และแล้วก็วนกลับมาถึงวันครบรอบวันเกิด
ของคนพิเศษอีกครั้ง
เหมือนว่าเพิ่งจะทำการเซอร์ไพรส์ปีที่แล้วไปได้ไม่นานนี่เอง
ปีนี้ คิดแผนการล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ต้นปี
เพราะรู้ว่ากลางปี จะต้องกลับไปทำธุระที่ไทยอีกครั้ง
มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน
แต่ที่หลัก ๆ ต้องขอขอบคุณพี่จุ๊บ
ผู้ซึ่งจัดแจงทุกสิ่งอย่างที่ต้าอยากได้
มิเช่นนั้น คลิปเจิด ๆ คงไม่บังเกิดเป็นแน่แท้
เริ่มต้นที่ ต้าเห็นว่า พี่อ้อมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนคนไกลบ้าน
ไม่ได้เจอะเจอครอบครัว เพื่อนฝูง
อย่างมากก็แค่โทรคุยกัน
เลยอยากทำเป็นคลิปวีดีโอ รวบรวมบุคคลอันเป็นที่รัก
ซึ่งก็ได้แค่ครอบครัว พี่น้อง และ ญาติ ๆ
รวมถึงเพื่อนสนิทสุดเลิฟอีกสองคน
ซึ่งมีครอบครัว มีลูกมีเต้ากันไปหมดแล้ว
เพื่อนพี่อ้อทั้งสองคน ต้าไม่เคยเจอ ไม่เคยคุยด้วยมาก่อน
ก็ต้องแอบไปเสาะหาเบอร์โทรและที่อยู่มาจากสมุดพี่อ้อ
พอใกล้ ๆ วันจะเดินทางกลับไทย
ต้าก็บอกกับพี่จุ๊บไป ว่าให้ช่วยนัดวันกับเพื่อน ๆ
ที่ตั้งใจจะมาเจอกันอยู่แล้วนั้น
ว่าอยากให้ร่วมกันทำเป็นบรรยากาศปาร์ตี้วันเกิดให้หน่อย
ระหว่างรอเรื่องอยู่ที่ใต้ ก็โทรหาแม่พี่อ้อ
โทรหาเพื่อนทั้งสองคน
เล่าสิ่งที่อยากให้ร่วมด้วยช่วยกันให้ฟัง
แล้วก็นัดวันที่จะไปรับคลิป
พอต้าเสร็จธุระจากที่ใต้ แล้วขึ้นมากรุงเทพในวันอังคาร
บอกพี่อ้อไปว่า อยากจะอยู่ซื้อของนู้นนี่ก่อนสัก 4-5 วัน แล้วค่อยกลับ
แรก ๆ ก็โอเคดี แต่พอเจอวิกฤตบ้านเมืองเข้าไป
พี่อ้อร้อนใจ อยากให้กลับในบัดนาว
ตาย ๆ จะกลับได้ไง ภารกิจยังไม่ได้เริ่มเลย
คุยกันไปคุยกันมา เริ่มเป็นเรื่องใหญ่
สภาพอากาศอันหนาวเหน็บ บวกกับ ฝนตกทุกวี่วันของที่นี่
ทำให้สภาพจิตใจพี่อ้อยิ่งห่อเหี่ยว ถึงขั้นทิงนองนอย
โทรคุยกันทีก็ไม่เข้าใจกัน ถึงขั้นมีการเสียน้ำตา
พี่อ้อไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้าไม่รีบกลับ ทำไมห่วงซื้อของ ห่วงเที่ยว
จริง ๆ แล้ว ไม่รู้ว่าอยากให้รีบกลับ เพราะกลัวอันตรายจากภัยการเมือง
หรือกลัวต้าแอบไปมีกิ๊กมากกว่ากันไม่รู้
( Patty บอกว่า ต้าน่าจะเป็นฝ่ายกลัวพี่อ้อมีกิ๊กมากกว่านะ
แหม ๆ เห็นหมวย ๆ แบบนี้ ชั้นก็มีดีนะยะ )
ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลาย ต้าเลยตัดสินใจบอกพี่อ้อไป
ว่ามีอะไรจะสารภาพ
คิดว่าตอนนั้น ในใจพี่อ้อคงระทึกและเต้นรัว
คงคิดว่าต้าอาจจะไปทำผิดอะไรมา
(ถ้าไปออกศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ ช่วงจับชีพจร คงชนะเลิศ )
ต้าบอกพี่อ้อไปว่า ที่ยังไม่ยอมกลับ เพราะนัดกับเพื่อน ๆ ไว้
จะทำเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่อ้อล่วงหน้า
หลังจากบอกไป พี่อ้อดูจะโอเคขึ้น ยอมให้ต้าอยู่จนถึงวันเสาร์
เฉลยไปว่าจะทำเซอร์ไพรส์ แต่ไม่ได้บอกว่าทำอะไร ยังไงบ้าง
แอบตัดพ้อพี่อ้อไปว่า ดูสิ แล้วแบบนี้เพื่อน ๆ จะว่าไงเนี่ย
พี่อ้อตอบกลับมาว่า ต้าก็ไม่ต้องไปบอกเพื่อนสิ ว่าพี่รู้แล้ว
เอ้อ จะดีมั้ยเนี่ย
พอเพื่อน ๆ รู้ ก็เลยเปลี่ยนแผนกันใหม่
กลายเป็นมีโปสเตอร์สวย ๆ ที่ patty เบียดเวลางานไปทำมาให้
กับการ์ดทำมือไอเดียคุณนกและคุณตั๊ก
ส่งสองสิ่งนี้ไปเบี่ยงเบนความสนใจ ว่านี่แหล่ะ เซอร์ไพรส์
วันที่ต้ากลับมาที่นี่ ก็ยื่นสองสิ่งนี้ให้เลย
ที่เหลือ ก็เก็บเป็นความลับกันต่อไปจนถึงวันจริง
แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันไม่ง่ายขนาดนั้น
เพราะจนจะถึงวันกลับ ได้มาเพียงคลิปจากครอบครัวแค่แผ่นเดียว
ของเพื่อนสนิททั้งสอง และของโอปอลล์ ยังต้องรอ
เดือดร้อนพี่จุ๊บ ต้องเป็นคนจัดการทุกอย่างต่อให้
กว่าจะรวบรวมคลิปทั้งหมด เพื่อเอามาตัดต่อให้กลายเป็นแผ่นเดียว
พร้อมส่งถึงมือต้า ก่อนวันเกิดจริงเพียงแค่ 2 วัน
ถึงจะติดขัดไปบ้าง แต่ก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ทันทีที่พี่อ้อดูคลิปจบ ประโยคแรกคือ
" นี่พี่จุ๊บเป็นคนทำคลิปนี้เหรอเนี่ย โห... เก่งเนอะ "
อืม ใช่ เพราะถ้าให้ต้าทำเอง คงไม่ออกมาดีขนาดนี้
เพราะไม่ถนัดกับโปรแกรมตัดต่ออะไรใดใดทั้งสิ้น
อย่างเก่งก็คงเป็นเหมือน presentation ธรรมดาทั่ว ๆไป
พี่จุ๊บบอกว่า " นี่ทำให้ยิ่งกว่าแฟนชั้นอีกนะยะ " ^__^
แล้วถ้าไม่ได้ ducky ที่พยายามเสาะหาหนทางเข้าถึงโอปอลล์
biggest surprised ก็คงไม่เกิด
อีกทั้ง patty ที่อุตส่าห์ซุ้มซ้อมเปียโนเพลงวันเกิด
จนเกือบจะเชื่อว่าเธอคือมืออาชีพ!!
mandi ที่เตรียมท่องกาพย์กลอนมาอวยพรตั้งแต่บางปะกง
และสาว ๆ ที่เหลือ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานครึกครื้น
Tar la la ขอกราบขอบพระคุณทุก ๆ ความร่วมมือไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ๊า
ส่งท้ายด้วยคลิป VIP Guest แยกไฟล์มาให้ได้ชมกันคร่า
ส่วนของเพื่อน ๆและครอบครัว ขอเก็บไว้ดูเป็นการส่วนตัวดีกว่าเนอะ
วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
สุขสันต์วันพิเศษ คนพิเศษ
การ์ดอวยพรวันเกิดจากแม่พี่อ้อ
ส่งมาถึงที่นี่ก่อนวันเกิดจริงประมาณ 4-5 วัน
การ์ดจากอุ๊และก้นดำ
เป็นลายมือของก้นดำ เขียนว่า Love.. Kitar
ป้าและแม่ภูมิใจมากมาย ก้นดำเขียนได้ตามคำบอก
พร้อมกับของขวัญวันเกิด
ให้กันตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน
( อุ๊ยังคงรักษาคอนเซ็บต์ ให้ล่วงหน้าตลอด ตลอด
พอมีของในมือ ไม่สามารถรอให้ถึงวันจริงได้สักที )
โปสเตอร์สวย ๆ ใบนี้
เพื่อน ๆ ร่วมกันเขียนอวยพรให้
การ์ดทำมือชิ้นนี้
สาว ๆ ทั้ง 10 ชีวิต ร่วมด้วยช่วยกันจิ้มช่วยกันปักจนเสร็จสมบูรณ์
ก่อนที่จะย้ายไปช่วยกันจั่วในวงไพ่
................................
ศุกร์ 16 กรกฏาคม 2010
ห้าทุ่มสิบห้า : เริ่มต้นเซอร์ไพรส์ ยกที่หนึ่ง
กำลังจะปิดไฟนอน ต้าเอื้อมไปหยิบสิ่งที่แอบไว้ปลายเตียง
แล้วเอามาส่งให้พี่อ้อ
พี่อ้อยิ้ม แล้วรับไปแบบงง ๆ
พี่อ้อ : อะไรอ่ะ ของขวัญวันเกิดเค้าเหรอ
ต้า : ไม่บอก ลองเปิดดูจิ
พี่อ้อพลิกไปพลิกมา แล้วเปิดหยิบสิ่งที่อยู่ด้านในออกมา
พี่อ้อ : ไปทำรูปมาให้เค้าเหรอ
พอสายตาพี่อ้อโฟกัสไปที่รูปได้ปั๊บ
ก็ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นออกมาเลย
ต้า : เป็ดส่งมาให้เป็นของขวัญวันเกิดค่ะ
พี่อ้อ : ชอบ ๆ ถูกใจ ๆ โห มีลายเซ็นต์ด้วย
ต้า : อืม เป็ดไปcrop ลายเซ็นต์มาใส่ให้
พี่อ้อ : โอวว คดีอาญากันเลยนะเนี่ย
รูปจริง ๆ คือโอปอลล์ถ่ายคู่กับอ๊อฟ ปองศักดิ์เมื่อตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น
พอเอาหน้าพี่อ้อไปใส่ หน้าเลยดูยาวเกินจริง
ต้าว่าดูเผิน ๆ ไม่ค่อยเหมือนพี่อ้อสักเท่าไหร่
แต่พี่อ้อชอบมากมาย
พี่อ้อ : แล้วของขวัญของต้าล่ะ จะให้เลยป่าว
ต้า : อ๊าย อะไรเนี่ย ทวงกันงี้เลย ไม่เอาอ่ะ ยังไม่ให้
เร็วเนอะ เหมือนพี่เพิ่งจะคาดคั้นเรื่องของขวัญไปแหม๊บ ๆ เมื่อปีก่อน
ผ่านไปอีกปีแล้ว แก่เนอะ
...............................
เสาร์ 17 กรกฏาคม 2010
วันเกิดพี่อ้อปีนี้ เราจะไปฉลองวันเกิดกันที่บ้านพี่มิ้นท์
ช่วงเช้า พี่อ้อมีงาน ต้าไปช่วยพี่อ้อทำ เพื่อที่จะให้เสร็จก่อนเที่ยง
ส่วนอุ๊ รับอาสาไปจ่ายตลาด ซื้อข้าวของที่จะไปทำกินกันคืนนี้
สิบเอ็ดโมงหน่อย ๆ
ต้ากับพี่อ้อกลับมาถึงบ้าน อาบน้ำแต่งตัวรออุ๊มารับ
เที่ยงครึ่ง อุ๊มาถึงบ้าน
พร้อมกับเสบียงที่เราจะกินมื้อเที่ยงกันที่บ้านก่อนออกเดินทาง
ระหว่างที่นั่งหม่ำมื้อเที่ยงกันอยู่
ต้าก็เริ่มแผนการที่เตี๊ยมกันไว้กับอุ๊
ต้า : ไหนอุ๊ มีแวะซื้อแผ่นหนังอะไรมาดูมั่งป่าว เอามาเปิดดูหน่อยสิ
อุ๊ : มีพี่ น้องจะดู ล้วงลับฯ พี่เปิดเลย
ว่าแล้วต้าก็เอาแผ่นที่ซุกซ่อนกันไว้มาใส่เครื่องเล่น แล้วเปิด
พอภาพที่จอทีวีเริ่มฉาย พี่อ้อที่ก๋วยเตี๋ยวเต็มปาก ก็นิ่งไป แล้วก็
" เฮ้ยยยย.... นี่มันลูกเพื่อนพี่นี่ "
พี่อ้อนั่งดูไป กินไป สลับกับการยิงคำถามไป
" นี่ต้าไปเจอเพื่อนพี่มาเหรอ "
" นี่ถ่ายไว้เมื่อไหร่เนี่ย " ฯลฯ
ต้าไม่ตอบ รอให้พี่อ้อดูไปเรื่อย ๆ จนจบ
เป็นคลิปวีดีโออวยพรวันเกิด จากเพื่อนสนิทที่สุดคนนึงของพี่อ้อ
"แล้วนี่มีของไอ้เล็กด้วยป่ะเนี่ย"
"อ๋อ ไม่มีค่ะ ติดต่อไม่ได้ หาเบอร์ไม่เจอ "
พอดูคลิปแรกจบ พี่อ้อถามทันที หมดยังเนี่ย มีไรอีกป่าว
" ไม่มีแร๊ว "
แล้วก็ทำทีเป็นว่าหาแผ่นหนังมาเปิดดูกัน
อุ๊ : "ดูแผ่นนี้พี่ น้องเค้าบอกว่าเป็นเอ็มวีเกาหลี ที่ไทยกำลังดัง
อุ๊เลยซื้อมา กะจะเปิดให้ก้นดำดู เผื่อว่าชีจะชอบดูเต้น ๆ"
แล้วต้าก็ใส่แผ่นไป เปิดมาเริ่มต้นด้วยเอ็มวีเกาหลีจริง ๆ
ผ่านไปสัก15วินาที เสียงเพลงก็แผ่วลง ๆ จนเงียบหายไป
ตาพี่อ้อจับจ้องอยู่ที่ทีวี พร้อม ๆ กับที่มีคำโปรยขึ้นบนหน้าจอทีวี
.
.
.
แหม ๆ กำลังสนุกอยู่เลยล่ะซิ
พวกเราขอคั่นเวลาความสุขสักครู่
เนื่องจากวันนี้ เป็นวันพิเศษ
เริ่มเลยแล้วกัน
.
.
.
แล้วก็ตามด้วยคลิปวีดีโอ ที่พวกเราทั้ง 10 สาว
ได้ร่วมกันอวยพรไว้ในคืนปาร์ตี้เคอร์ฟิวที่บ้านพี่จุ๊บ
จบจากกลุ่มเพื่อนๆ
ก็ต่อด้วยคลิปจากครอบครัวและญาติ ๆ ของพี่อ้อ
ที่ต้าได้ขอความร่วมมือ
โดยการนัดแนะกับแม่พี่อ้อ ให้ช่วยทำคลิปให้
จากนั้น ก็มาถึง biggest surprised!!
เป็นคลิปที่ลุ้นมากมาย ว่าจะได้มามั้ย
นั่นก็คือ ผู้หญิงที่พี่อ้อชื่นชอบถึงขั้นอยากขอเป็นแฟนคลับ
สาวสวยรวยเสน่ห์... โอปอลล์ ปณิสรา พิมพ์ปรุ
ชีมาร่วมอวยพรผ่านคลิปวีดีโอ และเซ็นต์การ์ดมาให้ด้วย
.
.
.
.
ปิดท้ายคลิปด้วยการแสดงเล็กๆ น้อย ๆ ของ8สาว
ผ่านเพลง sorry sorry โดยการตัดต่อของพี่จุ๊บ
……………………….
ตลอดระยะเวลาที่เปิดคลิป
ต้าก็คอยสังเกตุสีหน้าและแววตาของพี่อ้อ
ช่วงที่เป็นการอวยพรของเพื่อน ๆ
พี่อ้อก็ดูไป ยิ้มไป หัวเราะไป
( โดยมีอุ๊คอยถามอยู่ข้าง ๆ ว่าคนนู้นใคร คนนี้ใคร )
พอมาถึงครอบครัว พี่อ้อมีสีหน้าตื่นเต้นปนประหลาดใจ
พร้อมทั้งอุทานว่า " เฮ้ย มีครอบครัวพี่ด้วยเหรอ "
พี่อ้อดูไป รำลึกความจำไป โดยมีอุ๊คอยถามอยู่ข้าง ๆ เหมือนเดิม
แล้วพอมาถึงคลิปโอปอลล์
" เฮ๊ยยย อย่าบอกนะว่าเป็นโอปอลล์หน่ะ "
พี่อ้อหลุดหัวเราะเสียงดังถึงดังมาก
ดังกว่าตอนเห็นรูปตัดต่อเมื่อคืนซะอีก
จบคลิป ด้วยรอยยิ้มและแววตาเปี่ยมสุขของพี่อ้อ
...............................
จบจากมื้อเที่ยงและเซอร์ไพรส์ยกที่สอง
เราก็เคลื่อนขบวนออกจากบ้าน ไปแวะรับก้นดำจากป๋าก้องที่ไทยทาวน์
แล้วมุ่งหน้าสู่บ้านพี่มิ้นท์ที่ Mount Colah
บ่ายสามโมง สิบนาที ถึงบ้านพี่มิ้นท์โดยสวัสดิภาพ by GPS
สามสาวเข้าครัว ทำกันไป คุยกันไป ชิมกันไป
ตอนแรก คิดไว้ว่าพี่อ้อคงงานหนักหน่อย
เพราะต้องคอยเล่นกับก้นดำ และดูแลมินดี้ไปด้วย
แต่ปรากฏว่า พอไปถึง มินดี้หลับ
ส่วนก้นดำ ปันใจจากป้าอ้อ ไปตามติดคุณลุงปีเตอร์แทน
เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้เลย เด็กคนนี้
ลุงปีเตอร์กับป้ามิ้นท์ให้ชุดระบายสีชุดใหญ่กับก้นดำ
เมนูปาร์ตี้วันนี้ เริ่มต้นด้วย Entrée
ลูกชิ้นปิ้งแบบไทย ๆ ให้คิดถึงบ้าน
สลับกับสตอเบอร์รี่ลูกใหญ่ ๆ ( เข้ากันมั้ยเนี่ย )
main ก็เป็น ปลาแซลมอนราดซอสเห็ดไวน์ขาวของคุณปีเตอร์
ส่วนพวกเราก็ ยำหมูยอ กุ้งอบวุ้นเส้น ต้มซุปเปอร์ ผัดผักspanish
อิ่มหนำสำราญจากมื้อเย็นแล้ว
ก็นั่งย่อย คุยกันไป เล่นกันไป
สองทุ่มหน่อยๆ ได้เวลาของหวาน
สาว ๆช่วยกันเอาเค้ก chestnut ที่เตรียมไว้บังหน้าออกมาเตรียมจุด
ส่วนต้าก็วิ่งจู๊ดขึ้นไปชั้นบน ไปเตรียมเค้กอีกก้อนที่แอบไว้ในตู้เย็น
ทุกคนพร้อมอยู่หน้าเค้ก chestnut ยกเว้นต้า
พี่อ้อถามหา อุ๊บอกว่า พี่ต้าไปขรี้ ( คิดได้เนอะ )
เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็ปิดไฟ
อุ๊บอกให้พี่อ้อปิดตา
( ทำให้พี่อ้อคิดไปว่า หรือต้าจะไปเปลี่ยนชุดมาแสดงอะไรให้ดู )
พอพี่อ้อเปิดตา ก็ได้เห็นเค้กอีกก้อนจากต้า
ซึ่งเป็นเค้กที่พี่อ้อเคยเปรย ๆ ไว้ว่า วันเกิดอยากเป่าอันนี้
ถือเป็นเซอร์ไพรส์ยกที่สาม
................................
เกือบสี่ทุ่ม สภาวะหนังท้องตึงเปรี๊ยะ บวกกับอากาศที่หนาวเย็น
แม้จะมีฮีทเตอร์และเตาผิง ทำให้สมาชิกพร้อมใจกันแยกย้าย
ส่วนต้ายังกังวลใจกับเซอร์ไพรส์อีกอันสำหรับวันนี้
เกือบห้าทุ่ม ได้รับสัญญาณ คลิปสุดท้ายผ่าน fb จากพี่จุ๊บ
ต้ารีบเปิดและชี้ชวนให้พี่อ้อดู ผ่านทางมือถือ
เป็นคลิปจากเพื่อนสนิทที่สุดของพี่อ้ออีกคนนึง
ที่พี่อ้อถามถึงไปเมื่อตอนกลางวัน แต่ต้าบอกไปว่าไม่มี
เสร็จสิ้นภารกิจ
หวังว่าคืนนี้ พี่อ้อจะนอนหลับฝันดี
..............................
อาทิตย์ 18 กรกฏาคม 2010
เช้าวันใหม่
พี่อ้อได้ยินเสียงอ้อแอ้ ๆ มาจากในห้องพี่มิ้นท์
เลยลุกขึ้น ไปเปิดห้องดู เห็นชีนอนเล่นอยู่คนเดียว
คุณปีเตอร์ไปทำงานแล้ว ส่วนคุณแม่ยังคงหลับอยู่
เลยเข้าไปอุ้มชี ลงไปเล่นข้างล่าง
เมนูเช้านี้พี่มิ้นท์เสริฟด้วยอาหารเช้าแบบฝรั่ง
อิ่มหนำสำราญก็ได้เวลาทยอยกันไปอาบน้ำแต่งตัว
สิบเอ็ดโมงกว่า อำลา Mount Colah กลับเข้าเมืองอีกครั้ง
บ่ายโมงกว่า อุ๊มาส่งเราและก้นดำที่บ้าน
แล้วไปทำงานต่อ เลิกงานแล้วถึงจะมารับชีกลับบ้าน
สามทุ่มหน่อย ๆ ต้าหยิบเซอร์ไพรส์สุดท้ายส่งให้พี่อ้อ
เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับปีนี้
v
v
" สุขสันต์วันเกิดจ๊า ... Darling "
" 37 แล้วเนอะปีนี้... ต้าคิดอยู่นานว่าวันเกิดปีนี้ จะให้อะไรพี่ดี
สุดท้ายก็มาจบลงตรงที่ สิ่งที่อยากให้พี่มีมากที่สุด นั่นก็คือ...
สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จะได้อยู่กันไปจนแก่จนเฒ่า
เพราะฉะนั้น ของขวัญของต้าปีนี้ก็คือ ...
แพ็คเก็จตรวจสุขภาพประจำปี' สำหรับสตรีอายุ 35 up
มูลค่า 1x,xxx.- จ๊า ^^ แต่ต้องรอกลับไทยก่อนนะ ถึงจะได้ใช้
Happy Birthday ค่ะ "
รักที่สุด '
~ Tar ~
…………………………
เลือกให้สิ่งนี้ เพราะคิดว่ามันสำคัญและเป็นสิ่งที่ควรจะทำ
search หาข้อมูล และ print ออกมาเก็บไว้ 5-6 แห่ง
เอามาให้พี่อ้อเลือกดู ว่าอยากตรวจโปรแกรมไหน โรงพยาบาลไหน
กลับไทยปีหน้า จะได้ไปใช้บริการกัน
...............................
ที่เล่าไปทั้งหมด เป็นส่วนของเบื้องหน้า
บล็อกหน้าถัดไป เด๋วจะเอาเบื้องหลังมาเล่าให้ฟัง
แล้วก็ยังมีเบื้องหลังในส่วนของพี่จุ๊บ และ ducky ด้วย
คาดว่าทั้งคู่คงจะอัพตาม ๆ กันมาในไม่ช้านี้
วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
เรื่องของผม
เม้าท์เรื่องก้นดำไปแล้ว วันนี้มาเม้าท์เรื่องพี่อ้อกันบ้างดีกว่า
ว่ากันด้วยเรื่องของทรงผม
หลังจากตัดทรงนู้น ทรงนี้ไปเรื่อยตามแต่จะไปสะดุดทรงไหน
ล่าสุด พี่อ้อตัดสินใจจะเลี้ยงผมบางส่วนตรงกลางกระหม่อม
เลี้ยงไว้ให้ยาวจนมัดได้ ส่วนด้านข้าง ก็ไถออกไป
เดือนที่แล้ว ก็เลยไปแจ้งความประสงค์กับช่างประจำ
เค้าก็จัดแจงไถด้านข้างออก แล้วก็บากลาย
สักอาทิตย์สองอาทิตย์ผ่านไป ผมด้านข้างก็จะเริ่มยาว
ลายก็จะจางลง
แล้วก็ไปไถออกใหม่ เปลี่ยนลายไปเรื่อย ๆ
ล่าสุด เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พี่อ้อชวนไปตัดผมเตรียมรับวันเกิด
ต้าไม่ได้เข้าไปในห้องตัดด้วย
เพราะเล่นกับลูกสาววัยขวบกว่าของช่างผมอยู่ด้านนอก
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้
พี่อ้อออกมาอีกที โอ๊วววววว ตกใจ
ผมตรงกลางยาวพอจะมัดได้แล้ว แต่ยังมีหลุดรุ่ยอยู่
ส่วนด้านหลังก็.....
พี่จุ๊บบอกว่า ยันต์กันต้า
ขอแก้ต่างนะจ๊ะพี่จุ๊บ มันกันไม่ได้หรอก
เพราะพี่อ้อไม่ได้หันหลังเข้าหา หันหน้าตลอด ตลอด ^ ^
พี่อ้อบอกว่า หัวโล่งมากกกก
เดินออกไปนอกบ้านนี่ เย็นไปถึงสมองเลยเชียว
รู้แล้วว่า พวกฝรั่งที่ตัดสกินเฮด ทำไมหน้าหนาวต้องใส่หมวก
วันก่อนเดินออกไปแถว park หลังฝนตก
มีน้ำค้างเกาะตามต้นไม้
หล่นแหม่ะใส่หัวพี่อ้อพอดี
" อุ่ย น้ำหยดลงหัว ปกติจะโดนผมก่อน แล้วค่อยซึมลงหัว
แต่คราวนี้ลงเต็ม ๆ ไม่ผ่านผม
เสียงน้ำหยดดังแป่ะ รู้สึกได้ถึงการแตกกระเซ็นของน้ำเลยทีเดียว "
ช่วงนี้ก็รอเลี้ยงผมตรงกลางให้ยาวไปเรื่อย ๆ
แล้วก็คอยไถด้านข้างออก เปลี่ยนลายนู้นนี่
คาดว่าพอสิ้นปี ปล่อยผมตรงกลางออกมา
คงยาวสลวย สวยแข่งกันพอดี
สวยแข่ง? คาดว่าจะสวยกว่าด้วย แอบตัดตอนหลับซะดีมั้ยเนี่ย ^ ^
.
.
.
วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ไปดูหนังกัน
พฤหัสบดี 8 กรกฏาคม 2010
วันนี้มีนัดกับอุ๊และก้นดำ
จะไปดู Shrek 3D กัน
บ่ายสามโมงกว่า ๆ แม่และป้า ๆ ไปรับก้นดำที่เดย์แคร์
วันนี้เลือกไปดูที่ East Gardens เป็นห้างใหญ่อีกแห่งนึง
เลือกดูรอบ 6.40 pm
เวลาที่เหลือก็กินข้าว เดินเล่นตามประสา
นี่เป็นครั้งที่สองของก้นดำที่พาชีมาดูหนัง
ครั้งแรกพาไปดูเรื่อง Up ซึ่งก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี
ไม่ร้องแหกปากอย่างที่กลัวกันไว้
ซึ่งปกติ ตามวิสัยของก้นดำ ชีจะกลัวสถานที่แปลกใหม่
ที่ไม่คุ้นเคยในครั้งแรก แต่จะค่อย ๆ ปรับตัวได้ในภายหลัง
อิแม่กะอิป้าก็ทำใจไว้แล้วว่าครั้งแรกกับการดูหนังในโรง
อาจจะต้องเสียตังค์ฟรี ชีอาจจะร้องและไม่ยอมเข้าไปดู
...............................
วันนี้.. ก่อนดู สามสาวก็เริ่มบิ้วชี
"กีต้าร์ วันนี้เราจะมาดูหนังกันนะ เรื่องเชร็ค เป็นการ์ตูน
ดูในโรงหนัง มีจอใหญ่ ๆ บะเริ่มเลย"
"มะเอา มะเอา"
สามสาวก็พยายามหว่านล้อมชีอีก ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา
ชีนิ่งเงียบไปอึดใจ เหมือนคิดอะไรบางอย่าง
แล้วบอกออกมาว่า
"คีถ้าจะอาวจอเล็ก ๆ" พร้อมกับทำท่าประกอบความเล็ก
โดยกางมืออูม ๆ สองข้างเท่ากับหน้าชีเอง
"โอเค๊ จอเล็ก ๆ เด๋วเราไปดูหนังจอเล็ก ๆ กันเนอะ"
หึ หึ หึ เด๋วก็รู้
...............................
6.40 ตามเวลาตั๋ว
เดินไปหน้าโรง ตกใจมาก ทำไมประชากรล้นหลามขนาดนี้
แถวยาวเฟื้อยเลย
ส่งพี่อ้อไปดูต้นแถวสิ เป็นโรงเดียวกับเรารึป่าว
ปรากฏว่า เป็นโรงที่รอดูเรื่อง Toy story ตะหาก
ส่วน Shrek นั้น ผีหลอกมาก
เนื่องจากหนังเรื่องนี้เข้าฉายมาร่วมเดือน จนจะออกอยู่แล้ว
โรงที่ดูวันนี้จึงเป็นโรงขนาดย่อม
คนน้อย ( มาก ) สามารถเลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัย
พอเราเดินเข้าไปในโรงปุ๊บ
ชีมีท่าทีดูตื่น ๆ เล็กน้อย
คาดว่าอาจจะคิดในใจว่า
"นี่บ้านแกเรียกว่าจอเล็กรึ หลอกกันนี่หว่า"
แต่ชีก็ไม่โวยวาย และยอมไปเลือกที่นั่งดูแต่โดยดี
ช่วงที่มีไตเติ้ลหนังเป็นการ์ตูน
ชีก็ดูสนอกสนใจ และตื่นเต้นไม่น้อย
ครั้งนี้ มีอุปกรณ์ในการดู ก็คือต้องใส่แว่นตา
ซึ่งชีก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่
อาจจะเป็นเพราะว่าแว่นมันไม่พอดีกับหน้าเธอ
อุปกรณ์อีกอย่างที่เสริมสำหรับเด็กคือ เบาะรองนั่ง
ระหว่างที่ดู บางช่วงที่เป็นบทสนทนายาว ๆ
ชีก็มีเบื่อ บ่นง่วงบ้างอะไรบ้าง
บางทีก็
"ม้ามมี่ what's happened"
"ม้ามมี่ เชร็คไปไหน"
สลับกับการลุกเดินไปนั่งกับพี่อ้อบ้าง กลับมาหาแม่บ้าง
มีอยู่ช่วงนึง เป็นฉากที่เจ้าหญิงและเชร็ค
ถูกแมวอ้วนและดองกี้พาหนีจากการควบคุมของการเป่าฟรุต
มาหลบอยู่แถว ๆ ริมลำธาร
เชร็คพยายามอธิบายให้เจ้าหญิงฟัง ว่าจะสามารถช่วยให้ทุกอย่าง
กลับคืนสู่ปกติได้ ด้วยการจูบ
แล้วเจ้าหญิงก็คว้าคอเสื้อเชร็คมาจูบ
ในขณะที่ก้นดำ ซึ่งยืนเกาะพนักด้านหน้า และดูฉากนี้อยู่
ต้าก็หันไปกระซิบกับพี่อ้อว่า
"ไม่รู้ว่าชีจะเข้าใจว่ายังไงเนอะ"
สิ้นเสียงกระซิบของป้าต้า ก้นดำหันหน้ากลับมาหาพี่อ้อ
พร้อมกับทำปากจู๋ ยื่นหน้าเข้ามาหาพี่อ้อ พร้อมจูบ!!
กร๊ากกกกกกกกก ชีเลียนแบบหนัง
ออกมาจากโรง พี่อ้อเล่าว่า สมัยเด็ก ๆ ไม่น่าจะเกินสิบขวบ
จำได้ว่า บรรดาลูกพี่ลูกน้องที่บ้านที่โตกว่า
เช่าหนังโป๊มาดูกัน ( ลามกกันแต่เล็กเลย )
น้องสาวพี่อ้อ ซึ่งในตอนนั้น ประมาณสัก 3 ขวบได้ ก็ป้วนเปี้ยนอยู่
มีฉากจูบกัน พี่อ้อหันกลับมาดู
เห็นน้องสาววัยสามขวบ กำลังเอาปากจูบอยู่กะตู้เสื้อผ้า !!!
โอ้ววววว น่ากลัวมาก สำหรับเด็กวัยกำลังเลียนแบบ
ก้นดำเอง ก็กำลังอยู่ในวัยจดจำและทำตาม
วันก่อนดูรายการแข่ง Australian Idol
เป็นการแข่งเต้นคู่ชายหญิง
ก้นดำก็ทำตาม โดยมีป้าอ้อเป็นคู่เต้น
เห็นเค้าหมุนตัว ฉีกขา ตีลังกา ชีก็ทำตาม
เหมือนมั่ง ไม่เหมือนมั่ง ตลกดี
แม่อุ๊บอกว่า ท่าทางชีจะชอบ เพราะวันก่อน ชีมาบอกว่า
"ม้ามมี่ คีถ้าอยากเรียนเต้น"
จัดไปลูก เผื่อโตขึ้นจะได้ไปประกวด Australian Idol !!
ปล. ใครมีลูกมีหลานอยู่ในวัยนี้ อย่าลืมดูแลกันอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ
วันนี้มีนัดกับอุ๊และก้นดำ
จะไปดู Shrek 3D กัน
บ่ายสามโมงกว่า ๆ แม่และป้า ๆ ไปรับก้นดำที่เดย์แคร์
วันนี้เลือกไปดูที่ East Gardens เป็นห้างใหญ่อีกแห่งนึง
เลือกดูรอบ 6.40 pm
เวลาที่เหลือก็กินข้าว เดินเล่นตามประสา
นี่เป็นครั้งที่สองของก้นดำที่พาชีมาดูหนัง
ครั้งแรกพาไปดูเรื่อง Up ซึ่งก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี
ไม่ร้องแหกปากอย่างที่กลัวกันไว้
ซึ่งปกติ ตามวิสัยของก้นดำ ชีจะกลัวสถานที่แปลกใหม่
ที่ไม่คุ้นเคยในครั้งแรก แต่จะค่อย ๆ ปรับตัวได้ในภายหลัง
อิแม่กะอิป้าก็ทำใจไว้แล้วว่าครั้งแรกกับการดูหนังในโรง
อาจจะต้องเสียตังค์ฟรี ชีอาจจะร้องและไม่ยอมเข้าไปดู
...............................
วันนี้.. ก่อนดู สามสาวก็เริ่มบิ้วชี
"กีต้าร์ วันนี้เราจะมาดูหนังกันนะ เรื่องเชร็ค เป็นการ์ตูน
ดูในโรงหนัง มีจอใหญ่ ๆ บะเริ่มเลย"
"มะเอา มะเอา"
สามสาวก็พยายามหว่านล้อมชีอีก ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา
ชีนิ่งเงียบไปอึดใจ เหมือนคิดอะไรบางอย่าง
แล้วบอกออกมาว่า
"คีถ้าจะอาวจอเล็ก ๆ" พร้อมกับทำท่าประกอบความเล็ก
โดยกางมืออูม ๆ สองข้างเท่ากับหน้าชีเอง
"โอเค๊ จอเล็ก ๆ เด๋วเราไปดูหนังจอเล็ก ๆ กันเนอะ"
หึ หึ หึ เด๋วก็รู้
...............................
6.40 ตามเวลาตั๋ว
เดินไปหน้าโรง ตกใจมาก ทำไมประชากรล้นหลามขนาดนี้
แถวยาวเฟื้อยเลย
ส่งพี่อ้อไปดูต้นแถวสิ เป็นโรงเดียวกับเรารึป่าว
ปรากฏว่า เป็นโรงที่รอดูเรื่อง Toy story ตะหาก
ส่วน Shrek นั้น ผีหลอกมาก
เนื่องจากหนังเรื่องนี้เข้าฉายมาร่วมเดือน จนจะออกอยู่แล้ว
โรงที่ดูวันนี้จึงเป็นโรงขนาดย่อม
คนน้อย ( มาก ) สามารถเลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัย
พอเราเดินเข้าไปในโรงปุ๊บ
ชีมีท่าทีดูตื่น ๆ เล็กน้อย
คาดว่าอาจจะคิดในใจว่า
"นี่บ้านแกเรียกว่าจอเล็กรึ หลอกกันนี่หว่า"
แต่ชีก็ไม่โวยวาย และยอมไปเลือกที่นั่งดูแต่โดยดี
ช่วงที่มีไตเติ้ลหนังเป็นการ์ตูน
ชีก็ดูสนอกสนใจ และตื่นเต้นไม่น้อย
ครั้งนี้ มีอุปกรณ์ในการดู ก็คือต้องใส่แว่นตา
ซึ่งชีก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่
อาจจะเป็นเพราะว่าแว่นมันไม่พอดีกับหน้าเธอ
อุปกรณ์อีกอย่างที่เสริมสำหรับเด็กคือ เบาะรองนั่ง
ระหว่างที่ดู บางช่วงที่เป็นบทสนทนายาว ๆ
ชีก็มีเบื่อ บ่นง่วงบ้างอะไรบ้าง
บางทีก็
"ม้ามมี่ what's happened"
"ม้ามมี่ เชร็คไปไหน"
สลับกับการลุกเดินไปนั่งกับพี่อ้อบ้าง กลับมาหาแม่บ้าง
มีอยู่ช่วงนึง เป็นฉากที่เจ้าหญิงและเชร็ค
ถูกแมวอ้วนและดองกี้พาหนีจากการควบคุมของการเป่าฟรุต
มาหลบอยู่แถว ๆ ริมลำธาร
เชร็คพยายามอธิบายให้เจ้าหญิงฟัง ว่าจะสามารถช่วยให้ทุกอย่าง
กลับคืนสู่ปกติได้ ด้วยการจูบ
แล้วเจ้าหญิงก็คว้าคอเสื้อเชร็คมาจูบ
ในขณะที่ก้นดำ ซึ่งยืนเกาะพนักด้านหน้า และดูฉากนี้อยู่
ต้าก็หันไปกระซิบกับพี่อ้อว่า
"ไม่รู้ว่าชีจะเข้าใจว่ายังไงเนอะ"
สิ้นเสียงกระซิบของป้าต้า ก้นดำหันหน้ากลับมาหาพี่อ้อ
พร้อมกับทำปากจู๋ ยื่นหน้าเข้ามาหาพี่อ้อ พร้อมจูบ!!
กร๊ากกกกกกกกก ชีเลียนแบบหนัง
..............................
ออกมาจากโรง พี่อ้อเล่าว่า สมัยเด็ก ๆ ไม่น่าจะเกินสิบขวบ
จำได้ว่า บรรดาลูกพี่ลูกน้องที่บ้านที่โตกว่า
เช่าหนังโป๊มาดูกัน ( ลามกกันแต่เล็กเลย )
น้องสาวพี่อ้อ ซึ่งในตอนนั้น ประมาณสัก 3 ขวบได้ ก็ป้วนเปี้ยนอยู่
มีฉากจูบกัน พี่อ้อหันกลับมาดู
เห็นน้องสาววัยสามขวบ กำลังเอาปากจูบอยู่กะตู้เสื้อผ้า !!!
โอ้ววววว น่ากลัวมาก สำหรับเด็กวัยกำลังเลียนแบบ
ก้นดำเอง ก็กำลังอยู่ในวัยจดจำและทำตาม
วันก่อนดูรายการแข่ง Australian Idol
เป็นการแข่งเต้นคู่ชายหญิง
ก้นดำก็ทำตาม โดยมีป้าอ้อเป็นคู่เต้น
เห็นเค้าหมุนตัว ฉีกขา ตีลังกา ชีก็ทำตาม
เหมือนมั่ง ไม่เหมือนมั่ง ตลกดี
แม่อุ๊บอกว่า ท่าทางชีจะชอบ เพราะวันก่อน ชีมาบอกว่า
"ม้ามมี่ คีถ้าอยากเรียนเต้น"
จัดไปลูก เผื่อโตขึ้นจะได้ไปประกวด Australian Idol !!
ปล. ใครมีลูกมีหลานอยู่ในวัยนี้ อย่าลืมดูแลกันอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ
^ ^
วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
มินดี้ มินดี้
อาทิตย์ 27 มิถุนายน 2010
วันนี้เรามีนัดไปเยี่ยมพี่มิ้นท์กับหนูน้อยมินดี้ที่บ้านใหม่กัน
ตั้งแต่พี่มิ้นท์ย้ายบ้าน เรายังไม่เคยไปหากันเลย
เจอกันครั้งสุดท้ายประมาณปลายเดือนเมษาฯ
ตอนนั้นมินดี้อายุ 3 เดือน
พี่มิ้นท์แวะเข้ามาทำธุระแถวไทยทาวน์
เลยเอามินดี้มาฝากไว้กับเรา 2-3 ชั่วโมง
วันนี้เรามีนัดไปเยี่ยมพี่มิ้นท์กับหนูน้อยมินดี้ที่บ้านใหม่กัน
ตั้งแต่พี่มิ้นท์ย้ายบ้าน เรายังไม่เคยไปหากันเลย
เจอกันครั้งสุดท้ายประมาณปลายเดือนเมษาฯ
ตอนนั้นมินดี้อายุ 3 เดือน
พี่มิ้นท์แวะเข้ามาทำธุระแถวไทยทาวน์
เลยเอามินดี้มาฝากไว้กับเรา 2-3 ชั่วโมง
บ้านใหม่พี่มิ้นท์ อยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควร
ใช้เวลาในการนั่งรถไฟจากบ้านเราไปร่วมชั่วโมง
ว่าบ้านอุ๊ไกลแล้ว อันนี้ไกลกว่าอีก
ออกไปอยู่นอกเมือง ไม่วุ่นวาย
อากาศดี ( ปกติอากาศที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว นี่ยิ่งดีเข้าไปอีก )
ต้นไม้ใหญ่ ๆ เยอะมาก
เราไปถึง Mt. Colah กันตอนเกือบบ่ายสอง
พี่มิ้นท์ขับรถออกมารับที่ Station
ทางขึ้นบ้านชันมากกก เพราะอยู่บนเนินเขา
หลังบ้านยังเป็นป่า ๆ อยู่เลย
ถ้าต้องเดินไป station ทุกวัน สงสัยข้อเข่าจะเสื่อมก่อนวัยอันควร
พี่มิ้นท์ปลูกต้นพริกไว้หน้าบ้าน แต่คนยังไม่ทันได้กินเลย
ตัวพอสซั่มมันมาแอบกัดกินหมด
ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้อายุร่วมร้อยปีแล้ว
ปีเตอร์บอกว่า ต้องทำประกันบ้านไว้ด้วย
เผื่อวันไหนมันล้มลงมาทับบ้าน ประเทศนี้ยิ่งลมแรง ๆ อยู่ด้วย
ถึงหน้าบ้านปุ๊บ คุณ Peter ก็อุ้มมินดี้ออกมาต้อนรับ
มินดี้ก็รับแขกน่าดู ยิ้มหวานเยิ้มมาเลย
ไม่รอช้า รีบคว้าตัวมินดี้มาอุ้มเล่น
มินดี้ชอบทำหน้าเหม่อ
พามินดี้ออกไปนั่งเล่นหน้าบ้าน
สักพัก หมาบ้านข้าง ๆ เดินมาหา
มินดี้ดูจะสนใจหมามากกว่ามด
เล่นไปได้พักใหญ่ ๆ ชีแบตเริ่มอ่อน
ถึงขั้นเริ่มสัปหงก
แล้วก็น็อคไปในอ้อมกอดน้าต้านั่นเอง
บอกให้พี่อ้อถ่ายรูปไว้
ด้วยความที่หลานน่ารักจัด
เลยอยากให้หลานมีภาพแย่ ๆ บ้าง
พยาย๊าม พยายาม หามุมน่าเกลียด ๆ ให้
แม้กระทั่งจัดท่าให้หลานดูหมดสภาพ
ช่วงนี้หน้าหนาว ประมาณ 4-5โมง ก็เริ่มมืด
ได้เวลาเอาฟืนใส่เตา ให้ความอบอุ่น
เพิ่งเคยเห็นเตาผิงรุ่นนี้ หน้าตาแปลกดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)