วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

พิศมัย

เสาร์ 18 กันยายน 2010



สิบโมงเช้าวันเสาร์ ออกจากบ้าน ไปปฏิบัติภารกิจเดิม ๆ

นั่นคือการไปจ่ายตลาดที่ Paddy Market ย่าน China Town



ขณะที่กำลังจะข้ามถนนตรงหน้าตลาด

เอ๊ะ ๆ ผู้หญิงคนนี้ หน้าตาคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็น

หน้าแบบนี้ ปากแบบนี้


โอ๊ววววว นี่มัน... พิศมัยนี่นา

พิศมัยเดินผ่านหน้าไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน

(ซึ่งไม่ใช่ปราณีและคุณนายน้อม)

หันกลับไปมอง มองแล้วมองอีก

ไม่มั่นใจ ว่าใช่หรือเปล่า


ก็ในทีวี ชีดูขาวได้อีก หน้าแจ่มได้อีก แถมดูสูงเพรียว

ชีเป็นนางแบบด้วยนี่นา นางแบบก็น่าจะสูงกว่าชาวบ้านเค้าสักหน่อย

แต่นี่ สูงกว่าเรานิดเดียวเอง

แถมไม่มีรัศมีความเป็นดารา หรือออร่าใดใดเลยอ่ะ

กลมกลืนไปกะฝูงชนย่านไชน่าทาวน์


คิดในใจว่า เอ๊ะ หรืออาจจะแค่คนหน้าเหมือน

จอยเค้าดูข๊าวขาว หน้าก็ดูเนียนใส ไม่น่าจะใช่คนนี้หรอกมั้ง

แต่แหม หน้าเล็ก ๆ บวก ริมฝีปากนั่น มันใช่เลยนี่นา



...............................



สองวันถัดมา อุ๊มากินข้าวที่บ้าน ก็เลยเล่าให้อุ๊ฟัง

ผ่านมาอีกวัน อุ๊โทรมาคอนเฟริ์ม

"ใช่จอยจริง ๆ พี่ เพื่อนอุ๊บอกมา

ชีมาเที่ยวซิดนีย์ นั่งมาไฟท์เดียวกับพี่ที่รู้จักเลย"

โอววว วงการมายา ทำให้หน้าผมสวยเนียนเรียบกริ๊บได้ขนาดนี้เลยเนอะ

ฮึ.... คุณหลอกดาว


...............................



ช่วงนี้ติดละคร ระบำดวงดาว กับ วนิดา

เพลงประกอบละครวนิดา ทำให้หวนนึกถึง

สมัยที่ลลิตาเป็นนางเอก

ตอนนั้นก็ติดขอบจอกันทั้งแม่ทั้งลูกเลย

จำได้ว่า แม่ชอบเพลงโคถึกเนี่ย

มีวันนึงแม่บอกว่า

"เด๋วไว้แม่หัดร้องเพลงนี้ดีกว่า"

"จะหัดไปทำไมหรอแม่"

"ก็เผื่อได้ไปออกงาน แล้วต้องร้องเพลง จะได้มีเพลงประจำตัวไว้ร้องไงจ๊ะ"


อ๊ากกกกกกกกกกกกก คิดได้เนอะ

หรือตอนนั้นแม่จะอิน คิดว่าตัวเองเป็นวนิดา!!


………………………..

Love you mom ^_^

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

- - ลาม - -

บล็อกหน้าที่แล้ว เขียนถึงพฤติกรรม ง่ายต่อการถูกชวนเชื่อ ของพี่อ้อไป

หารู้ไม่ว่ามันได้ลุกลามไปถึงคนใกล้ตัวอีกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



เมื่อเช้า คุยโทรศัพท์กับแม่อุ๊ของก้นดำ

อุ๊โทรมาอัพเดทข่าวช็อกวงการของฟิลม์ รัฐภูมิ

ประหนึ่งว่าเราเป็นเพื่อนร่วมวงการเดียวกันกับฟิลม์

แล้วก็เม้าท์นู้นนี่ไปตามประสา


ตบท้ายด้วยเรื่องที่อุ๊เข้าไปอ่านบล็อกเรา

แล้วเลยเถิดข้ามไปอ่านบล็อกน้องบีหมวย

คลิ๊กไปอ่านเรื่องที่น้องบีเพิ่งไปทริปทำน้ำหนักที่หัวหินมา

เจอรูปซีฟู้ดลวกจิ้มเข้าไป

เท่านั้นล่ะค่ะ อาการเดียวกับพี่อ้อกำเริบเลย


ขับรถบึ่งไปร้านขายซีฟู๊ด ที่ Hurstville Market

ซื้อของสดแล้วกลับมาทำกินที่บ้าน


ตกเย็น สามีกลับมา ถึงขั้นตกใจ

คงนึกว่าอุ๊ยกหาดบางแสนมาไว้ที่บ้าน


แล้วขอบอก ซีฟู๊ดที่นี่ แต่ละอย่าง หาได้ตัวเล็ก ๆเหมือนบ้านเราไม่

อย่างหอยแมลงภู่นี่ ก็ใหญ่เป็น2เท่าของบ้านเราเชียวนะ

แต่เราว่า ใหญ่ไป มันน่ากลัว มากกว่าน่ากิน



พอกินอิ่มสมใจอยาก แล้วก็มาบ่นว่าอ้วน

เห็นมั้ย เห็นมั้ย เหมือนกันเด่ะ ๆ

เฮ้อ!! นี่แหล่ะนะ ผู้หญิง

^__^

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

โฆษณา... ชวนเชื่อ

พักนี้บล็อกเงี๊ยบเงียบเนอะ

หายไปไหนกันหมด

ชีวิตในแต่ละวัน ไม่มีอะไรเล่าสู่กันฟังเลยเร๊อ


ไม่เป็นไร ใครไม่เล่า เราเล่าเอง


ชีวิตช่วงนี้ ไม่ค่อยได้ออกไปเตร็ดเตร่สักเท่าไหร่

แม้ว่าเดือนนี้จะเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

อุณหภูมิแม้จะไม่ใช่เลขตัวเดียวแล้ว แต่ก็ยังคงหนาวอยู่




เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ

ทำให้วันหยุด กลายเป็นวันที่สิงสถิตย์กันอยู่แต่ในบ้าน

ออกไปแค่ซื้ออาหารมากักตุน แล้วก็กิน ๆ นอน ๆ กันไป

รายการทีวีไทยมีอะไร ขนซื้อมาดูกันให้หมด



พูดถึงรายการบ้านเรา รู้สึกว่ามักจะสอดแทรกการโฆษณาสินค้า

เข้าไปแบบเนียน ๆ โดยการกินให้เห็น ใช้ให้ดูกันเลย

แผนการโฆษณาแบบนี้ คิดว่าจะได้ผลดีมั้ยค่ะ

หึ หึ กับคนอื่น เราไม่รู้ แต่กับคนใกล้ตัวนี่... เกินคาดค่ะ

ไม่ใช่ใครที่ไหน หวานใจเรานี่เอง

ว่าแล้วก็เร่เข้ามา จะเผา เอ้ย เม้าท์ให้ฟัง


.............................





หลายเดือนก่อน ซื้อรายการ The trainer มาดู

แทรกโฆษณาโดยการให้เด็ก ๆ กินขนมยี่ห้อ สแน็คแจ็ค

พี่อ้อ : อุ๊ย สแน็คแจ็ค โห ไม่ได้กินตั้งนานแล้วอ่ะ

ไทยทาวน์มีมั้ย ไว้ไปซื้อมากินดีกว่า

ตั้งแต่วันนั้นมา พี่อ้อฮิตกินสแน็คแจ็ค ทุกวันนี้ก็ยังฮิตไม่เลิก





ดูรายการทีวี เห็นโฆษณา KFC

พี่อ้อ : อุ๊ย ดาร์ลิ้ง อยากกินไก่ KFC อ่ะ พรุ่งนี้ไปซื้อกินดีกว่า

อันนี้ไม่ยาก KFC มีเกลื่อนเมือง





หลายปีก่อน พี่อ้อดูละครไทย เห็นเค้ากินมันฝรั่งทอด ยี่ห้อเลย์

อยากกิน แต่ตอนนั้น ร้านไทยยังไม่เอาเข้ามาขาย

ว๊า ทำได้แค่อยาก ... แต่อดกิน





ดูละคร นางเอกถือจานขนมมาเสริฟพระเอก

เป็นแยมโรลหลากสี หลายรสอยู่ในจาน

พี่อ้อ : โห แยมโรลน่ากินจัง ดูสิ มีหลายสีเชียว

วันรุ่งขึ้น ก่อนกลับบ้าน นางเอกตัวจริงเลยต้องแวะในเมือง

ซื้อแยมโรลจากร้านเบเกอรี่มาเสริฟคุณพระเอกที่บ้าน






ดูรายการวู๊ดดี้ ตอนที่แขกรับเชิญเป็น พลอย เฌอมาลย์

ไปสัมภาษณ์กันที่กองละครย้อนยุค

บรรยากาศเป็นบ้านไทยโบราณ มีคลอง มีเรือ

พลอยนุ่งโจงกระเบน ห่มสไบ นั่งกินข้าวกับวู๊ดดี้

โดยมีสำรับอาหารเป็นน้ำพริก ปลาทูทอด ผักนู้นนี่

เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งพิธีกรและแขกรับเชิญ

เลยเปิบข้าวกันด้วยมือ ป้อนกันไปมา

พี่อ้อ : หูยยย ดาร์ลิ้ง น้ำพริกปลาทูน่ากินอ่ะ พรุ่งนี้กินกันมะ


หึ หึ มีหรือที่จะพลาด มุ่งหน้าสู่ไทยทาวน์

ปลาทูแช่แข็งพร้อม น้ำพริกกะปิสำเร็จรูปพร้อม ผักพร้อม

ไม่เท่านั้นสิคะ เด๋วไม่เหมือน พี่อ้อจัดแจงล้างมืออย่างพิถีพิถัน

เสร็จแล้วก็เปิบข้าวด้วยมือค๊า

นี่ถ้าหาโจงกระเบนมานุ่งได้ คาดว่าคงทำไปแร๋น






ฉากไหนมีมะม่วงน้ำปลาหวาน

พี่อ้อน้ำลายกระฉูดปรู๊ดปรี๊ดในปากทันที

มะม่วงเปรี้ยวนี่ถือเป็นผลไม้ในดวงใจ

โชคดีที่ไทยทาวน์มีขาย ช่วงแพงก็โลละประมาณ 17 เหรียญ

( แทบจะเคี้ยวเปลือกเคี้ยวเม็ดกินไปด้วยเลยเชียว )

ต้องรอช่วงถูกหน่อยพอซื้อกินได้ก็ราว ๆ 4-7 เหรียญ

ซื้อลูกเดียวก็ปาไป 2 เหรียญกว่า เกือบๆ 60 บาทแล้วนะนั่น






แล้วไม่ใช่เฉพาะแค่การชวนเชื่อทางทีวีนะจ๊ะ ในบล็อกก็ไม่เว้นค่ะ

ต้าเปิดอ่านบล็อกคุณตั๊ก ไปกินปูที่หาดบางแสน

เจอรูปปูนึ่งก้ามโต ๆ เข้าไปเต็มจอ

พี่อ้อ : โห ดาร์ลิ้ง อาทิตย์นี้กินปูนึ่งกันนะ

โหะ โหะ นี่ถ้าคุณตั๊กเป็นพนักงานขาย ถือว่าสำเร็จ ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วเลยคะ





อาการเหล่านี้ ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับต้าเท่าไหร่

ต้าไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมาบิ้ว สามารถอยากกินได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา





ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอเม้าท์เลยไปอีกหน่อย


เวลาไปเดิน shopping แล้วมีพนักงานขายมานำเสนอสินค้า

พยายาม present นู้นนี่มากมายสารพัดสิ่ง

เป็นต้า ถ้าไม่ถูกใจ ไม่อยากได้ ก็คือไม่ซื้อ

ขอบพระคุณที่สละเวลามานำเสนอ แต่.. มันยังไม่ใช่คุณค่าที่เราคู่ควร



ถ้าเป็นพี่อ้อ เหตุการณ์เดียวกัน

พี่อ้อจะจากพนักงานผู้แข็งขันนั้นมา พร้อมด้วยสินค้าอะไรสักอย่าง

ด้วยอาการงง ๆ

แล้วถ้าถามว่า พี่อ้อซื้อมาทำไมค่ะ

คำตอบคือ ก็คนขายเค้าดูทุ่มเท เอานู้นนี่มาสาธิตเต็มไปหมดเลย

จะไม่ซื้อเลยก็เกรงใจเค้า เลยเลือกที่ไม่แพงมาชิ้นนึง

T T ฮร่วยย ( โดนเค้าป้ายยามารึไงเนี่ย )





ล่าสุด ไปเดินห้าง พี่อ้ออยากได้ครีมทาหน้าสักกระปุก ไว้ทาก่อนนอน

ต้าแวะดูของที่เคาน์เตอร์นึง พี่อ้อเดินไปดูของอีกทางนึง

สักพักนึง ต้าเดินตามหาพี่อ้อ

เห็นหลังคุ้น ๆ อยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์ชิเชโด้

พนักงานสาวกำลังตั้งใจละเลงครีมลงบนหลังมือพี่อ้อ

เดินเข้าไปใกล้ ๆ เห็นมีผลิตภัณฑ์หลายตัววางเรียงรายอยู่

พนักงานสาวยังคงละเลงครีมให้พร้อมกับบรรยายอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

ยกเอาโปรโมชั่นนู้นนี่นั่นมาหลอกล่อให้งุนงง

อวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ นานา



สุดท้าย เสียทรัพย์ไปเป็นเงิน $2xx.-

แล้วเดินจากเคาน์เตอร์นี้มาพร้อมกับไนท์ครีม 1 กระปุก

มี gift set เป็นกระเป๋าถือสีดำใบเล็ก 1 ใบ

พร้อมทั้งครีมขนาดทดลองอีก 3-4 หลอด


.....................................


ฮั่ลโหล๊.. มีใครเป็นแบบแฟนเรามั่งมั้ยค๊า ^ ^