วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

ทริปส่งท้ายปีม้า Day 1 : นนทบุรี - เพชรบูรณ์

December 26 , 2014

Day 1 : นนทบุรี - เพชรบูรณ์ 

เทศกาลส่งท้ายสิ้นปีนี้ ได้หยุดกันยาว ยาว เราลาเพิ่มนิดหน่อย เลยได้พักยาวถึง 10 วัน
ธันวา  อากาศดี๊ ดี ใคร ๆ ก็จัดทริปไปทางเหนือ อากาศหนาว ๆ ก็อยากเที่ยวเหนือ ๆ บ้าง
ไม่ค่อยได้ไป แบบว่ากลัวคนเยอะ แต่ปีนี้ตั้งใจ ไปก่อน กลับก่อน หนีภาวะแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว 

ออกเดินทางกันแต่เช้ามืด กะเวลาให้ไปถึงวิเชียรบุรีสัก 9 โมง 
แวะวิเชียรบุรี มาทำธุระที่ค้างคา เสร็จภารกิจทันเบรคพักเที่ยงพอดิบพอดี
มาถึงที่นี่เค้าว่าต้องกินไก่ย่างบัวตอง หรือไม่ก็ ไก่ย่างตาแป๊ะ 
เคยลองแล้วทั้ง 2 ร้าน ส่วนตัวชอบของร้านบัวตองมากกว่า ตาแป๊ะไก่แห้งไปหน่อย 

อิ่มท้องแล้ว เดินทางต่อ ออกจากร้านปุ๊บ เจอด่านปั๊บ 
ฟาดเคราะห์ส่งท้ายปีไป 4 ร้อย ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด T T
หาข้อมูลจาก internet ร้านเด่นร้านเด็ดที่เค้ารีวิวกันไว้ 
ยิงยาว 150 km เข้าสู่อำเภอหล่มสัก เพื่อไปแวะกินขนมจีนเจ๊สั้น
บางครั้ง รีวิวก็หลอกดาว ทั้งร้านมีลูกค้านั่งทานอยู่ 2 โต๊ะ 
แอบคิดบวกว่าอาจจะเป็นเพราะเรามาก่อนวันหยุด คนเลยยังน้อย
สั่งชุดขนมจีนสำหรับ 2 ที่ แล้วก็ไข่ต้ม ลูกชิ้นกุ้งทอด ( เค้าแนะนำ ) 
มีน้ำยาในหม้อใบเล็ก ๆ วางอยู่บนโต๊ะ 3 หม้อ เป็นน้ำยาป่า เย็นชืด ๆ กับน้ำยาน้ำพริก
อีกหม้อเป็นน้ำใส ๆ คล้ายน้ำซุป เย็นชืดเหมือนกัน จะโอเคก็ตรงน้ำยากระทิ ที่เพิ่งอุ่นร้อน ๆ มาให้
จบมื้อบ่ายไปแบบ เบา ๆ งง ๆ

ออกจากหล่มสัก มุ่งหน้าสู่ วัดผาซ่อนแก้ว ไม่ไกลกันมากนัก 29 km 
ดูเหมือนไม่ไกล แต่ใช้เวลาขับเกือบชั่วโมง เหตุคือเส้นทางคดเคี้ยวไปมา
แถมกำลังทำถนนตลอดเส้นทาง

วัดสวยงามอลังการ สมกับที่เค้ารีวิวว่าใครมาเขาค้อแล้วต้องแวะ 

































































วัดนี้มีสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วย แต่คนมาปฏิบัติช่วงนี้อาจจะต้องฝึกจิต ข่มใจกันหนักหน่อย 
นักท่องเที่ยวหลากหลาย เอะอะมะเทิ่งกันแบบไม่เกรงใจป้ายที่แปะบอกไว้

ใช้เวลาอยู่บนวัดพักนึง แล้วก็ออกเดินทางต่อ
อยากไปให้ถึงที่พักก่อนจะมืดค่ำ ด้วยเพราะไม่รู้ว่า ที่นอนคืนนี้จะเป็นยังไง
รู้แค่ เราจะมากางเต้นท์ เต้นท์ เต้นท์ 

ก่อนมาเลือกเสริ์ชหา รีสอร์ทเอกชนขนาดเล็ก ที่มีบริเวณจัดเตรียมสำหรับที่กางเต้นท์ให้ 
จากข้อมูลที่โทรถามมา มั่นใจได้หน่อยนึงว่า เราจะไม่เจอบรรยากาศแบบ เต้นท์ ชน เต้นท์ 
แบบเปิดเต้นท์มาหน้าแทบชนกัน หรือตื่นมา เอ๊ะ ทำไมนอนอยู่ข้าง ๆ รถใครหว่า งี้

เลือกกางเต้นท์ที่ " AAA เล่ากี่รีสอร์ท" อยู่แถวสะเดาะพง
เส้นเดียวกับไร่บีเอ็น แต่ขับเลยเข้าไปอีก 28 km
เพลิดเพลินกับบรรยากาศ ร้านค้า สองข้างทาง จนไปถึงป้าย ... จุดสิ้นสุดถนนหลวง 





เฮ๊ยยยย ทำไมยังไม่ถึงสักทีนิ แต่ก็ยังอุ่นใจ เพราะเห็นป้ายรีสอร์ท ขับต่อไปอีกนิด ขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงทางเข้าที่พัก โอ๊ะ แม่จ้าวววว แบบว่าดีงามมมมมม อ่ะ 



                                          ถนนเส้นเล็ก ๆ นั่น คือทางเข้ารีสอร์ท











จอดรถเสร็จ ลงไปติดต่อเจรจา ขอเช่าสถานที่กางเต้นท์ ค่าใช้จ่าย 200/คน รวมอาหารเช้า
ราคานี้คือเราเอาเต้นท์และเครื่องนอนมาเอง เจ้าของเป็นคุณลุง อายุอานามน่าจะ 50 กว่า ๆ ดูท่าทางใจดี แกบอกบ้านพักยังไม่เต็ม แต่ถ้าอยากกางเต้นท์ เลือกที่กางตามสบายเลย
เพราะจะมีเพียงเราแค่เต้นท์เดียว 

จัดแจงขนอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องนอน มายืนเล็งทำเลที่คิดว่าจะเห็นภาพยามเช้าได้แจ่มแจ๋วที่สุด
แล้วก็กางมันใต้เต้นท์ขาว ๆ ที่เค้ากางไว้แล้วอีกที เผื่อน้ำค้างลง อิ อิ


ไอ้ที่เป็นดินยกเป็นแปลง ๆ นั่น เค้าปลูกสตอเบอรี่ไว้




ฉกภาพมาจากเวป  เป็นบ้านพักหลังใหญ่  เหมาะกับกรุ๊ปที่มากันหลายคน











ปูพื้นเต้นท์ด้วยเสื่อโยคะชั้นแรก ตามด้วยพรมขนสัตว์ที่ได้รับมรดกมาจากคุณแม่พี่จุ๊บ 
ปิดท้ายด้วยผ้านวมผืนบาง  ขนหมอน ขนผ้าห่มมาพร้อม หู๊ยยยยย แสนสุข




จัดเตรียมที่นอนเสร็จ ก็ออกไปหามื้อเย็นกินกันที่ร้านมาลี ห่างจากที่พัก 3 km 
อย่างน้อย มื้อเย็นวันนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเกินไปนัก อิ่ม อร่อย
อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ ว่าแล้วก็กลับไปสู่คฤหาสน์หลังน้อยของเราดีฟ่า
ห้องน้ำ ไม่มีใครแย่ง ไม่ต้องต่อคิว มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ แค่ต้องเดินไกลนิดนึง 
ศาลาข้าง ๆ เต้นท์ มีปลั๊กไฟไว้ให้เสียบชาจท์แบตได้ หรือจะไปฝากเสียบไว้ที่ร้านอาหารก็ได้ 


ราตรีสวัสดิ์ค่ำคืนนี้ กับประสบการณ์นอนเต้นท์ครั้งแรก.. ของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น