เสาร์ที่ผ่านมา มีนัดกับช่างตัดผมตอน4โมงเย็น
สืบเนื่องมาจากความงก
เข้าร้านทำผมครั้งสุดท้ายเมื่อปลายเดือนสิงหาปีที่แล้ว
ได้กลับไทย เลยถือโอกาส ตัด ทำสี ไฮไลท์ อบไอน้ำ เคลือบผม
กลับไปสามอาทิตย์ สระผมเองอยู่ครั้งเดียว นอกนั้นเข้าร้าน
สระแล้วทำทรีทเม้นท์ เคลือบผม สปาผม อบไอน้ำ นู้นนี่
ทำสลับกันไป ให้สมกับที่ไม่ได้ทำมาร่วม 2 ปี
(ออกแนวอัดอั้น)
พอกลับมาก็ไม่ได้ทำอะไรกับผมอีก จนมันเริ่มยาว ไม่เป็นทรง
แต่ยังไม่อยากเปลี่ยนทรง อยากเลี้ยงไว้ให้มันยาว แค่รู้สึกอยากเล็มปลาย
ราคาค่าตัดผมที่นี่ ถ้าเป็นร้านเกาหลี หรือร้านคนไทย ขั้นต่ำอยู่ที่ $35
หลัง ๆ เริ่มมีทางเลือกใหม่ มีช่างคนไทยที่พอมีฝีมือและประสบการณ์จากเมืองไทย
หารายได้พิเศษ ด้วยการรับตัดผมที่บ้าน ( หมายถึงนัดไปตัดที่บ้านของช่าง )
ราคากันเอง $ 15-20
แต่จะตัดอย่างเดียว ไม่มีสระ เราต้องสระมาจากบ้าน
อย่างที่บอกด้วยความงก คิดว่าแค่เล็มปลายเอง เสีย $20 ดูจะไม่คุ้ม
ประจวบเหมาะกับแฟลตเมทของอุ๊กำลังเรียน hairdressing
และเห็นว่าตอนอยู่เมืองไทย ที่บ้านเปิดร้านทำผม แล้วก็เคยเป็นช่างอยู่
แล้วเรากับน้องคนนี้ก็เคยป๊ะหน้ากันอยู่ เวลาไปบ้านอุ๊
อุ๊เลยอาสาไปถามให้ ว่าแค่เล็มปลายคิดตังค์ป่าว
เค้าเห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน เลยจะตัดให้ฟรี แค่ซื้อขนมมาให้ก็พอ
ได้การดังนั้น เลยนัดวันเวลา เพื่อไปขึ้นเขียง
ก่อนนัด อุ๊มีกระซิบบอก ว่าน้องเค้าซอยผมไม่ค่อยสวย แต่พี่จะลองดูก็ได้ เอ๊า..เวรแร่ะ อยากกลับลำ แต่พี่อ้อบอกให้ลองดู ถ้าไม่ดี เด๋วมันก็ยาว
นั่งตัดมันในครัวบ้านอุ๊ ตัดเสร็จ ผลที่ออกมา เป็นที่หงุดหงิดหัวใจยิ่งนัก
เล็มจริง ๆ เล็มแบบไม่มีการซอย สไลด์ ใดใดทั้งสิ้น ผมออกมาเป็นขั้น ๆ ทื่อ ๆ
สระผมแล้วนอน ตื่นเช้ามา บานกระดก กระเด้ง ทั้งหัว
พอใช้ที่หนีบ ๆ แล้ว ก็ยิ่งเห็นความเว้า ๆ แหว่ง ๆ
ทนหงุดหงิดอยู่ 2 อาทิตย์ ไม่ไหว ๆ ยอมเสียตังค์ $20 ไปตัดกะช่างมืออาชีพดีกว่า
เลยเป็นที่มาของการนัดช่างในเย็นวันเสาร์ ตอนแรก นึกว่าจะตัดคนเดียว
แต่พี่อ้อจะตัดด้วย ทั้งที่เพิ่งตัดไปเมื่อเดือนก่อน
ช่างเป็นหนุ่มวัย 30 กว่า ๆ เคยตัดผมแถวสยามมาก่อน แล้วก็มาเรียนเพิ่มที่นี่
ฝีมือดี ชี้ทรงไหน ได้ทรงนั้น
ครั้งแรกที่พาพี่อ้อไปตัด พี่อ้อจิ้มทรงในหนังสือ เค้าก็ตัดออกมาแบบในหนังสือเป๊ะ ๆ
เลยถือเป็นช่างประจำ อุดหนุนกันเรื่อยมา
ว่าแล้วก็ขอเม้าท์พี่อ้อสักหน่อย
พี่อ้อเป็นคนตัดผมบ่อย แต่ละทรง ไม่ตามแฟชั่นในขณะนั้นแต่อย่างใด
พี่อ้อไม่นิยมทรงเด็กเกาหลี ที่มีราก ๆ มายาวรุงรังปิดหูปิดตา
( ซึ่งก็ถูกใจต้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้าก็ไม่ปลื้มทรงแนวนี้ )
มีอยู่ครั้งนึง สมัยต้ายังอยู่เมืองไทย พี่อ้อบอกว่าไปตัดผมมา
ไถด้านข้างออกหมดเลย เหลือตรงกลางอยู่ไม่กี่เซน
ส่งรูปมาให้ต้าชม
อร๊ายยยยยยยยยยย ไม่ช๊อบบบบบบบบบบบบ
ไม่ชอบให้ไถเขียว ๆ
บอกพี่อ้อไปว่า เราคุยกันแบบพี่ไม่ต้องเปิดกล้องไปสักพัก รอผมพี่ยาวแล้วค่อยเปิดละกัน
ที่ผ่านมา มีหลายทรงที่พี่อ้ออยากทำ ยกตัวอย่างมาเม้าท์กันสัก 3-4 ทรง
ทรงมหาดไทย
ได้แรงบันดาลใจมาจากคนเชิดหุ่นกระบอก พอดีได้ดูรายการนึง เค้าสัมภาษณ์และพูดถึง
เรืองราวของโจหลุยส์ พี่อ้อเห็นคนเชิดหุ่นคนนึง ตัดผมทรงมหาดไทย
หันมาบอกต้าเลย "พี่อยากตัดผมทรงนี้อ่ะ"
แล้วก็ได้ไปตัดมาสมใจอยาก มีมหาดไทย (หญิง) เดินไปมาอยู่ในบ้าน
ทรง... ( เรียกไม่ถูกอ่ะคะ )
มันเป็นทรงที่ต้องเลี้ยงผมไว้ยาว ๆ ให้เท่ากัน แล้วก็มัดไว้ครึ่งหัว ส่วนครึ่งล่างก็ไถเกรียน
( จะนึกกันออกมั้ยอ่ะ )
เลี้ยงยาวอยู่ได้พักใหญ่ จนคนข้าง ๆ ( นั่นหมายถึง ต้าและอุ๊ ) พูดกรอกหูพี่อ้อทุกวัน
ว่าโทร๊ม โทรม แย๊ แย่
พี่อ้อเริ่มทนแรงกดดันไม่ไหว บอกให้ช่างไถเลย แล้วลองมัดดู
มัดได้หางหนูมาจิ๊งนึง แถมความยาวด้านหน้ายังไม่พอ คอยหล่นลงมาเรื่อย
ต้าก็กดดันต่อ ให้ตัดสั้นเห๊อะ ( เพราะเค้าไม่ช๊อบบ )
ทรงสิงโต
หมายถึงน้องสิงโต เดอะสตาร์นี่ละค่ะ นั่งดูคอนเสริ์ตอยู่ พี่อ้อเล็งเห็นว่า
ทรงผมของน้องเค้าเท่ดี
อาทิตย์ถัดมาโทรนัดช่าง พร้อมกับถือแผ่นดีวีดีเดอะสตาร์ไปด้วย
ไปเปิดให้ช่างดู
ตัดเสร็จ ต้าเดินกลับบ้านพร้อมสิงโต เดอะสตาร์
ทรงบากข้าง
อันนี้เป็นทรงล่าสุด ระหว่างที่ต้าตัด ก็เม้าท์กับช่าง ว่าพี่อ้ออยากบากเป็นขีด ๆ ด้านข้าง
อยากทำมานานแร่ะ เนื่องจากไปเห็นพ่อของเปรมทำ สวยดี
ช่างบอก ทำได้ ไม่มีปัญหา
ต้าหันไปมองหน้าพี่อ้อ จะตัดจริง ๆ อ่ะ
พี่อ้อบอก "ลองดู ถ้าไม่ดี เด๋วมันก็ยาว"
ว่าแล้วก็จัดไป
ตัดผมเสร็จ ไปหม่ำมื้อเย็นกันที่ร้านเกาหลี
ฝนตกพรำ ๆ ต้าเดินกางร่มไปพร้อมกับพ่อของเปรม เหอ เหอ
รอบนี้บากแค่ข้างเดียว
พี่อ้อบอกว่า คราวหน้าว่าจะบากสองข้าง
..
ท้ายสุด
เก็บตกเมื่อสัก 3 -4 ปีที่แล้ว
^ ^