วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

8 เดือนแล้วค๊า

อาทิตย์ 10 ตุลาคม 2010


วันนี้เรามีนัดรวมพล 4 สาว ( 2ป้า แม่อุ๊และก้นดำ )

หน้าเดิม ๆ เพราะคบกันอยู่แค่นี้ หุ หุ

จะไป stay overnight ที่บ้านสาวน้อย mindie กัน



ตามกำหนดการณ์เดิม เรามีแผนจะไปเที่ยวที่ Woolongong

จองโรงแรม จองทุกสิ่งไว้เรียบร้อย นัดแนะทุกอย่าง พร้อม

ก่อนวันไปหนึ่งวัน ก้นดำทำเสียแผน เพราะอาการกำเริบ

เริ่มจาก ไอ อาเจียน จนป๋าก้องต้องพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง

คุณหมอไม่ได้สั่ง admit แต่ก็ให้อยู่ดูอาการและให้ยา



ระหว่างอยู่รอดูอาการที่ รพ

ชีก็ยังคงลั้นลา ออกstep ได้ตามปกติ ไม่ได้ซึมหงอยแต่อย่างใด

ตกเย็น คุณหมอก็ให้พากลับบ้านได้

แต่แม่และป้า ๆ เกรงว่า หากยังดันทุรังไปเที่ยวกันอยู่

แล้วถ้าระหว่างการเดินทาง ก้นดำเกิดอ้วกแตกขึ้นมาอีกรอบ

ชาวเราจะทำยังไงกันดี



คิดได้ดังนั้น ป้าอ้อเลยตัดสินใจ โทรไปเลื่อนวันกับทางโรงแรม

จากเดิมวันที่ 10-11 ขอเปลี่ยนไปเป็นวันที่ 27-28 แทน

พอเปลี่ยนแผนกระทันหันแบบนี้ ก็เกิดอาการเคว้งกันเล็กน้อย

งานก็ลาแล้ว จะอยู่บ้านเฉย ๆ ก็เสียดายวันเวลา

ก็เลยจะไปสังสรรค์กันที่บ้านพี่มิ้นท์แทน



กิจกรรมที่ทำร่วมกันของบรรดาสาว ๆ ก็ไม่พ้น

หาร้านอร่อยกินแถวบ้านพี่มิ้นท์ , ซื้อของสดไปทำกินกันที่บ้าน

อัพเดทละคร ข่าวสารวงการบันเทิง , วิเคราะห์ข่าว แอนนี่-ฟิลม์

^_^







ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ ฝีมือคุณแม่มิ้นท์




ไม่ได้เจอมินดี้ร่วม2เดือน เจอกันอีกที ชีคลานได้แล้วค๊า

ตอนนี้หนูน้อยอายุได้ 8 เดือนกว่าแล้ว

ตัวยาวขึ้น แก้มห้อย แขนขาอวบเต่ง น่าฟัดเป็นที่สุด







มินดี้เป็นเด็กดี ไม่ค่อยร้อง ไม่งอแง

สามารถทิ้งชีให้นั่งเล่นคนเดียวได้
























น้า ๆ ซื้อรถให้หนูด้วยน๊า









แม่มิ้นท์ตัดผมให้ลูกสาวด้วยตัวเอง

ทรงกะลาครอบ ตอนแรกหน้าม้าเต่อกุดกว่านี้อีก








แม่มิ้นท์เล่าว่า ตัดเสร็จ ตกเย็นคุณพ่อปีเตอร์กลับมาบ้าน

ต๊กใจ เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว แม่มิ้นท์เลยบอกคุณพ่อไปว่า

"ยูรู้มั้ย ทรงเนี้ย เด็กไทยแทบทุกคนต้องตัดเลยนะ

เค้าฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง เรียกว่าทรงสายป่าน "

ไม่รู้ปีเตอร์จะเข้าใจมั้ย แต่ดูเหมือนว่าจะต้องยอมรับ

กับกะลาครอบบนหัวมินดี้









ถ้าไม่ได้เอาประตูมากั้นระหว่างห้องครัว

มินดี้จะชอบคลานมาหาแม่ คลานไป คลานมา

แล้วก็มาหยุดอยู่ตรงมุมนี้ มุมโปรดของหนู










หนูเกือบจะโตเท่าขวดน้ำแล้วน๊า







มินดี้ชอบเล่นน้ำ พอจะอุ้มขึ้น ชีเอามือเกาะขอบอ่างแน่นเลยทีเดียว



Sexy มะคะ จิกปลายเท้าด้วยนะ อิ อิ
























เช้าวันจันทร์ 9โมงกว่า ๆ น้าต้าแอบย่องไปดูมินดี้ในห้องนอน

ชียังไม่ตื่น นอนพริ้มก้นโด่ง ท่าประจำ

มินดี้ชอบนอนคว่ำให้ก้นโด่ง ๆ

นั่งมองชีได้สัก 5 นาที ชีเริ่มขยับตัว

ผงกหัวขึ้นมามอง ลุกขึ้นมานั่ง ส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้

ลุกขึ้นยืนเกาะขอบเตียง แล้วเปร่งเสียงว่า "ป่ะ ป่ะ"

แปลว่า ไป ไป หนูอยากจะออกไปแล้วน้าต้า



น้าอ้อ เวลาเจอมินดี้ ก็แกล้งหลานตลอดอ่ะ
















































































โดนน้าอ้อแกล้งจนเพลีย แต่ยังอยากเล่น ไม่ยอมนอน





2 วัน หนึ่งคืน หมดไปอย่างรวดเร็ว

5 โมงเย็น ได้เวลากลับสู่เมืองอีกครั้ง

บ๊ายบายมินดี้ ไว้เจอกันใหม่น๊า จุ๊บ จุ๊บ

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประสบการณ์ป่วย

อังคาร 5 ตุลาคม 2010



ตี 3:42 นาที ได้รับ sms จากแม่อุ๊


............................


Now kitar is at hospital. She can't breath.

She's sleeping at admit room.

I'm not sure how many days she need to be there.

Doctor said kitar have to wait for chest x-ray tonight.


.............................


นี่เป็นครั้งแรก ของเด็กหญิงก้นดำคนนี้ ที่ต้องนอนโรงพยาบาล

ถ้าโตขึ้นแล้วหนูมีโอกาสได้อ่าน เผื่อว่าหนูจะจำได้





4.20 pm @ Sydney Children Hospital



ป้าต้า ป้าอ้อ เลิกงาน ก็รีบตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาล

หลังจากโทรถามทางกับแม่อุ๊เรียบร้อย ก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3

ระหว่างทางเดินผ่านห้องต่าง ๆ

เห็นเด็กตัวเล็ก ตัวน้อย นอนจ๋อยอยู่บนเตียง

แขนขาโดนเข็มปักไว้ โถ.. เห็นแล้วรู้สึกเจ็บแทน



มาถึงห้องที่สาวน้อยของเรานอนอยู่

โผล่หน้าเข้าไป ก้นดำกำลังนอนดูทีวี

พร้อม ๆ กับเล่นของเล่นที่ทาง รพ มีไว้ให้






หัวยุ่งได้อีก







ป้าอ้ออยากให้ก้นดำจิตใจแจ่มใส

เลยซื้อดอกไม้กับของเล่นมาฝาก














ก้นดำหายใจไม่ค่อยออก เลยต้องต่อท่อให้ออกซิเจน

ตรงมือก็โดนเจาะ เพื่อให้ยา





( ดามซะยังกะมือหัก )




ตรงขาก็มีติดสายระโยงระยางไว้

เพื่อเอาไว้ตรวจวัดอะไรต่อมิอะไร

คุณหมอบอกว่า ก้นดำเป็นโรค ปอดติดเชื้อ

และมีอาการของโรคภูมิแพ้ หอบหืด อีกด้วย

แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแพ้อะไร




ก้นดำดูจ๋อยไปเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับซึมเศร้าเหงาหงอย

ยังยิ้มออก เจื้อยแจ้วได้

และดูจะทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ต่าง ๆ บนตัวได้แล้ว




แม่อุ๊เริ่มเล่าถึงประสบการณ์ในครั้งนี้ให้ฟังว่า

เมื่อคืน ตอนประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ กีตาร์หายใจไม่ค่อยออก

แล้วชีก็บอกว่าปวดท้องด้วย

อุ๊เห็นว่า ลูกสาวคนสวยท่าทางจะแย่

เลยตัดสินใจพาลูกขับรถมาโรงพยาบาลเด็ก ซึ่งก็อยู่ไกลบ้านพอสมควร

มาถึงโรงพยาบาล ก็แบกลูกสาวน้ำหนักร่วม 18 kg ไปตึกฉุกเฉิน

พอคุณหมอได้ตรวจอาการ ก็สั่งพยาบาลให้หาเตียงเพื่อ admit เลย



ช่วงที่พยาบาลเข้ามาเจาะ มาฉีดนู้นนี่

ตามประสาเด็ก ก็มีร้องไห้ งอแงบ้าง แม่อุ๊ก็ปลอบก็โอ๋กันไป

จนสุดท้าย ต้องงัดไม้เด็ดออกมาใช้

โดยการยกกระเป๋าเครื่องสำอางที่ติดกระเป๋าสะพายมาด้วยให้ชีไป

ได้ผล เงียบกริบ ชีควักลิปสติกออกมานอนทาปากเฉ๊ย

หมออยากจะฉีด อยากจะเจาะอะไรก็ทำไป

หนูจะนอนทาปาก สวย สวย





ระหว่างที่ป้า ๆ มาเยี่ยมก้นดำ

คุณพยาบาลก็จะหมั่นแวะมาเช็คนู้นนี่ตลอด







ก้นดำเองก็ดูเหมือนจะเริ่มรู้หน้าที่

พอคุณพยาบาลถือหูฟังมา

ชีก็ถลกเสื้อ เปิดพุงดำ ๆ รอหมอมาตรวจเลย

เสร็จจากการแนบเพื่อฟังอาการบริเวณปอด

ก้นดำก็รู้หน้าที่ เตรียมตัวให้หมอพ่นยา

โดยการใช้เครื่องมือตัวนี้ครอบปากไว้

พ่นแล้วนับ พ่นแล้วนับ อยู่หลายที












ทุกกิจกรรมที่คุณพยาบาลทำ ก้นดำของเราให้ความร่วมมืออย่างดี

จะมีอิดออดบ้างก็ตอนที่ต้องกินยา

หมอเอายาน้ำสีขาว ๆ ใส่ syringe แล้วฉีดเข้าปาก

ชีบอกหมอว่า " I don't like it " แต่ก็ยอมกินแต่โดยดี

ทั้งคุณหมอ ทั้งคุณพยาบาล เอ่ยปากชมว่าชีเก่ง



มีอยู่ช่วงนึง ชีจะไปเข้าห้องน้ำ

ก็เลยกดเรียกพยาบาลมาถอดสายออกซิเจนที่ต่อกับจมูกออก

( 2ท่อที่เสียบกับจมูกยังอยู่ แต่ปลดด้านปลายที่ต่อกับเครื่องมือออก )

พอทำธุระเสร็จ กลับมา ก็เรียกคุณพยาบาลมาต่อสายให้ใหม่

ช่วงที่ต่อสายออกซิเจนเข้ากับท่อ มันจะมีแรงดัน อัดเข้าไปในจมูก

ก้นดำโวยวาย ร้องไห้ น้ำตาไหล น้ำมูกย้อย

แม่ ป้า พยาบาล พยายามปลอบใจก้นดำ แต่ดูจะไม่เป็นผล

ยังคงโวยวาย ร้องไห้อยู่

แม่อุ๊คิดได้ รีบหยิบกระเป๋าเครื่องสำอาง ควักลิปสติกออกมาส่งให้

ป้าต้าคว้าไปทาปากให้ชี

เสียงร้องแผ่วไป ตาใส ทำปากเผยอ พร้อมสวย!!

เด็กอาไร๊....



ห้องที่ก้นดำอยู่ เป็นห้องคู่

เตียงข้าง ๆ เป็นหนุ่มน้อยวัย 1 ขวบ

ป่วยด้วยโรคหอบหืด

อุ๊บอกว่า เมื่อคืนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน

เพราะหนูน้อยร้องตลอดทั้งคืน









ป้า ๆ อยู่เป็นเพื่อนก้นดำจนถึงสองทุ่ม หน่อย ๆ

หมดเวลาเยี่ยม ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่แม่อุ๊อยู่เฝ้าก้นดำต่อไป

...............................


พุธ 6 ตุลาคม 2010



หลังเลิกงาน ป้า ๆ แวะไปเยี่ยมก้นดำอีกครั้ง

ก้นดำอาการดีขึ้นมากจนเหมือนปกติแล้ว

พยาบาลเริ่มทยอยถอดอุปกรณ์ที่ติดอยู่บนตัวออกไปจนเกือบหมด

รอแค่ให้คุณหมอมาตรวจอีกครั้ง

และคิดว่าน่าจะกลับบ้านได้เลยเย็นนี้

5 โมงเย็น

คุณพยาบาลมาถอดอุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายที่มือออกไป

พอไร้พันธนาการ ชีก็ถลาลงจากเตียง สำรวจนู้นนี่ วิ่งไปวิ่งมา

สักพัก ได้เพื่อน เป็นหนุ่มน้อยวัยใกล้เคียงกันนามว่า Toronto

มากับคุณแม่ มาเฝ้าน้องสาวที่นอนป่วยอยู่

พอได้เพื่อน ชีก็ไม่สนใจใคร ๆ อีก วิ่งเล่นกันหนุกหนานใน play room

6 โมงเย็น

คุณหมอเข้ามาตรวจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนปล่อยตัวให้กลับบ้านได้

แล้วก็อธิบายนู้นนี่อีกมากมายให้แม่อุ๊ฟัง

เพื่อที่จะกลับไปดูแลพ่นยากันต่อที่บ้าน

สภาพก้นดำขาออกจากโรงพยาบาล ต่างจากขาเข้าอย่างสิ้นเชิง

ชีปกติสุข ปกติมาก ปกติเกิน จน เกินปกติ

ป้า ๆ เริ่มไม่แน่ใจ ว่าหมอให้ยาอะไรกับชีกันแน่

ดูจะไฮเปอร์ และลั้นลามากเกิ๊น
^__^

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คุณค่า..ที่คุณคู่ควร



อังคาร 28 กันยายน 2010




วันนี้ว่าง ไม่มีงาน แต่มีภารกิจหลายสิ่งที่ต้องทำ

เริ่มจาก เกือบ ๆ เก้าโมงเช้า ป๋าก้องแวะมาเพื่อพาก้นดำมาส่งให้เรา

แล้วป๋าก้องก็ไปทำงาน

ส่วนแม่อุ๊ วันนี้มีจ๊อบพิเศษที่ร้านแซนวิชตั้งแต่เช้าตรู่



เที่ยงครึ่ง แม่อุ๊เลิกงานแล้ว มาแวะรับเราและก้นดำที่หน้าตึก

ภารกิจต่อไป คือไปแวะทำธุระที่ Agent บ้าน

ระหว่างบอกทางให้อุ๊ ซึ่งเป็นทางที่อุ๊ไม่เคยไปมาก่อน

และเราก็บอกทางตามที่เคยนั่งรถเมล์ไป

เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่ง... ขับเข้าไปใน bus lane



ตรงนั้นเป็นสามแยก ขณะที่กำลังจอดทับ line bus lane อยู่

ความซวยก็บังเกิด เพราะรถตำรวจดันขับมาประจันหน้ากันพอดี๊

T T

ต๊กใจทั้งคนนั่ง คนขับ ตายละวา

ตำรวจชี้ ๆ ให้จอด เปิดหวอตามอีกตะหาก

ไม่ได้หนีเฟ้รยยย แค่หาที่จอดตะหาก




สรุป ต้องเสียค่าปรับร่วมสองร้อยกว่าดอล์ เฮ้อ... ฟาดเคราะห์กันไป



หลังจากเสร็จธุระที่ Agent

ก็ตรงดิ่งเข้าเมืองไปทาง Anzac bridge เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดมุ่งหมายหลักของเรา

Birkenhead point outlet



สืบเนื่องมาจาก วันก่อน ป๋าก้องแวะมา shopping ได้ยีนส์ Levi's กลับบ้านไป
ด้วยโปรโมชั่นลดพิเศษ buy one get one free!!

โห โปรล่อใจขนาดนี้ อยู่เฉยไม่ได้แร่ะ

แม่อุ๊ก็เลยชวนมา shop กันสักหน่อย




ที่นี่เป็นoutlet ขนาดใหญ่ รวบรวมเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ

หลากหลายแบรนด์ มาไว้ในที่เดียวกัน

เราแค่กะจะมาเดินเล่นเป็นเพื่อนอุ๊เฉย ๆ คิดไว้ว่าจะไม่ซื้อ

เพราะเมื่อเดือนก่อน เพิ่งไปได้ยีนส์ของ G-star มาตัวนึง

จาก Outlet แถว Olympic Park




วันนั้น คนที่ตั้งใจจะไปซื้อคือพี่อ้อ

เพราะยังเหลือเครดิตจาก gift voucher ที่อุ๊ให้อยู่นิดหน่อย

กะจะไปใช้ให้หมด ๆ ไป แต่ดันไม่ถูกใจสักกะตัว



ไปถึง Birkenhead Point ประมาณเกือบ ๆ บ่ายสองโมง

เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ ท้องร้อง เลยต้องแวะเติมพลังกันสักหน่อย




หลังจากท้องอิ่ม ก็รีบเดินดิ่งหาร้าน levi's

เข้าไปในร้านปุ๊บ ตาย ๆ เพียงแค่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว

Ta tar ก็ถูกใจ สอยมาถือไว้ก่อนแล้ว 2 ตัว

เลือกไป เลือกมา ก็ถือเข้าไปลองทั้งหมด 3 ตัว



ตัวแรก ขายาว สีเข้ม ซิปข้าง ใส่ได้พอดีเป๊ะ ราคาเต็ม$99 ลดอีก 50%



ตัวที่สอง กระดุมหน้า สีจางลงมาหน่อย ถูกใจตรงกระดุมสีฟ้าสดใส $80 ไม่ลด

มันหลวมไป ร้องบอกให้อุ๊หาไซด์เล็กกว่านี้เบอร์นึงให้หน่อย

แต่.. ไม่มี มีเล็กไปเลย กับใหญ่ไปเลย T T


ตัวที่สาม ขาสั้น ใส่ได้พอดิบพอดี $30 ไม่ลด




ออกมาจากห้องลอง จิตใจยังวนเวียนกับตัวที่สองอยู่

อยากได้ อยากได้ แต่มันใส่ไม่พอดี

โปรโมชั่นวันนี้ ยังคงซื้อหนึ่ง แถมหนึ่ง

จ่ายตัวที่แพงกว่า แถมตัวที่ถูกกว่า

ใจอยากจะซื้อตัวที่สอง $80 จะได้แถมตัวแรก $50

รู้สึกเอาเองว่าน่าจะคุ้มกว่า

แต่อุ๊บอกว่า มันหลวมไป ใส่แล้วไม่สวย



เอ.. ถ้าเอาไซด์ที่หลวมไป แล้วทำตัวให้อ้วนกว่านี้

หรือไม่ ก็เอาไซด์เล็กไป แล้วไปลดความอ้วนเอา

วิธีแรกดูทำร้ายตัวเองไปหน่อย ส่วนอันหลังก็ยากเกินจะทำได้



คิดได้ดังนั้นจึงต้องตัดใจ

ซื้อตัวแรก แล้วแถมตัวที่สามแทน
ตัวนี้ซื้อ $50 (ประมาณ 1400 บาท )

ตัวนี้แถม

จ่ายตังค์ รับของมาเรียบร้อย อุ๊ยังคงเดินวนอยู่ในร้าน

ยังหาสิ่งที่คู่ควรไม่ได้

สุดท้าย อุ๊ก็ไม่ต้องเสียทรัพย์ เพราะไม่ได้มาสักตัว





ออกจาก shop Levi's ก็เตร็ดเตร่ร้านนู้น ร้านนี้

จนมาถึงหน้า shop Converse

"พี่ต้า อุ๊อยากได้รองเท้า converse อ่ะ

ไม่รู้เป็นไร ช่วงนี้อยากใส่ อยากได้ เข้าไปดูกัน"

เดินดูคู่นั้น คู่นี้

"พี่ คู่นี้ดีมะ"

"โห น้องคะ ถ้าใส่ธรรมดาแบบนี้ ไปซื้อนันยางใส่ก็ได้มั้ง"




ระหว่างที่แม่อุ๊กำลังเล็งหาอยู่

ก้นดำก็ลองคู่นู้น คู่นี้ ไม่ให้น้อยหน้าแม่


สายตาเราก็พลันไปเห็นคู่นึงเข้า

เลยชี้ให้อุ๊ดู พออุ๊เห็นเท่านั้นล่ะ

รีบคว้ามาลอง อย่างชอบอกชอบใจ

ซึ่งคู่นี้ ลายนี้ เหลือเป็นคู่สุดท้ายในสต๊อก

นั่นหมายความว่า หากอุ๊ใส่ไม่ได้ ก็ทางใครทางมันได้เลย




แต่.. อุ๊คงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เพราะนี่คือคุณค่าที่คุณคู่ควร

พอเหมาะพอเจาะ เด๊ะ ๆ



ซื้อเสร็จ ก็เกิดอาการกังวล ว่าใส่แล้วจะดูดีมั้ย จะน่าเกลียดป่าว

อุตส่าห์โทรไปบอกป๋าก้อง ว่าถ้าเห็นอุ๊ใส่แล้วห้ามขำ ห้ามแซว




ขากลับ แวะมาส่งเราที่บ้าน รีบอวดรองเท้าให้พี่อ้อดู


อุ๊ : พี่อ้อ ๆ รองเท้าอุ๊สวยมั้ย

( พี่อ้ออึ้งไปประมาณ 3 วิ ) เอิ่มมม มันวัยรุ่นไปป่ะ

ต้า : เอ๊า พี่อ้อนี่ ก็น้องมันยังไม่แก่นี่นา



อยากใส่ ก็ใส่ไปเถอะค๊าคุณน้อง อย่าได้แคร์

ขนาดใส่เอี้ยมยีนส์ให้เข้ากันกะก้นดำ ยังทำมาแล้วเล๊ย

กะอีแค่รองเท้า แค่นี้เอง เก๋ ๆ ไม่แคร์สื่อ ^__^