วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

My BD 2012

4 กุมภาพันธ์ 2555



วันเกิดปีนี้ พี่อ้อชวนไปทำบุญค่ะ


โดยที่บอกล่วงหน้า 1 อาทิตย์ ว่าให้เตรียมตัว


ไม่ได้มีอะไรยาก แค่ไปหาซื้อผลไม้มาปอก





เย็นวันศุกร์ มีประชุมที่ไซท์งานสุขุมวิท 47


ประชุมเสร็จ รีบบึ่งรถกลับบ้าน ไปหาซื้อผลไม้








เช้าวันเสาร์



พี่อ้อช่วยเตรียมอุปกรณ์ ล้างถาด และผลไม้ให้


ต้ามีหน้าที่ปอก ปอก ปอก


เลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาล


ชมพู ฝรั่งกิมจู แตงโม









ปอก ล้างน้ำเกลือแล้วพักไว้ สีจะได้สวย ๆ ไม่ดำ









พี่อ้อช่วยจัดเรียง


และคัดเลือกชิ้นไม่สวยออก (ใส่ปากแทน)





เตรียมของเสร็จ ก็อาบน้ำอาบท่า


เรียงถาดผลไม้ใส่รถ พร้อมออกเดินทาง






เรียงถาดผลไม้ใส่รถ









มุ่งหน้าสู่ บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน รามอินทรา


( เมื่อกลางปีที่ผ่านมา พี่อ้อเคยชวนไปอ่านหนังสือให้คนตาบอด


สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย อยู่แถว ๆ ประชาสงเคราะห์


เป็นการอ่านลงเครื่องบันทึกเสียง แล้วไรท์ลงแผ่นอีกที


ส่วนใหญ่เป็นหนังสือสำหรับใช้ในการศึกษา


เจ้าหน้าที่บอกว่า


เดี๋ยวนี้คนตาบอดจะขวนขวายศึกษา ให้มีปริญญาติดตัว


เพราะบางบริษัท จะมี 1 ตำแหน่งไว้สำหรับผู้พิการทางสายตา


อาจจะเป็นธุรการ โอเปอเรเตอร์


เพื่อจะได้ทำงานอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมได้


เพราะอาชีพขายล็อตตารี่ที่เคยเป็นเหมือนอาชีพหลักของพวกเขา


ถูกแทนที่ด้วยคนที่มีร่างกายปกติดีไปแล้ว


ใครว่าง ๆ จะแวะไปอ่านก็ได้นะคะ สนุกดีเหมือนกัน )





กลับมาต่อกันที่บ้านเด็กตาบอดฯ


พี่อ้อบอกว่า โทรจองคิวล่วงหน้าเป็นเดือน


มื้อกลางวันเต็ม มีคนจองไว้แล้ว


Staff เลยเสนอให้เลี้ยงผลไม้แทน




นัดเวลาไว้ที่ 11 โมงครึ่ง ถึงตามเวลาเป๊ะ


สถานที่ไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่ก็ไม่อึดอัด


ที่นี่เพิ่งเปิดได้สัก 2 ปี อารมณ์คล้าย ๆ โรงเรียนอนุบาล


Staff มาช่วยยกถาดผลไม้ไปวาง


เด็ก ๆ นั่งรอหม่ำมื้อเที่ยงกันอยู่ตามบ้าน










เด็ก ๆ ที่นี่ มีอายุตั้งแต่ 4 ขวบ ไปจนถึงวัยรุ่น


แบ่งพักตามบ้าน


มีชื่อบ้านเรียกตามสี บ้านส้ม บ้านฟ้า บ้านชมพู ฯ


คัดเด็กที่มีวัยและทักษะใกล้เคียงกันอยู่บ้านเดียวกัน





มื้อเที่ยงวันนี้มีคนเตรียมส้มตำ


ไก่ทอด ข้าวเหนียวมาเลี้ยงน้อง





เราช่วย Staff จัดเตรียมอาหาร


โดยการแกะน่องไก่แล้วฉีกเป็นชิ้นๆ พอดีคำ


ปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อน ๆ พอดีคำ และส้มตำ ใส่ในชาม


Staff ช่วยกันแจกจ่ายชามอาหารให้กับน้อง ๆ


เสียงน้องบางคนตะโกนถาม ว่ามื้อนี้มีอะไรทาน


Staff บอกรายการอาหารและแถมท้ายว่า วันนี้มีผลไม้ด้วยค่ะ


แจกจ่ายอาหารคาวไปแล้ว ก็มาเตรียมผลไม้


เราติดจานกระดาษมาด้วย เผื่อ ๆ ไว้


แต่ Staff บอกว่า ใช้ไม่ได้


จำเป็นจะต้องใช้ชามเฉพาะที่จัดไว้ให้เท่านั้น


ลักษณะเหมือนชามก๋วยเตี๋ยวพลาสติก


จำเป็นต้องมีขอบโค้ง ๆ เอาไว้ให้น้อง ๆ สัมผัส


Staff ให้เราเอากรรไกรมาตัดผลไม้ ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ


แล้วใส่ในชาม ทุกอย่างต้องทำเป็นคำ ๆ


เนื่องจากว่า น้อง ๆ ไม่ได้แค่ตาบอด


แต่น้องส่วนใหญ่ พิการซ้ำซ้อนทางร่างกาย และสมอง


มันเป็นสิ่งละเอียดอ่อนที่ต้องใส่ใจ





มีน้องผู้หญิงคนนึง ตะโกนถามว่า มี มะละกอมั้ย


เล่นเอาเรารู้สึกผิด


ทำไมเราไม่ซื้อมะละกอมาด้วยว๊า


แต่น้องผู้ชายคนนึงชมว่าแตงโมอร่อย



^___^





สังเกตุได้ว่า เด็ก ๆ ไม่ชอบกินฝรั่ง


อาจจะเพราะมันแข็งและไม่ค่อยหวานฉ่ำ








หลังจากเด็ก ๆ อิ่มหนำกันแล้ว


พี่อ้อเดินแวะไปห้องด้านหน้า


มีเด็กอยู่ในห้องร่วม 10 คน กับพี่เลี้ยง 1 คน


ถามพี่เลี้ยงไปว่า เราขอเข้าไปเล่นกับน้องได้มั้ย


พี่เลี้ยงแนะว่า ให้ไปหลังถัดไปดีกว่า


เพราะน้องห้องนี้ค่อนข้างงอแง


เราเลยยืนมองน้องผ่านหน้าต่างแทน


ยืนสังเกตุพฤติกรรมน้องอยู่พักใหญ่


บางคน ชอบเล่นคนเดียว บางคน ก็ต้องการเพื่อน







อย่างน้องคนนี้ นั่งเงียบ ๆ คนเดียว


ชอบหาขวดมาดีด ๆ เคาะ ๆ แล้วคอยฟังเสียง








น้องคนนี้ปีนขึ้นไปอยู่บนกล่อง


แล้วเล่นกระดาษอยู่คนเดียว









พี่อ้อบอกว่า ไว้คราวหน้า จะเอาของเล่นมาบริจาค


เห็นเวลาน้องหยิบของเล่นมาเล่น หน้าน้องจะมีรอยยิ้ม


และของเล่นที่น้องมี ค่อนข้างเก่าจะแล้วด้วย





ก่อนกลับ แวะไปอุดหนุนเสื้อกันมาคนละตัว









แล้วก็จองคิวล่วงหน้าไว้สำหรับเดือนเกิดพี่อ้อ


เท่าที่เห็นในสมุดคิว


มีผู้ใจดี จองคิวกันแน่นล่วงหน้าหลายเดือน


คิวที่เราได้ก็เลยเป็นอาหารว่างช่วงบ่าย





เสร็จสิ้นภารกิจ กลับออกมาด้วยความอิ่มเอมใจ


อิ่มใจแล้ว ก็แวะหาอะไรหม่ำให้อิ่มท้องแถว ๆนั้น





โปรแกรมต่อไป พี่อ้อบอกว่า จะพาไปทานข้าว


เป็นร้านอาหารในซอยอารีย์


จองไว้ตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง


งุนงง ทำไมต้องจอง แล้วทำไมไม่จองตอนเย็น


กินข้าวอะไรตอนบ่าย3


แถมบอกว่า ให้เอารถไปเก็บ แล้วขี่ฟีโน่ไปกัน


จะได้ไม่เสียเวลา เผื่อรถติด



จะเสียเวลาอะไร เวลาเหลือเยอะแยะ ทำไมต้องรีบ



สุดท้าย ก็ต้องขับรถไป เพราะว่าฝนโปรยปราย




พี่อ้อซิ่ง ปาดซ้าย ปาดขวา ( จะรีบอะไรนักหนา )


หน้าซอยอารีย์รถดันติดสนิทอีก เพราะโรงเรียนเลิกพอดี


ไปถึงที่จอดรถของร้าน บ่าย3โมงครึ่งพอดิบพอดี


จอดรถเสร็จ เดินไปที่ร้าน


Forturner คันนึงขับเข้ามาพร้อมลดกระจกด้านคนขับ


อร๊ายยยย...


คุณน๊กกกกก นี่ คุณตั๊กด้วยย มาไงเนี๊ย





เดินไปถึงร้าน มองหาโต๊ะนั่ง


อ้าว เฮ๊ยยยย แพ็ตตี้กะน้องเจน โอ๊ววววว


และพี่จุ๊บกำลัง On the way พร้อมกับ Cake อร่อย ๆ


ครึกครื้น ครึกครื้น ^^


สาว ๆ รวมตัว ก็เฮฮา เม้าท์ เมา มันส์ กันไป




ไอ้เราก็นึกว่าไม่มีอะไรแล้ว


มารู้ว่ามีอีกโปรแกรมก็ตอนที่พี่จุ๊บถามว่า


จะไปดู Concert อะไรกัน




หือ อะไรอ่ะ Concert อะไร


หันขวับไปมองหน้าพี่อ้อ ได้ความว่า


พี่อ้อจองบัตร Concert Dee Seefa เอาไว้


รอบทุ่มครึ่งที่พารากอน


เป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้


ว๊าว ว๊าว Surprise!!



เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงอยากขี่ฟีโน่มา


เพราะเกรงว่ารถจะติด กว่าจะไปถึงพารากอน


ไหนจะหาที่จอดรถอีก แล้วก็ติดจริง ๆ กว่าจะถึงพารากอน


กว่าจะหาที่จอดแปะได้ เกือบ 2 ทุ่ม


แต่คุณตั๊กเตือนมาแล้ว ว่า Concert Atime


เลทอยู่แล้วค่ะ แล้วก็เลทจริง ๆ



เริ่มเล่น 2ทุ่ม เลิกเที่ยงคืน


เก้าอี้แข็งได้อีก เมื่อยมว๊ากกก





ขอบคุณ คนพิเศษ เพื่อนพิเศษ


รู้ว่าวันหยุด แต่ละคนก็มีโปรแกรมนู้นนี่กัน


แต่ก็ยังสละเวลามาทำให้เป็นวันที่พิเศษ


ขอบคุณมาก ๆ นะค๊า





^___^







ปล. เราเลือกสรรและจัดวางผลไม้ไปอย่างตั้งใจ

แต่ความสวยงาม ไม่ได้มีผลต่อผู้พิการทางสายตาแม้แต่น้อย

ฉะนั้น ไม่ว่าผู้ให้ จะมีภาพลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างไร

สิ่งที่สัมผัสกันได้ จึงเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจ ล้วน ๆ

2 ความคิดเห็น:

  1. Happy Birthday อีกครั้งค่ะ ... ขอให้ความสุขอบอวลอยู่รอบๆ ตัว ทุกๆ วันเลยนะคะ

    Tucky

    ตอบลบ
  2. โย่ว ๆ อิช้านทำแผนแตกเอง ... ก็ไม่บอกก่อนนิว่าคอนเสริต์เป็นหนึ่งใน surprised นึกว่าแค่ทานข้าวอย่างเดียว ...

    ตอบลบ