วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

ทริปส่งท้ายปีม้า Day 2 : เพชรบูรณ์ - สุโขทัย


December 27 , 2014

Day 2 : เพชรบูรณ์ - สุโขทัย

กูดม้อนิ่งงงงงงงง…. เขาค้อ

เอามือแตะหลังคาเต้นท์ โหวววว อย่างแฉะ น้ำค้างลงซะเปียกเลย
แหวกประตูเต้นท์ เจอวิวยามเช้า อากาศเย็นสบาย มีหมอกจาง ๆ ฉดชื่นนนนน














อาบน้ำ อาบท่า เก็บคฤหาสน์ สัมภาระ ใส่รถ
อาหารเช้าที่เค้าจัดให้ไม่มีอะไรมากนัก ไมโล กาแฟ ขนมปัง ไข่ดาว ข้าวต้ม ข้าวผัด น้ำผลไม้
อ่อ มีเสาวรสสด ๆ ใส่ตะกร้าให้กินด้วย 

8 โมงกว่า ๆ พร้อมออกเดินทาง อากาศวันนี้ ไม่หนาว ไม่ร้อน แค่เย็น ๆ เสื้อยืดตัวเดียว เอาอยู่ 
กลับออกมาเส้นหลัก เพื่อมุ่งหน้าสู่อำเภอ กงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ระยะทางประมาณ 169 km 
รีวิวเค้าว่าเป็นอำเภอเล็ก ๆ สงบ ๆ แต่ที่เด่นคือ ขนมผิงแง้มประตูแม่ติ๋ม กับ ผัดไทใบตอง 
ไหน ๆ ก็ต้องผ่าน แวะฝากท้องมื้อกลางวันที่นั่นละกัน

ฝากความหวังไว้กับ google map สุดท้ายก็ได้เรื่อง วนไป วนมา อยู่ 3 ตลบ ยังหาร้านไม่เจอ 
ด้วยความที่มันเป็นร้านเล๊ก เล็ก แถมอยู่ในชุมชน เล๊ก เล็ก 
บางที หมุดที่ปักไว้ ก็ไม่ 100% เนอะ อาศัยถามชาวบ้านไปด้วย จนเจอ 
ผัดไทสูตรพิเศษของสุโขทัย ใส่ถั่วฝักยาวด้วย








เส้นเหนียวหนึบ รสชาติหนักไปทางหวาน แต่มันฉ่ำ ๆ ดี ไม่แห้ง
กินจานน้อย ๆ ก็กำลังอร่อย ถ้ามากกว่านี้จะเริ่มเลี่ยนละ

ออกจากร้านผัดไท ค่อย ๆ ขับไปหาร้านขนมผิง
ไม่เจอแม่ติ๋ม ได้แม่กุหลาบมาแทน รสชาติก็เหมือนขนมผิงทั่วๆไปนะ หอม ๆ แห้ง ๆ 

ออกมาเข้าสู่ถนนหลัก มุ่งหน้าไปอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย 
สถานที่ที่พี่อ้ออยากมานักหนา นางบอก มีความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน โอววววว
มันอารมณ์คล้าย ๆ เที่ยวอยุธยา ก็เป็นโบราณสถาน อะไรทำนองนั้นอ่ะ 













แมวศรีสัชฯ สงสัยมาพักผ่อนส่งท้ายปี ^^


ขับรถวนเที่ยวไปรอบ ๆ ปล่อยพี่อ้อดื่มด่ำกับสถานที่ไป 
อิ่มเอมกับสถานที่นี้แล้ว ก็เข้าไปในตัวเมืองศรีสัชฯ เพื่อหามื้อบ่ายแก่ๆ ใส่ท้อง 
ตัวเมืองค่อนข้างเล็ก ถึงเล็กมาก วนแพร๊บเดียว จบละ
อยากกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แต่อด คนขายบอกว่า ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยส่วนใหญ่ จะขายถึงแค่4โมงไม่เกินนั้น เลยต้องกินอาหารตามสั่งกันไป กินให้มันจบ ๆ ไป
แล้วก็แวะเข้าตลาดสด เดินดูนู้นนี่ ซื้อเสบียงนิดๆหน่อยๆ สำหรับคืนนี้ 

ออกจากตลาด รีบบึ่งไป วนอุทยานศรีสัชนาลัย ที่พักของเราคืนนี้
ระยะทางจากถนนใหญ่ เข้าไปอีกเกือบ 60 km รีบทำเวลา เพราะเกรงว่าจะถึงที่หมายมืดค่ำซะก่อน เพราะคืนนี้เราจะนอนในคฤหาสน์หลังเดิม กันอีกครั้ง 
ยังไม่รู้ว่า หนทางข้างหน้า จะเจอกับอะไร ( เวอร์ไปมะ ) 
ยิ่งเข้าไปลึก สองข้างทางก็ยิ่งเปลี่ยว บ้านคนอยู่ห๊าง ห่างกัน
เข้าไปได้ครึ่งทาง สัญญาณโทรศัพท์ดับสนิททุกค่าย จบสิ้นกันละเรา 

ในที่สุด ก็มาถึงที่ทำการอุทยานก่อนที่ฟ้าจะมืด โชคดีของเราอีกแล้ว คนน้อยมากกก
แต่ละเต้นท์ กางอยู่ห่าง ๆ กันตามขอบ ๆ พื้นที่วงกลมที่จัดไว้ให้กาง 





















                                                                     ที่ทำการอุทยาน




























                                                       ป้ายบอกทางไปเที่ยวน้ำตก









ห้องน้ำ มีเยอะห้อง และมีหลายจุด บ้านพัก น่าจะเต็ม เพราะมีอยู่ไม่กี่หลัง
พี่อ้อเดินสำรวจ หาที่เหมาะ ๆ สำหรับสองสาวอย่างเรา


























                                 
                                          แอบส่องเต้นท์ชาวบ้าน หลังนี้เลือกกางริมน้ำ



                                                         
                                             มีลำธารน้อย ๆ ด้วย คงไหลมาจากน้ำตก












                                                       บ้านพักอุทยาน  ต้องจองล่วงหน้า





ในที่สุด ก็เลือกปักหลักมันหน้าบึงน้ำ กลางลานนี่แหล่ะ ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานด้วย 














                                               
                                                       วิวหน้าเต้นท์ของเรา




กางเต้นท์เรียบร้อย ฟ้าเริ่มมืดพอดี จุดเทียนที่เตรียมมา นั่งกินมื้อเย็นกันไป เม้าท์มอยกันไป 
วู๊ยยยยย โรแมนติกฝุด ๆ นี่ถ้าใครจีบกันใหม่ ๆ แล้วมาฟิลนี้นะ ฟินนนนเลอ ….


การมากางเต้นท์ในที่ทำการอุทยาน ไคลแมกซ์มันอยู่ตรงที่เวลาอาบน้ำนี่ล่ะ 
ห้องน้ำรวม ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น น้ำเย็นเจี๊ยบจับใจ เป็นฝักบัวด้วย ดีนะที่น้ำแรง
ตัดใจเปิดน้ำ ซู่แรก วาบ วาบ ตั้งแต่หน้าไปถึงขา 
ช่วงปิดน้ำเพื่อถูสบู่ เอ๊ะ ทำไมไม่หนาวแล้วล่ะ ไม่เห็นเหมือนตอนอาบน้ำอุ่น
เวลาอาบน้ำอุ่น ปิดน้ำปุ๊บ หนาวปั๊บ สงสัย น้ำเย็นจัดจนมันชา อาบต่อได้อย่างสบายใจ


ก่อนนอน เอาแบตสำรองไปฝากชาจ์ทไว้ที่ทำการฯ
เข้านอนด้วยความสุขใจ คฤหาสน์ของเรา มี background เป็นต้นไม้ใหญ่ และดาวระยิบระยับเต็มฟ้า…


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น