วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Happy Time ... 2

ถึง หนอนบุ้ง ของป้า



ถ้าแม่อุ๊มีหนูให้เร็วกว่านี้ ป้าต้าคงไม่ต้องมาทรมานใจ


เพราะคิดถึงหนูแบบนี้เล๊ยยยยย




หนูเริ่มดุ๊กดิ๊กอยู่ในท้องแม่


ในขณะที่ป้า ๆ มีเพลนที่จะกลับเมืองไทยกันแล้ว


ป้าๆก็เลยทำได้แค่ รับฟังข่าวคราวความเป็นไปของหนูอยู่ไกล ๆ


เสียดาย ที่ไม่มีโอกาสไปอยู่ให้กำลังใจแม่อุ๊ในวันคลอด


เสียดาย ที่ไม่มีโอกาสได้ร่วมเลี้ยงดูและกลั่นแกล้งในช่วงวัยที่ตอบโต้ไม่ได้


ไม่งั้น ป้าต้าคงมีเรื่องไว้เขียนเม้าท์หนูใน blog


เหมือนที่เคยเม้าท์พี่สาวหนูนั่นล่ะ




หนูลืมตามาเบิกบานที่ออสเตรเลีย ในเดือนมิถุนายน


เดือนเดียวกันทั้งแม่อุ๊และพี่กีตาร์


ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 4 กิโลเท่านั้นเอง เบา ๆ

( แม่อุ๊งี้แทบจะต้องเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ )


เสียดาย อีกครั้ง ที่ป้า ๆ อยู่เมืองไทย


ในคืนที่แม่คลอดหนู เลยไม่มีใครเลี้ยงพี่กีตาร์ให้


ป๊ะป๋ากับแม่อุ๊ เลยต้องกระเตงพี่สาวหนูเข้าห้องคลอดไปด้วย


พี่กีตาร์เลยมีโอกาสได้เป็นสักขีพยานในวันที่หนูเบิกบานออกมา


ไม่รู้ว่าโตขึ้น พี่กีตาร์จะจำเหตุการณ์เหล่านี้ได้บ้างรึป่าว



แม่อุ๊บอกว่า รู้สึกสบายใจ ที่พี่กีตาร์รักน้อง


คอยห่วง ไม่ยอมให้แม่ปล่อยน้องไว้คนเดียว


คอยเข็นรถเข็นให้ เล่นด้วยเวลาน้องร้อง






ก่อนเราเจอกัน แม่อุ๊ส่งรูปหนูมาให้ยลเป็นระยะ


ป้า ๆ รู้สึกว่าหลานเรามันช่างหน้าตาฮาจริง


ดูไร้อารมณ์ ไม่รู้ยิ้มเป็นมั่งป่าว


ต้องบอกให้แม่อุ๊ถ่ายรูปตอนยิ้มมาให้ดูบ้าง


แม่อุ๊ก็พยายามเป่าหู ว่าหนูหน่ะ น่ารัก อย่างนั้น อย่างนี้


ป้าก็ยังไม่หลงเชื่อ ยังเห็นเป็นเสือยิ้มยากอ้วน ๆ แค่นั้น



จนกระทั่ง ฟ้าส่งให้เรามาเจอกัน ( เวอร์จริงป้า )


ได้อุ้ม ได้เล่น ไม่กี่หนเท่านั้นแหล่ะ


เกิดอาการหลงรักผู้ชายคนนี้เข้าอย่างจัง


เด็กอะไรไม่รู้น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


แขน ขา อ้วนเต่ง ตัวตึงแน่นไปหมด


ป้าอ้อบอกว่า หนูเป็นเหมือนตัวตัดอารมณ์


เวลาหันไปมองหน้าหนูทีไร


จะเห็นหนูทำหน้านิ่ว คิ้วขมวด เหมือนเจอเรื่องเครียดมา


เห็นแล้วขำ หน้าตาฮาได้อีก


แต่เวลาอารมณ์ดี กินอิ่ม นอนอิ่ม


ก็จะยิ้มง่าย มีเขินอาย ส่งเสียงอ้อแอ้




ป้าไม่รู้ว่า เด็กวัยเดียวกัน เค้าเป็นอย่างหนูรึป่าว


หนูกินเก่งมว๊ากกกกกก


ในวัย 7 เดือน หนูปลื้มข้าวบดผสมฟักทองเละ ๆ


มะละกอสุกนี่เลิฟมาก


กินในปริมาณที่เรียกว่าไม่น้อย พอหมดก็ยังไม่ยอมอิ่ม


แหกปากโวยวายจะกินอีก



เวลาแม่กะป้า ๆ ไปหาไรหม่ำกัน


จะต้องเตรียมอาหารของหนูไปด้วย


ระหว่างที่เรากิน ก็ต้องป้อนหนูไปด้วย


เพราะถ้าหนูเห็นพวกเรากิน แล้วหนูไม่ได้กิน


หนูจะมีอาการทันที


หงุดหงิดงุ่นง่าน ถีบขาอวบ ๆ ไปมา


มือไม้สั่น เหมือนจะลงแดงกันเลยทีเดียว


ตางี้ก็เบิ่งโต จ้องเขม็งไปที่โต๊ะอาหารและชามข้าว


พร้อมส่งเสียงอ้อแอ้ ๆ


เด็กอะไรไม่รู้ ตะกล๊ะ ตะกละ



แต่ทั้งป้าต้าและป้าขวัญ ต่างก็ไหลหลง


วันไหนที่แม่อุ๊ หอบหิ้วหนู ๆ ไปสุมหัวกันที่ออฟฟิตป้าขวัญ


ป้าต้าก็จะคอยหาเรื่องไปประชุม ไปตรวจไซท์งานในเมือง


ทำงานเสร็จก็ไม่กลับออฟฟิต แวะไปขลุกอยู่ด้วยกัน

เฮ้อ…. ว่าแล้วก็คิดถึง
T T


ไอ่อ้วนของป้า

























แม่มัวแต่เม้าท์ กินหัวเข่าแม่ซะเลย





อารมณ์ดี






มาป่วน














ป้าขวัญแกล้ง






แกล้งป้าขวัญ







ป้าอ้อแกล้ง






ขาได้สัมผัสพื้น ตื่นเต้น ๆ













ยิ่งอยู่ ยิ่งอ้วน





มองกล้องหน่อยอ้วนนนนนน
^__^

5 ความคิดเห็น:

  1. ฮือๆๆ อ่านแล้ว คำเดียวเลยพี่ คิดถึงมากกกกกก / ป้าขวัญ

    ตอบลบ
  2. เราคงไม่ได้เป็นป้าใครแหะ..

    เพราะน้องชายก็เป็นชาวสีม่วงเหมือนกัน (เอิ๊ก)

    ตอบลบ
  3. คิดถึง คิดถึง คิดถึง
    ซึ้งนะ ซึ้งนะ คำนี้
    ให้เธอ น๊ะจ๊ะ คนดี
    คำนี้ คำนี้ จากใจ

    (เน่าไม๊ 55)

    ********************
    จาก.. ป้าขวัญ

    ตอบลบ
  4. คุณโอ๊ต
    ต้าลูกคนเดียวยังเป็นป้าได้เลย คุณโอ๊ตก็ไปยืมลูกเพื่อนมาเป็นหลานสิคะ

    ป้าขวัญ
    มาเป็นกลอนเชียว ลอกมาจากใยไหมป่ะเนี่ย 555

    ตอบลบ
  5. ิอดเจอหนอนบุ้งของป้าต้าเลย T_T อยากเจอกีตาร์ด้วย คราวหน้าไม่พลาดแน่!


    น้าพัช :)

    ตอบลบ