วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

smart phone







วันนี้มาเล่าเรื่องของการมีโทรศัพท์ไว้ในครอบครอง

ของชาว overseas ที่นี่กันสักหน่อยดีกว่า

ประเทศนี้ ถ้าเราอยากมีโทรศัพท์ไว้ใช้

สามารถเดินเข้าไปใน shop แล้วกลับออกมา

พร้อมกับโทรศัพท์ใหม่เอี่ยมพร้อมเบอร์

โดยไม่ต้องเสียกะตังค์สักบาท

เพียงแค่มี documents ที่อยู่ใน conditions

อาทิเช่น พาสปอร์ต , เอกสารแสดงสถานะการเป็นนักเรียน

บัญชีธนาคารที่มีชื่อและที่อยู่ ประมาณนี้



เงื่อนไขที่เราต้องยอมรับคือ เมื่อได้เครื่องมาแล้ว

เราต้องใช้จนกว่าจะหมดสัญญา ส่วนใหญ่จะ 24 เดือน

เครื่องถึงจะหลุดเป็นของเราโดยสมบูรณ์

ถ้ายกเลิกการใช้เบอร์และเครื่องก่อนหน้านั้น ก็ต้องเสียค่าเครื่อง

ถ้าใช้ครบกำหนดแล้ว เราก็มีสิทธิไปถอยเครื่องใหม่มาได้อีก



ค่าใช้บริการมีทั้งระบบรายเดือน ( cap ) และเติมตังค์ ( pre-paid )

cap มีตั้งแต่เดือนละ $19 ไปจนถึงร้อยกว่า

ถ้าcap ถูก เครื่องก็จะไม่ไฮโซมาก ธรรมดาทั่ว ๆ ไป

iphone BB Nokia บางรุ่น เริ่มต้นที่ cap $49 ขึ้นไป





เครือข่ายของการให้บริการที่นี่ มีอยู่หลัก ๆ ประมาณ 5 บริษัท

ถ้าใครอยากจะไปถอยเครื่องมันทุกค่ายก็สามารถทำได้

แต่จะทำไปเพื่อ? เพราะนั่นหมายถึงต้องจ่ายค่าบริการทุกเครื่องด้วย




ต้นเดือนที่ผ่านมา ต้าไปเล็ง ๆ จะถอยโทรศัพท์ใหม่

ขณะที่ลังเล ว่าจะรอ iphone4 ที่กำลังจะมา หรือจะเอา BB ดี

สายตาพี่อ้อก็ไปสะดุดกับ BB สีขาว พนักงานบอกว่า

เพิ่งมาใหม่ เป็น limited edition

แรงเชียร์จากพี่อ้อ ทำให้ต้ากลายเป็นสาวก BB ไปโดยปริยาย

ส่วนพี่อ้อ ถัดมาไม่กี่วัน ก็ไปถอย iphone มาไว้ในครอบครอง




BB ของต้า ใช้มาได้ประมาณ 3 วีค ปัญหาก็เกิด

- ระบบ silent ไม่ทำงาน พอมีสายเข้า เสียงยังคงดังอยู่

- เวลาอุ๊โทรเข้า หน้าจอไม่โชว์อะไรเลย จนกว่าอุ๊จะวาง ถึงจะเห็นว่า missed call

- msn ไม่โชว์ picture


พอ แค่นี้ก็เพียงพอ เกินกว่าที่จะรับได้

แวะกลับไปที่ร้านใกล้บ้าน ชี้แจงให้พนักงานฟัง

ปกติ หากเครื่องมีปัญหา สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ภายใน 28 วัน

พนักงานสาวบอกข่าวดี ว่าเครื่องสีขาว ไม่มีในสต๊อก T T

นั่นหมายถึง เราต้องรอ งั้นหรือ?



พี่จุ๊บบอกว่า มันเป็นที่ตัว firmware

ถ้าเค้าลงตัวนี้ให้ในเครื่อง ก็น่าจะหาย

แต่ต้าอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่

ไม่อยากทำความเข้าใจ ว่าอะไรคือ firmware

ผู้บริโภคอย่างเรา จำเป็นต้องมารู้จักมันด้วยหรือ

เรามีหน้าที่ใช้สินค้าอย่างเพลิดเพลินตะหาก


............


อังคาร 3 สิงหาคม


ตรงดิ่งไปที่ shop แต่เช้า

ชี้แจงความประสงค์กับพนักงาน วันนี้เป็นตี๋อินโด สองคน

ตี๋บอกเรื่องเดิม ๆ คือตอนนี้ที่ร้านไม่มีเครื่องให้เปลี่ยน

เพราะเป็นเพียง dealer เล็ก ๆ ไม่มีเครื่องสำรองมากมาย

แล้วก็คงไม่มีเครื่องมาลงแล้ว เพราะมันเป็น limited edition

วิธีการแก้ปัญหาให้ก็คือ ส่งเครื่องไปให้ที่ศูนย์เช็คและแก้ไข

ระยะเวลา max อยู่ที่ 3 วีค T T

ระหว่างที่ซ่อมก็ไม่มีเครื่องมาให้ใช้แต่อย่างใด

ไอ้เรื่องเครื่องสำรองนี่ไม่เท่าไหร่ เพราะเรามี

แต่อยากได้เครื่องใหม่ เพราะคิดว่า เครื่องนี้ มันปัญหาเยอะ

เกินกว่าจะรับได้ ถ้าซ่อมกลับมาแล้ว เกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาอีกล่ะ

เราก็ต้องกลับมาหาเพื่อให้ส่งไปซ่อมแล้วก็รออีกงั้นหรือ




อารมณ์เริ่มพุ่งปรี๊ดขึ้นมาอยู่ที่คอ เสียงเริ่มดัง สีหน้าเริ่มออก

ระเบิดลูกย่อม ๆ บึ้มใส่สองตี๋

สองตี๋เลยเสนอทางเลือกที่สองให้

ก็คือให้เราไปที่ store ในเมือง ซึ่งไม่ใช่ dealer แต่เป็น Head office

เขามีเครื่องในสต๊อกเยอะ และมี power ในการตัดสินใจแก้ปัญหาได้ดีกว่า

แล้วนี่มันใช่ธุระของเรามั้ย ต้องเสียเวลาไปอีกที่นึงเนี่ย


เราก็ถามไปว่า ยูจะโทรไปชี้แจงกับพนักงานที่นั่นให้ชั้นก่อนหรือเปล่า

ไปถึงชั้นก็เอาเครื่องให้เขา เพื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้เลยใช่มั้ย

คำตอบคือ No

ปรี๊ดอีกสิ คราวนี้พุ่งขึ้นมาที่หูแร่ะ

นี่แกจะให้ชั้นไปอธิบายทุกสิ่งอย่างให้ที่นู้นฟังอีกรอบงั้นรึ

แล้วถ้าเขาไม่สนใจ ไม่รับฟัง ไม่แก้ไข เพราะเราไม่ได้ซื้อกับเขาล่ะ



นี่มันเหมือนยูจะปัดปัญหาให้พ้น ๆ ตัวไปเลยนะเนี่ย

โวยวายอยู่พักใหญ่ สองตี๋ก็ยังทำหน้ามึน ให้เราแค่สองทางเลือก

เอาว่ะ วันนี้ไม่มีธุระอะไร ลองไปที่ store ในเมืองดูก็ได้


ระหว่างทาง โทรไปปรี๊ด ๆ ให้อุ๊กับพี่อ้อฟังคนละรอบ

เย็นนี้อุ๊จะมาบ้าน เลยรีบบึ่งรถออกมา เผื่อจะช่วยกันสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรม


ไปถึง store เจอสาวเกาหลี ยืนทำหน้าเริ่ด

แล้วตอบปฏิเสธทุกสิ่งอย่างแบบไร้เยื่อไย

แถมบอกว่า ที่นี่ไม่มี head office เขาโกหกเธอแล้วล่ะ



หึ หึ ดีกรีความโกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นมาถึงหู

อยากต่อยหน้าตี๋อินโด ฮึ่ม ฮึ่ม

โทรหาอุ๊ อุ๊ใกล้ถึงในเมืองแล้ว เลยนัดเจอกัน


ก่อนที่จะกลับไป shop แถวบ้าน เพื่อทิ้งระเบิดลูกใหญ่

เราก็แวะไทยทาวน์ ซื้อของสดสำหรับทำกับข้าวกินกันเย็นนี้

อุ๊ชวนไปห้างแถว bondi จะไปดูกระเป๋าให้เพื่อนขวัญ

อืม กระเป๋าสวยดี อุ๊บอกว่า ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยด้วย

ถูกใจใบเล็กสีขาว แต่เกรงว่า ใช้ไปไม่กี่ทีอาจจะเริ่มดำ
อืมม หรือจะเอาใบเล็กสีดำ แต่ใบใหญ่ก็สวยดี ที่สำคัญ sale ด้วย


ระหว่างที่กำลัง ลังเล ลังเล ว่าจะเอาใบใหญ่หรือใบเล็กดี

อุ๊ซึ่งตัดสินใจซื้อและจ่ายตังค์แล้วเรียบร้อย

ก็เดินมาหาพร้อมกับถุงสองใบ

ยื่นถุงใบนึงมาให้ แล้วบอกว่า "อ่ะพี่ อุ๊ซื้อให้ เป็นของขวัญล่วงหน้า"

เอ๊ยยยย ล่วงนานไปมั้ย รักษาคอนเซปต์จริง ๆ น้องพี่

ยังไงก็ขอบใจมากน๊า เกรงใจ ราคาไม่ใช่ถูก ๆ เลย

อุ๊ซื้อใบเล็กให้ เราก็เลยสอยใบใหญ่มาด้วยซะเลย ^^


ได้กระเป๋าแล้วก็ออกจากห้าง สบายใจ พร้อมไปสะสางเรื่องโทรศัพท์ต่อ

ระเบิดลูกเมื่อเช้า ลดดีกรีความแรงลงไปแล้ว

สองสาว ไปช่วยกันเจรจา เพื่อแสดงเจตนารมณ์อันชัดเจนว่า

ต้องการเครื่องใหม่เท่านั้น

ตี๋อินโดบอกว่า เด๋วจะระบุลงไปในใบส่งซ่อมให้

ตอนนี้ วีคนึงผ่านไปแล้ว ถ้า 3 วีค ยังไม่ได้ จะไปวี๊ดบึ้มอีก คอยดู



ปล. ขอบคุณพี่จุ๊บสำหรับ PF silicone case ทั้งของ BB และ iphone นะคะ

แค่เปรย ๆ ว่าที่นี่ขายแพง แบบธรรมดา ๆ ไก่กา ยังตั้งสิบห้าดอลล์

พี่จุ๊บส่งตรงจากเมืองไทยมาให้เลย ใจดีที่ซู๊ดดดด ^ ^

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 สิงหาคม 2553 เวลา 15:04

    นี่ขนาดวีนแตกวี๊ดบีืมขนาดนี้ ยังมีอารมณ์สุนทรีย์กับการช็อปปิ้งอีก ทำได้จริง ๆ 55

    big_birdy

    ตอบลบ
  2. ขอให้ได้โทรศัทพ์เครื่องใหม่กิ๊ง ไร้ปัญหากวนใจนะคะ

    @big_birdy ... การช้อปปิ้งเนี่ย ช่วยลดระดับดีกรีความรุนแรงของการวี๊ดบึ้มลงนะจ๊ะ เป็นโชคของ 2 ตี๋นั่นนะเนี่ย

    ตอบลบ
  3. ตอนนี้สองตี๋คงใจสั่นแย่

    เพราะถ้าเกิดเหตุขัดข้องเกิดขึ้นกับทอสับคุณต้าร์

    โทษคงถึงขั้นประหารแน่นอน คิ คิ

    คุณต้าร์ สู้ สู้ อย่าได้แคร์เรียกร้องสิทธิของเราเต็มที่คร้า

    ตอบลบ
  4. อ่านตอนแรก งง อะไรคือ สาวกะ2
    พอมาเจอรูปสาวcall center ถึงได้เก็ต
    คุณโอ๊ตเขียนติดกัน เลยหลงอ่านเป็น สา-วะ-กะ-2 อยู่ตั้งนาน

    -- สาว กะ2 มาจากอาการคุยโทรฯ ตอนหลับไปแล้ว...
    เสียงจะหวานๆ พูดไพเราะ แต่ตื่นมาลืมหมด

    ปล.เปลี่ยนจากน้องหมาเป็นน้องแมวแล้วเหรอค่ะ ^^
    -- ตอนนี้ เลี้ยงแมว(หลง) ที่อยู่ประจำออฟฟิตหน่ะครับ

    ตอบลบ