ถ้าแม่อุ๊มีหนูให้เร็วกว่านี้ ป้าต้าคงไม่ต้องมาทรมานใจ
เพราะคิดถึงหนูแบบนี้เล๊ยยยยย
หนูเริ่มดุ๊กดิ๊กอยู่ในท้องแม่
ในขณะที่ป้า ๆ มีเพลนที่จะกลับเมืองไทยกันแล้ว
ป้าๆก็เลยทำได้แค่ รับฟังข่าวคราวความเป็นไปของหนูอยู่ไกล ๆ
เสียดาย ที่ไม่มีโอกาสไปอยู่ให้กำลังใจแม่อุ๊ในวันคลอด
เสียดาย ที่ไม่มีโอกาสได้ร่วมเลี้ยงดูและกลั่นแกล้งในช่วงวัยที่ตอบโต้ไม่ได้
ไม่งั้น ป้าต้าคงมีเรื่องไว้เขียนเม้าท์หนูใน blog
เหมือนที่เคยเม้าท์พี่สาวหนูนั่นล่ะ
หนูลืมตามาเบิกบานที่ออสเตรเลีย ในเดือนมิถุนายน
เดือนเดียวกันทั้งแม่อุ๊และพี่กีตาร์
ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 4 กิโลเท่านั้นเอง เบา ๆ
( แม่อุ๊งี้แทบจะต้องเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ )
เสียดาย อีกครั้ง ที่ป้า ๆ อยู่เมืองไทย
ในคืนที่แม่คลอดหนู เลยไม่มีใครเลี้ยงพี่กีตาร์ให้
ป๊ะป๋ากับแม่อุ๊ เลยต้องกระเตงพี่สาวหนูเข้าห้องคลอดไปด้วย
พี่กีตาร์เลยมีโอกาสได้เป็นสักขีพยานในวันที่หนูเบิกบานออกมา
ไม่รู้ว่าโตขึ้น พี่กีตาร์จะจำเหตุการณ์เหล่านี้ได้บ้างรึป่าว
แม่อุ๊บอกว่า รู้สึกสบายใจ ที่พี่กีตาร์รักน้อง
คอยห่วง ไม่ยอมให้แม่ปล่อยน้องไว้คนเดียว
คอยเข็นรถเข็นให้ เล่นด้วยเวลาน้องร้อง
ก่อนเราเจอกัน แม่อุ๊ส่งรูปหนูมาให้ยลเป็นระยะ
ป้า ๆ รู้สึกว่าหลานเรามันช่างหน้าตาฮาจริง
ดูไร้อารมณ์ ไม่รู้ยิ้มเป็นมั่งป่าว
ต้องบอกให้แม่อุ๊ถ่ายรูปตอนยิ้มมาให้ดูบ้าง
แม่อุ๊ก็พยายามเป่าหู ว่าหนูหน่ะ น่ารัก อย่างนั้น อย่างนี้
ป้าก็ยังไม่หลงเชื่อ ยังเห็นเป็นเสือยิ้มยากอ้วน ๆ แค่นั้น
จนกระทั่ง ฟ้าส่งให้เรามาเจอกัน ( เวอร์จริงป้า )
ได้อุ้ม ได้เล่น ไม่กี่หนเท่านั้นแหล่ะ
เกิดอาการหลงรักผู้ชายคนนี้เข้าอย่างจัง
เด็กอะไรไม่รู้น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แขน ขา อ้วนเต่ง ตัวตึงแน่นไปหมด
ป้าอ้อบอกว่า หนูเป็นเหมือนตัวตัดอารมณ์
เวลาหันไปมองหน้าหนูทีไร
จะเห็นหนูทำหน้านิ่ว คิ้วขมวด เหมือนเจอเรื่องเครียดมา
เห็นแล้วขำ หน้าตาฮาได้อีก
แต่เวลาอารมณ์ดี กินอิ่ม นอนอิ่ม
ก็จะยิ้มง่าย มีเขินอาย ส่งเสียงอ้อแอ้
ป้าไม่รู้ว่า เด็กวัยเดียวกัน เค้าเป็นอย่างหนูรึป่าว
หนูกินเก่งมว๊ากกกกกก
ในวัย 7 เดือน หนูปลื้มข้าวบดผสมฟักทองเละ ๆ
มะละกอสุกนี่เลิฟมาก
กินในปริมาณที่เรียกว่าไม่น้อย พอหมดก็ยังไม่ยอมอิ่ม
แหกปากโวยวายจะกินอีก
เวลาแม่กะป้า ๆ ไปหาไรหม่ำกัน
จะต้องเตรียมอาหารของหนูไปด้วย
ระหว่างที่เรากิน ก็ต้องป้อนหนูไปด้วย
เพราะถ้าหนูเห็นพวกเรากิน แล้วหนูไม่ได้กิน
หนูจะมีอาการทันที
หงุดหงิดงุ่นง่าน ถีบขาอวบ ๆ ไปมา
มือไม้สั่น เหมือนจะลงแดงกันเลยทีเดียว
ตางี้ก็เบิ่งโต จ้องเขม็งไปที่โต๊ะอาหารและชามข้าว
พร้อมส่งเสียงอ้อแอ้ ๆ
เด็กอะไรไม่รู้ ตะกล๊ะ ตะกละ
แต่ทั้งป้าต้าและป้าขวัญ ต่างก็ไหลหลง
วันไหนที่แม่อุ๊ หอบหิ้วหนู ๆ ไปสุมหัวกันที่ออฟฟิตป้าขวัญ
ป้าต้าก็จะคอยหาเรื่องไปประชุม ไปตรวจไซท์งานในเมือง
ทำงานเสร็จก็ไม่กลับออฟฟิต แวะไปขลุกอยู่ด้วยกัน
เฮ้อ…. ว่าแล้วก็คิดถึง T T
ไอ่อ้วนของป้า
แม่มัวแต่เม้าท์ กินหัวเข่าแม่ซะเลย
อารมณ์ดี
มาป่วน
ป้าขวัญแกล้ง
แกล้งป้าขวัญ
ป้าอ้อแกล้ง
ขาได้สัมผัสพื้น ตื่นเต้น ๆ
ยิ่งอยู่ ยิ่งอ้วน
มองกล้องหน่อยอ้วนนนนนน
^__^
ฮือๆๆ อ่านแล้ว คำเดียวเลยพี่ คิดถึงมากกกกกก / ป้าขวัญ
ตอบลบเราคงไม่ได้เป็นป้าใครแหะ..
ตอบลบเพราะน้องชายก็เป็นชาวสีม่วงเหมือนกัน (เอิ๊ก)
คิดถึง คิดถึง คิดถึง
ตอบลบซึ้งนะ ซึ้งนะ คำนี้
ให้เธอ น๊ะจ๊ะ คนดี
คำนี้ คำนี้ จากใจ
(เน่าไม๊ 55)
********************
จาก.. ป้าขวัญ
คุณโอ๊ต
ตอบลบต้าลูกคนเดียวยังเป็นป้าได้เลย คุณโอ๊ตก็ไปยืมลูกเพื่อนมาเป็นหลานสิคะ
ป้าขวัญ
มาเป็นกลอนเชียว ลอกมาจากใยไหมป่ะเนี่ย 555
ิอดเจอหนอนบุ้งของป้าต้าเลย T_T อยากเจอกีตาร์ด้วย คราวหน้าไม่พลาดแน่!
ตอบลบน้าพัช :)