาดไปหน่อย
ซื้อเสื้อผ้ายังต้องเลือกให้ใหญ่กว่าเข้าว่า อีกนิดนึงจะโตเท่าพี่อ้อแร้วเนี่ย



คุณ prim

โหย ๆๆ ถ้าไม่มีเรื่องสาวน้อยก็จะไม่แวะมาหรือค่ะ มันน่าน้อยใจ Y Y



คุณวดี

พี่อ้อสุดโปรดไดโนเสาร์ตัวนี้ พี่เค้าว่า มีมันแล้วเหมือนมีเด็กอยู่ในบ้าน มันน่ารักดี



พี่เจอร์รี่บีย์

เครื่องรวน คนไม่รวน ให้อภัย ไม่ว่ากันค๊า

ถ้าพี่อ้อเป็นแบบพี่เจอร์รี่บีย์ อยู่กับเด็กสัก 17 - 18 ได้นาน
อันนี้เงาหัวพี่อ้อจะเริ่มหายแล้วค่ะพี่ มือหนูจะเริ่มเงื้อในทันทีโดยอัตโนมัติ



ducky

อารมณ์คล้าย ๆ เวลาเป็ดเลี้ยงน้องม๋านั่นแหล่ะ ก้นดำก็คล้าย ๆ กัน 555

........

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ครั้งแรก...ของเรา

ครั้งแรกของเรา

...........

" เรา " ในที่นี้หมายถึง
ต้า
พี่อ้อ
อุ๊
และ ก้นดำ



เสาร์ที่ผ่านมา มีนัดไปกินหอยทอดที่บ้านอุ๊ หอยทอดฉบับอุ๊ หอยตัวใหญ่มากถึงมากที่สุด
( หอยแมลงภู่ที่นี่ ใหญ่จนน่ากลัวมากกว่าน่ากิน )
จบจากหอยทอดของอุ๊ก็ตามด้วย Taro cake ที่พี่อ้อซื้อมาจากในเมือง แล้วก็ปิดท้ายที่อะโวฯ ปั่นของเรา ^ ^


ทุ่มกว่า ได้เวลากลับบ้าน นึกครึ้มใจ ชวนก้นดำไปนอนบ้านเรา เพราะอุ๊กะป๊ะป๋าก้นดำ มีธุระต้องไปช่วยเพื่อนขนของแต่เช้า เลยอาสาจะดูแลก้นดำให้



ลองหยั่งเชิง เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามชีว่าไปนอนบ้านป้าอ้อป่าว ชีทำเฉย
เลยลองเตรียมเสื้อผ้าข้าวของใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่ไปก่อน ถ้าเกิดชีร้องก็ขนกลับมาละกัน


ตั้งแต่ย้ายห้องมาใหม่ ชียังไม่เคยมานั่งเล่นที่ห้องนี้เลย กับห้องเก่า มั่นใจว่าชีคุ้นเคยและอยู่ได้แน่ ๆ แต่ห้องนี้ชียังตื่น ๆ เข้าห้องไปก็เกาะป๋าเป็นลูกลิงเลย


ป้าอ้อเลยงัดเอา set ตุ๊กตาบาร์บี้ที่ซื้อมาจากงานอีสเตอร์ มาเสนอชี
เป็นไปตามแผน ชีถลามาหาบาร์บี้ในทันที
นั่งปุ๊กลงกลางห้อง ไม่สนใจอะไรอีกเลย


อุ๊เลยหยั่งเชิงชีอีกรอบ
กีตาร์ คืนนี้หนูนอนที่นี่นะ นอนกะป้า ๆ นะลูก เด๋วพรุ่งนี้แม่มารับนะ
ชียังง่วนกับแผงบาร์บี้



กีตาร์ แม่ไปแล้วนะ หนูไม่ดื้อนะ เด๋วพรุ่งนี้แม่มารับ โอเคป่าว
โอเค ( โดยไม่หันไปมองหน้าแม่มันแต่อย่างใด )

.........



ป๋ากะแม่กลับไปแล้ว ทิ้งให้ก้นดำอยู่กับป้า ๆ หุ หุ คืนนี้จะเป็นอย่างไรหนอเรา ตั้งแต่ชีเกิดมา ยังไม่เคยพรากจากแม่เลยสักคืน นอนด้วยกันตลอดระยะเวลาสองขวบกว่า
นี่จะเป็นคืนแรกที่
ก้นดำไม่ได้นอนกะแม่
แม่ไม่ได้นอนกะก้นดำ
พี่อ้อและเรา มีเด็กตูดดำมานอนด้วย

สนุกละเฟร้ยยย Y Y

.........


ปล่อยชีนั่งเล่นนู้นนี่ไปสักพัก ชีก็เริ่มเดินสำรวจห้อง เริ่มกล้าเดินไปทั่ว ๆ ห้อง สักพักชีเดินมาบอกป้าต้าว่า จี่ ๆ เลยพาชีไปห้องน้ำ ชีเดินไปป๊ะกะไอ้หน้ากากเหยินที่พี่อ้อแขวนไว้ตรงฮีทเตอร์หน้าห้องน้ำ ชีวิ่งแหกปากกลับมาทันที


กัว กัว


พี่อ้อรีบเอาไอ้เหยินไปเก็บไว้ในตู้ แต่ ชีไม่ยอมฉี่แร้ว ทำไงก็ไม่ยอมไปฉี่ กลับไปนั่งเล่นบาร์บี้ต่อ เล่นไปได้อีกสักพัก ชีเดินมาหาป้าต้าแล้วบอก จี่ พร้อมกับฉี่ที่ไหลเปียกกางเกงมาเลย
ป้าอ้อรีบหิ้วชีเข้าห้องน้ำเร็วปรู๊ด ชีคงอั้นจนถึงที่สุดแล้วแหล่ะ
โทษชีก็ไม่ได้ โทษไอ้หน้ากากเหยินก็แล้วกัน

..........






...






...






แจ่มเลยอิป้าเอ๊ยยย


..






...








......





สี่ทุ่มหน่อย ๆ ได้เวลาพาชีไปอาบน้ำแปรงฟัน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ชีทำตามโดยไม่แผลงฤทธิ์แต่อย่างใด
แล้วก็ให้ชีนอนดูการ์ตูนดอร่าอยู่หน้าทีวี เผื่อว่าชีจะเคลิ้มหลับ

...........




..
(ไม่รู้พี่อ้ออยากเล่นเอง แล้วเอาก้นดำบังหน้าอ่ะป่าวเน้อ)




ห้าทุ่มผ่านไป
ชียังตาใส แต่ป้า ๆ เริ่มง่วง
ป้าอ้อเลยเสนอให้เปลี่ยนไปนอนบนเตียงแล้วเปิดดูจาก port table แทน
ปิดไฟให้ห้องมืด ๆ เผื่อว่าชีจะเคลิ้มหลับ

......




ห้าทุ่มกว่าผ่านไป
ชียังตาใส แต่ป้า ๆ เริ่มง่วงมาก
ป้าอ้อเลยปิดทีวี บอกให้ก้นดำนอนได้แล้ว
ชีก็ว่าง่าย นอนก็นอน
คืนนี้ป้าต้านอนกะก้นดำบนเตียง ป้าอ้อนอนหน้าทีวี
อุ๊บอกไว้ว่าเวลานอนชีชอบให้เกา ๆ ให้
เราก็เลยนอนเกา ๆ แขน ให้ชีไปเรื่อย ๆ
จนเหมือนชีจะเริ่มสงบนิ่ง และหายใจสม่ำเสมอ ( คิดเอาเองว่าชีคงตาย เอ๊ย หลับไปแล้ว )
ก็เลยลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็จะกลับมานอน
ไปถึงห้องน้ำปุ๊บ ได้ยินเสียงชีเรียก ต้า ๆ แล้วเดินมายืนตาแป๋วอยู่หน้าทีวีตรงที่ป้าอ้อนอน
ป้าอ้อบอก ต้าไปฉี่ ชีเดินมารอหน้าห้องน้ำ เลยต้องพาชีกลับไปนอนแล้วเริ่มเกากันใหม่อีกรอบ
กว่าชีจะหลับไปจริง ๆ ก็เที่ยงคืนพอดี



ชีหลับไปแล้ว แต่ เราดันนอนไม่หลับ พะวง และหันไปมองทุกครั้งที่ชีขยับตัว
ชีก็ขยันพลิกซ้าย พลิกขวาทุกห้านาที
ตี 2 อยู่ดีดี ชีก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วทำท่าจะลุกไปจากเตียง พร้อมกับร้องเรียก ต้า ๆๆ เรารีบลุกขึ้นไปดึงชีกลับมา พร้อมบอกว่า ต้าอยู่นี่



เกาชีใหม่ ให้ชีหลับ
ผ่านไปสักพักใหญ่ ชีผงกหัวขึ้นมาอีกแล้ว ร้องเรียก ต้า ๆๆ
เลยกอดชีไว้พร้อมกับบอกว่า ต้าอยู่นี่ไง ไม่ได้ไปไหนเลย กีต้าร์นอน ๆ นอนด้วยกันนี่
ชีก็นอน พลิกไป พลิกมา พร้อมกับเกาแขนตัวเอง คืนนี้มียุง ยุงคงอยากกัดเด็กตูดดำ
ชีนอนพลิกไปมา พลิกทีก็เอาแขนมาฟาดหน้าป้ามันสักทีนึง
เลยเวลา เรานอนไม่หลับ กว่าจะหลับไปจริง ๆ ก็ปาเข้าไปตีสี่ T T




รู้สึกตัวอีกทีเพราะแสงแฟลซ ป้าอ้อแอบมาถ่ายรูปก้นดำ

..



..

แปดโมงกว่า หันไปมองชี นอนก้นโด่ง ยังหลับสนิทอยู่
..
..

นอนเล่นไปอีกสักพัก เก้าโมง ชีเริ่มได้สติ ลืมตาตื่น แบตเตอรี่ชีคงเต็มแล้ว
ป้าอ้อเดินเข้ามาทัก
โหยย กีต้าร์ตื่นแล้วเหรอ
ชีมองหน้าป้าอ้อ แล้วทักทายเช้าวันใหม่ด้วยประโยคที่ว่า
"ยุงกัดนี่" พร้อมกับยกแขนให้ดู
ตื่นมาก้อฟ้องกันเลยทีเดียว
แล้วก็หันมามองหน้าป้าต้า ยิ้มตาใส แล้วยื่นมือให้ คาน ๆ ( คือหมายถึงชีคัน เกาให้ชีหน่อยนั่นเอง )

.........


ตื่นปุ๊บ ชีก็พร้อมเล่นปั๊บ เช้านี้ แค่ล้างหน้า แปรงฟัน อากาศเย็น ไม่ต้องอาบน้ำ (ทั้งป้าทั้งหลาน)

..




..

เช้านี้เจียวไข่ให้ชีกิน บอกชีว่า วันนี้ ป้าจะพาหนูไปแถว อลิซาเบธ เบย์ มีที่กว้าง ๆ ให้หนูวิ่งเล่น มีชิงช้า มีเรือ ไปมั้ย
ไป ไป
งั้นหนูต้องไม่ดื้อ กินข้าวให้หมด แล้วไปกัน

....


ป้า ๆ พร้อม ก้นดำพร้อม เราออกเดินทางกัน พาก้นดำขึ้นรถเมล์ ใช้เวลาไม่นาน สัก 15 นาทีก็ถึง
ก้นดำเหมือนลูกหมา เห็นที่กว้าง ๆไม่ได้ ต้องวิ่งควบเข้าใส่ ออกแนวบ้าพลังกันไป ปล่อยให้ชีเล่นนู้นนี่สักพักใหญ่ ๆ เลยพาชีเดินกลับ
....




...




...


รูปบน เห็นสะพานดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ลิบๆ

...



...




...



...



...

ขามาทางลาด ชีไม่ค่อยมีปัญหา
ขากลับ ทางชัน ชีเริ่มออกอาการไม่อยากพึ่งเท้าของตัวเอง
อยากเป็นภาระป้ามันซะงั้น แล้วต้องเป็นป้าต้าด้วยนะ ป้าอ้อจะอุ้ม ชีก็ไม่ยอมอีก
สวยเลือกได้ คงกลัวป้าอ้อเหนื่อย เลยเลือกใช้แรงงานป้าต้านี่แหล่ะ

..



ระหว่างที่เดิน ถามชีว่า เหนื่อยมั้ยกีต้าร์
"เหนื่อย"

.......


ก่อนกลับ แวะซื้ออุด้งเทมปุระ ไว้เป็นมื้อเที่ยงสำหรับชี ชียังคงโปรดปรานเส้นอยู่
มื้อเที่ยงวันนี้ อุด้งแบ่งกะป้าอ้อคนละครึ่ง
โยเกริ์ตถ้วยนึง
ส้มครึ่งลูก
นมใส่คอนเฟล็กครึ่งแก้ว


กีต้าร์ อร่อยมั้ย
อาหร่อย
ยัมมี่มั้ย
ย้ามมี่
Do you like it?
yesss ...


อู๊ยยยย เก่งจริงหลานช้านนนน


กลับมาจากเมืองไทยรอบนี้ ก้นดำพูดได้เยอะขึ้น ยาวขึ้น ถามไป ตอบกลับ แต่เป็นแบบ...
กีต้าร์เก่งมั้ย
เก่ง
กีต้าร์ ดื้อมั้ย
ดื้อ
ป้าต้าสวยมั้ย
สวย
ป้าอ้อเท่มั้ย
เถ่


ออกแนวตอบตามคำสุดท้ายที่ถาม ยังแยกแยะประโยคคำถามกะบอกเล่าไม่ถูก
ระหว่างเล่นกัน เล็บป้าต้าเกิดไปโดนมือชีเข้า ชีหันมาถามว่า เจ็บมั้ย
คือชีไม่ได้ถามว่าป้าต้าเจ็บมั้ย แต่ชีกำลังจะบอกว่า หนูเจ็บเฟร้ยยย


เวลาชีอยากได้อะไร ชีชอบพูดย้ำๆ ว่า อ่ะนี้ ๆๆๆ ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังสุดชีวิต
เวลาไม่อยากได้อะไร ก็จะร้องบอก มะอาวๆๆๆๆ แล้วทำท่าเหมือนผลักไสไล่ส่ง
อย่ามาโดนตัวช้านนน


บ่ายโมงหน่อยๆ อุ๊มารับก้นดำ พอชีเจอหน้าแม่ แสดงอาการดีใจเล็กน้อย
แล้วก็เล่นต่อ ( ท่าทางชีคิดถึงแม่น่าดูนะนั่น)



พาก้นดำมานอนบ้านคราวนี้ มีความรู้สึกว่าเข้าใจอารมณ์ของคนเป็นแม่ขึ้นมาอีกนิดนึงก็
ตอนที่นอนอยู่กะชีเนี่ยล่ะ รู้สึกพะวง ตลอดเวลา กลัวชีจะตื่น กลัวยุงจะกัด กลัวจะหนาว
ต้องหันไปมองทุกครั้งที่ชีขยับตัว

ป้าอ้อก็ไม่ยอมน้อยหน้า คืนวันจันทร์มาบอกว่า
วันนี้ทำงานไป คิดถึงกีต้าร์ไป ทั้งวันเลย ...


ไว้มานอนค้างใหม่นะ ... ก้นดำของป้า ^ ^

.......


ถึง... เจ๊happy

เจ๊... อะโวฯเนี่ย คอเลสตอรอลมันสูงจริงเหรอ กินแร้วจะอ้วนมั้ยอ่ะ
คิดเอาเองมาตลอด ว่ามันคงเป็นเพียงแค่ผลไม้ที่ไม่มีพิษสง
เห็นมันจืดๆ ไม่หวาน คงเหมือนกินฝรั่ง มันแกว ไรงี้
แล้วกินมันซะดึกเลยเรา T T
....

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552

อะโวฯ

......


ช่วงนี้กำลังฮิตกิน อะโวคาโดปั่น หลังจากที่อุ๊เคยเชียร์ให้กินตอนไปเดินเล่นที่ cabbramatta
ซื้อกินเองไปแก้วนึง อืม อร่อยดี แต่พี่อ้อไม่ปลื้ม

เกลียดอะโวฯ กินซูชิทีไรต้องเขี่ยทิ้ง


ปกติอะโวคาโด จัดเป็นผลไม้ที่ไม่เคยซื้อมากินเลย เพราะไม่รู้จะกินกับอะไร แล้วกินยังไง มีรุ่นน้องเคยบอกว่าชอบซื้อมาใส่กินกับนม เราก็ยังไม่รู้สึกว่ามันจะอร่อยตรงไหน เคยกินที่มันใส่มากะซูชิ สลัด แล้วก็เปาะเปี๊ยะสดเวียดนาม เคี้ยวกินรวม ๆ กะอย่างอื่นกันไป


เคยเห็นฝรั่งที่นี่ชอบเอาอะโวคาโดทาขนมปังปิ้งให้ลูกกิน เราเองไม่เคยกิน แต่คิดเอาว่ามันคงจะต้องไม่อร่อยแน่เลย

........


2-3 วันมานี่ รู้สึกอยากกินอะโวคาโดปั่น แถวนี้ไม่เห็นมีขาย ไม่เป็นไร ทำกินเองก็ด่ะ ไม่รู้บ้านเรามีขายอ่ะป่าว ไม่เคยเห็น หรือมีแต่เราเชย ไม่เคยกินก็ไม่รู้

ตอนซื้อก็ไม่ได้ดูหรอกว่าเค้าใส่อะไรมั่ง แต่เดา ๆ เอา ว่าต้องมีอะโวฯกะน้ำตาล เราไม่อยากใส่น้ำตาล เลยดัดแปลงมาใส่น้ำผึ้งแทน ไม่อยากใส่น้ำ เลยใช้นมสด


สาว ๆ คนไหนอยากลอง ก็ทำดูนะคะ เผื่อจะได้เมนูคลายร้อนอีกสักเมนู

......

ส่วนผสม

อะโวคาโด ขนาดพอเหมาะ นิ่มกำลังกิน 1 ลูก

น้ำผึ้งสัก 3-4 ช้อนชา ถ้าชอบหวานก็ใส่น้ำตาลเพิ่มไปได้ค่ะ ไม่ว่ากัน

นมสด เกือบครึ่งแก้ว

น้ำแข็งสักแก้วนึง
......

ปั่นทุกอย่างเข้าด้วยกัน จนละเอียด จะได้ smoothy avocado เนื้อเนียน ๆ สีเขียวอ่อน ๆ สวยน่ากิน รสชาติมัน ๆ หวานนิด ๆ หอมกลิ่นน้ำผึ้ง+อะโวคาโด

อุ๊ยปลื้ม อร่อย ชอบ ๆ กินติดกันมา 3-4 วันแร่ะ

.........


.........


วันก่อน 4 ทุ่มแร่ะ รู้สึกอยากกินตะหงิด ๆ อดรนทนไม่ไหว ต้องมาปั่นกิน ดึกแล้ว เสียงเครื่องปั่นดังสนั่นลั่นตึก ไม่รู้มีใครแอบสรรเสริญบรรพบุรุษรึป่าว


วันหลังเค้าจะรู้สึกตัวว่าอยากกินให้เร็วกว่านี้ค๊า

.......


ถึงคุณตั๊กค๊า

คุณตั๊กขา หลังจากได้รับมาร์กดำkose จากน้องอุ๊เมื่อเย็นวันอาทิตย์ปุ๊บ ลองใช้ทันทีในคืนนั้น
ปรากฏว่า.....


เกิดอาการไม่แน่ใจว่าต้องทาตอนหน้าแห้งหรือเปียก เลยซับหน้าหมาดถึงหมาดมาก แล้วก็เริ่มทาลงไปทีละน้อยก่อน มันก็ดำบาง ๆ จาง ๆ ทาไปเรื่อย ๆ รู้สึกมันหนืดมากเลยอ่ะคะ

พอเริ่มทาย้ำลงไปมันก็หนืดซะจนเกรงว่า หน้าจะเหี่ยวก็อีตอนทาเนี่ยแหล่ะตรู ทาเสร็จ ตึงพอประมาณ ทรมานสุดขีดอีตอนที่ดันจามติดกัน 3-4ทีเนี่ยละคะ
รอไปจนแห้ง ก็ไปลอกออก
ปรากฏอีกว่า....


ทำไมมันไม่เห็นออกมาสวยงามเป็นแผ่นเหมือนของคุณตั๊กเลยอ่ะ
ขาดเป็นริ้ว ๆๆๆๆ เลยค๊า
หน้ามาเป็นส่วน ๆ เลย คางหน่อย จมูกหน่อย แก้มอีก 2-3 ริ้ว
อารมณ์เหมือนหน้าลอกแล้วแกะเล่นยังไงยังงั้น T T
( สงสัยจะโบกบางไป )


หลังจากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้านุ่มดีค่ะ
กะว่าจะทำอีกสัก 2-3 หน อาจจะเริ่มคล่องขึ้น 555 (ก็หมดหลอดพอดี)
.........


วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2552

รวมมิตร

ช่วงนี้ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านเราแล้ว ชวนให้เศร้าใจจัง
เดือนก่อน renzo เพื่อนชายชาวอิตาลี บอกว่าจะ take holiday เดือนนึง
เราถามไปว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านเหรอ
renzo บอกว่า จะกลับอิตาลี 3 weeks แล้วอีกอาทิตย์ที่เหลือจะไปเที่ยวเมืองไทย
he เคยไปเมืองไทยแล้วน่าจะสัก 2 ครั้ง ชอบทะเลทางใต้ ชอบไปเล่นเซริฟ์ตามสไตล์พวกฝรั่ง ได้ยินแบบนั้นก็นึกดีใจ ว่าในขณะที่บ้านเมืองเราเจอเรื่องแย่ ๆ ตอนปิดสนามบิน ก็ยังมีคนที่อยากไปเที่ยวอยู่





อาทิตย์ก่อน เห็น renzo แว๊บ ๆ ที่หน้าห้องเรียน ไม่ได้ทัก ไม่อยากทัก ไม่กล้าทัก
กลัวhe จะเล่าว่าเจออะไรแย่ ๆมาบ้างตอนไปเที่ยวเมืองไทย
เวลาเปิดทีวี แล้วมีภาพข่าวเหตุการณ์วุ่นวายในบ้านเรา ฝรั่งมันถามว่านั่นบ้านเธอใช่มั้ย
รู้สึกหน้าชา ไม่รู้จะแก้ต่างกันยังไงดีกับภาพพจน์ที่มันถูกทำลายลงไปทุกวัน ๆ




3-4 วันก่อน รายการข่าวที่นี่ รายงานข่าวเหตุการณ์ในกรุงเทพติด ๆ กัน 2-3 วัน
สมมติว่าถ้าเราไม่ใช่คนไทย ไม่รู้จักประเทศไทยมาก่อน จากภาพ เราคงคิดไปว่า ประเทศนี้ช่างน่ากลัว ให้อารมณ์เหมือนตอนเราดูข่าวต่างประเทศ แล้วเห็นประเทศที่เค้าตีกัน รบราฆ่ากัน คิดไปว่าประเทศนั้นมันคงจะไร้ความศิวิไล มีแต่สงครามกันเลยทีเดียว



แอบหวังในใจลึก ๆๆๆๆ ว่าทุกอย่างมันจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี ประเทศไทยคงจะเจอ
ทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่ายได้ในสักวัน....


.......................


ตัดอารมณ์กันฉึบฉับด้วยเรื่องไม่เครียดกันดีกว่า
ช่วงที่ย้ายห้องมาใหม่ ๆ เปรย ๆ กะพี่อ้อว่าอยากปลูกต้นไม้จัง
อยากให้ห้องเรามีต้นไม้บ้าง เพราะเห็นว่ามีที่พอจะวางกระถางต้นไม้ได้อยู่ อย่างน้อยก็ตรงขอบหน้าต่างห้องครัวละหนึ่ง เงยไปขอบหน้าต่าง ยังเห็นมีเหล็กแง่งๆ สามารถเอาต้นไม้ใส่กระเช้าไปห้อยไว้ได้อีกด้วย


พี่อ้อถามว่าอยากปลูกต้นอะไร
ไม่รู้
แต่ถ้าอยู่เมืองไทย ต้าจะปลูกเดฟกระเป๋า เอามาห้อย ๆ ไว้
ที่นี่ ไม่เคยเห็นเดฟกระเป๋า สงสัยมันคงไม่ชอบอากาศที่นี่ คนเลยไม่ปลูกกัน



ต้นไม้ที่นี่ ราคาไม่ค่อยน่าคบ แพงเอาเรื่องอยู่ (สำหรับเรา) หรือเราเอาไปเปรียบเทียบกับ
เมืองไทยก็ไม่รู้ ตามจตุจักร ตามริมถนนแถวพุทธมณฑล ต้นไม้สวย ๆ ขายราคาย่อมเยาว์ แถมมีให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์



ผ่านไป 2 อาทิตย์ ยังไม่มีต้นไม้ไว้เชยชม


เย็นวันหนึ่ง


ดาร์ลิ้ง วันนี้เค้าซื้ออะไรมาให้ดาร์ลิ้งด้วย
อะไรอ่ะคะ
ไม่บอก ไว้กลับไปดูที่บ้าน



3 ทุ่ม ถึงบ้าน เจอยัยนี่ทำหน้าสวยอยู่ในครัว

...





.....



ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร พี่อ้อไม่ได้ถามคนขายมาตอนซื้อ ( แต่ถึงถามก็คงจำไม่ได้อีก )
ขอบคุณนะค๊าพี่อ้อ ^ ^



......


วันนี้วันเสาร์ เช้านี้ป๊าก้อง อุ๊และก้นดำ คงจะกลับมาเหยียบแดนจิงโจ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯกันเมื่อคืนวันเสาร์ตอน 2ทุ่มกว่าตามเวลาประเทศไทย ถึงที่นี่เช้าวันอาทิตย์ประมาณ 8 โมงกว่าตามเวลาซิดนีย์


เมื่อคืนวันศุกร์ โทรไปหาอุ๊ อุ๊เล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่าก้นดำซูบไป ชีไม่ค่อยยอมกินข้าว ห่วงแต่เล่น ( พี่อ้อแอบสงสัยว่าชีเล่นอะไรของชีเหรอ เพื่อนก็ไม่มี )


แต่ชีก็ยังอุตส่าห์มีพัฒนาการ( ด้านมืดนั่นแหล่ะ ) ให้แม่ชื่นใจ ชีพูดได้เยอะขึ้น อาจเป็นเพราะฟังแต่ภาษาไทย แถมล่าสุดชียังเปิดเปิง หน้าตาแหก เพราะหกล้ม เอาหน้าบ้าน ๆ ของชีไปถูกะพื้นคอนกรีต หน้าบวมจนตาแทบปิดกันเลย หลังจากแผลเริ่มตกสะเก็ด ชีคงยังคิดว่า ไม่พอใจหน้าบ้าน ๆ ที่มีอยู่ คงอยากให้เยินจนแม่พาไปศัลยกรรมหน้าใหม่ เหมือนสาวเกาหลี เลยม้วนตัวลงมาจากบันไดคอนกรีต ได้หัวปูด ๆ แถมมีเลือดไหล ทำเอาแม่อุ๊ตกใจสุดขีด น้ำตาไหลพราก รีบพาลูกไปเอกซเรย์สมอง กลัวลูกจะได้รับการกระทบกระเทือน เกิดพูดได้ปร๋อทั้ง2ภาษาขึ้นมาป้า ๆ จะรับไม่ได้กัน



แถมตามตัวชียังมีแผลถลอกปอกเปิก และแผลเป็นจากรอยยุงกัด ( แพ้ยุงเหมือนป้ามันเลย ) ตอนป้าขวัญเล่าว่า ชีโดนยุงกัด แล้วทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวโดนใช้ให้เกากันถ้วนหน้า

ป้าอ้อฟังแล้วขำ เพราะนึกภาพตามว่าชีเป็นเช่นนั้นจริง ๆ อยู่ที่นี่ ใครนั่งใกล้ชี แล้วชีคัน ชีจะยื่นส่วนที่คัน ถ้าเป็นแขนก็ดีไป แต่บางที ชียกขาและเท้าอวบ ๆ ดำ ๆ ขึ้นมาแทบจะจิ้มหน้าป้ามัน แล้วบอก คาน ๆ ( คัน ๆ ) แปลว่า อิป้า เกาให้หนูหน่อย


เด๋ววันนี้ ปล่อยให้อุ๊และก้นดำ พักผ่อนกันไปก่อน แล้วอีก 2-3วัน เราค่อยนัดเจอกันเนอะ
อุ๊บอกว่า ของที่ฝากซื้อได้ครบทู๊กอย่าง อู๊ยยยย ดีใจ


...


ปล. อุ๊จ๊ะ เมื่อวานพี่อ้อไปถอยลาแมร์กระปุกเล็กมาใช้ก่อนแล้วล่ะ กระปุกเก่าหมดเกลี้ยง ถ้าปลิ้นกระปุกได้ คงทำไปแล้ว พี่อ้อบอก ไม่อยากเสี่ยงใช้ครีมอื่นในระหว่างที่รอลาแมร์จากอุ๊ เด๋วจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เจอพี่บ่นไปนิดหน่อย ก็แหม ราคากระปุก 30ml ที่นี่ เกือบจะเท่ากะ 60ml ที่ฝากอุ๊ซื้อจากบ้านเราแล้วนิ
T T แพงงงง

...

ปล. อีกหน่อย เราคงได้เจอกันตอนเย็นบ่อย ๆ เหมือนสมัยที่พี่ยังไม่ได้ทำงานเย็น ไอ้ manager ดันลดชั่วโมง แต่ให้ทำงานเท่าเดิม เราเลยเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ทำก็ได้ฟ่ะ ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเลย เด๋วหางานกลางวันเพิ่มเอาดีกว่า

..
แล้วเจอกันน๊าก้นดำของป้า ^ ^

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552

Happy Easter



อย่างที่เกริ่นไปในบล็อกก่อนหน้านี้ค่ะ ว่าช่วงนี้มีวันหยุดยาวของเทศกาลอีสเตอร์ ภารกิจหลักของเราในเทศกาลนี้คือไปงานอีสเตอร์ที่ Olympic Park ที่เดียวกับตอนที่ไปว่ายน้ำนั่นละคะ เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่มากกก กว้างมากกกก โอ่อ่า และดูมีระดับ เหมาะกับที่เคยใช้เป็นที่จัดงานโอลิมปิคปี2002

เวลาไปงานอะไรก็แล้วแต่ของที่นี่ ชอบอยู่หลายอย่างค่ะ ทั้งการวางแผนผังงาน ระบบการจัดงานต่าง ๆ แต่ที่ชอบสุดคือ เรื่องห้องน้ำค่ะ มีเยอะและสะดวกต่อการเรียกใช้ เดินไปตรงไหนก็เจอ แถมยังสะอาดอีกด้วยค่ะ

เข้าเรื่องความเป็นมาคร่าว ๆ กันนิดนึง
เทศกาลนี้ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของคริสตศาสนา จากที่พระเยชูได้ไถ่บาปให้กับมนุษย์ โดยถูกตรึงไว้ที่ไม้กางเขน แล้วพระเยซูก็ฟื้นขึ้นมาจากความตายในวันศุกร์ ( จึงเรียกว่า Good Friday )
จากนั้น พระองค์อยู่ต่ออีก 3 วัน แล้วจึงเสด็จขึ้นสู่สวรรค์

( สรุปเอาจากที่พี่อ้อเล่าให้ฟังอีกที ชาวพุทธอย่างเรา ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยค๊า )

ช่วงนี้ตามห้างฯ หรือร้านค้า ก็จะมีช็อคโกแลตรูปไข่และกระต่าย หลากหลายแบบวางขายกันเกลื่อน
ถือเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้กันเลยทีเดียว

เช้าวันเสาร์ ตื่นกันมาค่อนข้างสายอยู่ สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันศุกร์ เรามีปาร์ตี้กันโดยมิได้ตั้งตัว

ตอนบ่ายวันศุกร์ ต้าไปไทยทาวน์เพื่อซื้อวัตถุดิบในการทำส้มตำ ไก่ย่าง
กลับมาบ้านก็จัดเตรียมหมักไก่ หั่นผัก ย่างไก่ ( ด้วยเตา Grill ) แล้วก็รอพี่อ้อเลิกงาน กลับมาตำส้มตำกินกัน

5.30 พี่อ้อถึงบ้าน ต้าได้ยินเสียงถ้วยชามก๊องแก๊งจากห้องฝ้าย แสดงว่าอยู่บ้าน เลยเอาไก่ย่างแบ่งไปเผื่อ โผล่หน้าเข้าไปห้องฝ้ายเห็นกำลังทำกับข้าวอยู่ คุยไปคุยมา ฝ้ายบอกว่า

เย็นนี้จะมีปาร์ตี้กันนิดหน่อย จะมีเพื่อนที่ทำงานแวะมาอีก2-3 คน ให้เราแวะไปแจม
ฝ้ายบอกว่า สัก 6 โมงหน่อย ๆ จะมาเคาะเรียก
เราก็ไม่อยากไป เกรงใจและยังไม่ค่อยหนิดหนม แถมกับฝ้ายเองก็เพิ่งรู้จักกัน ก็เลยนั่งหม่ำกันที่ห้องสองคนไปก่อน เพราะหิวมากแล้ว กะว่าเด๋วฝ้ายมาเรียกแล้วค่อยบอกว่ากินกันอิ่มแร้ว ไว้โอกาสหน้าละกัน

ได้เวลาฝ้ายมาเคาะ บอกว่าเพื่อนยังไม่มา ไปนั่งคุย นั่งกินกันก่อน ด้วยมารยาทเลยกะว่าจะไปนั่งกันสักแป๊บนึง แล้วจะขอตัวกลับห้องละกัน

ฝ้ายจัดแจงส่งเบียร์ให้พี่อ้อ พี่อ้อนึกในใจ โอเค แก้วนึงละกัน
เราไม่ถนัดเบียร์ ฝ้ายเลยจัดไวน์มาให้ โอเค ได้อยู่ นิดนึงละกัน
นั่งกินกันไป 4 คน เราสอง ฝ้ายและสามี
สักพักเพื่อนฝ้ายมาอีก 2 เอ้า เติมเบียร์ เติมไวน์หน่อยยย
คุยกันไป กินกันไป ดึก ๆ มีรุ่นพี่ฝ้ายมาแจมอีกหนึ่ง
คุยกันไป กินกันไป เพลิดเพลิน กว่าทุกคนจะเริ่มเห็นพ้องต้องกันว่า ควรแก่เวลาต้องแยกย้าย + ง่วง ก็เที่ยงคืนพอดิบพอดี


จากแค่แก้วเดียว พี่อ้อกินเบียร์ไปร่วม 4 ขวด

ถือเป็นการกินเบียร์เยอะที่สุดในรอบ 5 ปี เอิ๊กๆ


กลับมาวันเสาร์ต่อ เราออกจากบ้านกันตอน เที่ยงนิด ๆ นั่งรถเมล์จากบ้านไปลง Central Station
เพื่อไปต่อรถไฟ ช่วงเทศกาล มีรถไฟไปตรงถึง Olympic Park เลย ใช้เวลาประมาณเกือบ 20นาที ก็ถึง คนเยอะทีเดียว อาจจะเป็นเพราะเราไปวันเสาร์ แล้วงานก็เพิ่งเริ่มได้ไม่กี่วัน

เทศกาลเฉลิมฉลองนี้มีมานานหลายสิบปีแล้วค่ะ ปีนี้จัดให้มีในช่วงวันที่ 9 -22 April
งานเริ่มตั้งแต่สาย ๆ ไปจนดึก บรรยากาศภายในงานคึกคักดีค่ะ

สมัยยังอยู่เมืองไทย เวลาพี่อ้อมางานอีสเตอร์กับเพื่อน ก็จะโทรเล่าให้ฟัง ไอ้เราก็นึกภาพไม่ออก พี่อ้อเลยเรียกเอาว่าเป็นงานวัดฝรั่ง

แต่พอได้มาเห็นเอง มันได้หลาย ๆ บรรยากาศรวมกันอ่ะคะ เหมือนงานวัด+งานกาชาด+งานเกษตร แล้วยังพ่วงด้วยงานโอท้อป งานแสดงศิลปะ อาหาร ประกวดผลงานนู้นนี่ เครื่องเล่นแบบเดียวกับสวนสนุกอะไรประมาณนี้ จริง ๆมีรายละเอียดอีกเยอะค่ะ แต่ถ้าให้เล่าทั้งหมด บล็อกหน้านี้อาจจะยาวไปถึงบล็อกเพื่อนบ้านได้ เอาเป็นว่าจะบรรยาด้วยภาพเป็นหลักละกันเนอะ
ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ
..................................................
....................................................
......................................................
.....................................................
รถแบบนี้พี่อ้อชอบมั่ก ๆๆ
.....................................................
การแข่งขันของน้องม๋าค่ะ เหมือนวิ่งเปรี้ยวเลยค่ะ ฉลาดแสนรู้สุด ๆ รู้ว่าตัวเองต้องวิ่งไปคาบลูกบอลมา
.......................................................
......................................................
.....................................................
พี่อ้อขอวัดความสามารถกันนิดนึง แข่งกันยิงปืนให้โดนจุด จนกว่าลูกโป่งจะแตก
แต่ความสามารถอย่างเดียวคงไม่พอ วันนี้เราคงไม่มีดวง T T
......................................................
................................................
อันนี้เคยเล่นเมื่อปีก่อน เสียว ๆ ดีค่ะ
..............................................
.....................................................
.....................................................
.................................................
......................................................
อันนี้อุ๊เคยพาก้นดำเล่นตอนไปcanberra ก้นดำช้อบสุด ๆ
...................................................
กว่าจะจบงาน staff จะขาเปื่อยเลยมั้ยน๊า
.....................................................
....................................................
.....................................................
เครื่องเล่นวางติดกันเป็นพรืดเลยค่ะ ติดกันจนเสียวว่าจะเกี่ยวกันเองมั้ยง่ะ
.....................................................
เท่มั่ก ๆ
...................................................
.....................................................
.....................................................
เพิ่งรู้ว่าหมูมันฉี่นานและเยอะมากกกกกกกก
......................................................
.....................................................
......................................................
....................................................
.....................................................
เวทีนี้เค้าไม่ให้ถ่ายตอนมีโชว์อ่ะคะ เลยได้มาแต่เวที
....................................................
ดูคนขายข้าวโพดที่นี่ซะก่อนค๊า ไม่ธรรมดา อ่ะฮ๊า
.....................................................
ของโปรดพี่อ้อ ชอบจริงๆกะสายไหมเนี่ย
......................................................
อีกไฮไลท์ของงาน เป็นการประกวดการออกแบบผลิตภัณท์จากธรรมชาติค่ะ
....................................................
....................................................
.....................................................
....................................................
....................................................
...................................................
...................................................
....................................................
The Wiggles รายการโปรดสุด ๆ ของก้นดำ มาจัดshow bags ด้วย
...................................................

Show bags ถือเป็นสัญลักษณ์ของงานก็ว่าได้ค่ะ เป็นการรวมสินค้ามาขายในราคาโปรโมชั่น มีสินค้าหลายอย่างอยู่ในถุง จัดเป็นแพ็คมา แล้วแต่ว่าเราจะชอบอันไหน
สมมติให้นึกภาพออกเช่น ผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ เอาสินค้าในเครือมารวมกัน ในถุงอาจจะมี ไมโล นม แก้วที่ระลึก กระเป๋า สมุด ผ้าเช็ดตัว อะไรประมาณนี้
.
พี่อ้อเลือกชุดสีเหลืองของ น้ำอัดลม มีกระเป๋าสะพาย น้ำ 3 กระป๋อง ชอคโกแลต 4 แท่ง มาร์คเย็นอันนึง
..................................................

ปีนี้พี่อ้อได้มา 4 ถุงค่ะ ของตัวเอง 2 ถุง ให้ก้นดำถุงนึง แล้วก็ซื้อให้ฝ้ายเอาไว้ไปให้ลูกชายถุงนึง
ของก้นดำเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ ส่วนของลูกชายฝ้ายเป็นเซ็ทอินเดียนแดง
แล้วก็ได้หน้ากากเหยินมาหัวนึง เอาไปเป็นเพื่อนกะไอ้เจ้าmonkey ที่พี่อ้อซื้อมาตั้งแต่ปีก่อนนู้นนน





ออกจากโซน show bags ฟ้าก็มืดสนิทแล้ว ยังมีอีกหลาย Hall ที่ยังไม่ได้ดู
ความตั้งใจแรกเรากะจะอยู่กันจนดึกเพื่อดูโชว์ในโซน อารีน่า แล้วพอช่วง 3 ทุ่มจะมีจุดพลุด้วย
แต่พอออกจากโซน show bags เท่านั้นละ สองคนหอบหิ้วกันเต็มไม้เต็มมือ หนักด้วย เมื่อยด้วย
แถมด้วยเราเริ่มมีอาการเดี้ยงหนักขึ้น เหตุน่าจะมาจากตอนที่เดินเข้าออกโซนที่เป็นสัตว์ต่าง ๆ
ทำให้จามแบบต่อเนื่อง คันจมูก คันตา ภูมิแพ้กำเริบ
ความตั้งใจแรกเลยเริ่มจะล้มเหลว
พี่อ้อเลยสรุปให้ว่ากลับเหอะ ไว้ปีหน้าค่อยมาดูโชว์ละกัน
และแล้วก็เป็นอีกปีที่ยังไม่ได้อยู่จนถึงดูโชว์สักที
แต่พี่อ้อมีขอไว้ว่า ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่ พี่จะขอมางานอีสเตอร์ทุกปีนะที่รัก
พี่เค้าชอบจริง ๆ อะไรที่มีของเล่นเยอะ ๆ เนี่ย
.........................................