วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ไทเป เดย์ 2


11 เมษายน 2561 

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไม่มีการตั้งปลุก อยากตื่นคือตื่น เที่ยวได้แค่ไหน ก็แค่ไหนละ มาดูกัน 
ไลน์อาหารเช้าโรงแรม จัดว่าดี มีความหลากหลาย สลัดผัก สด อร่อย
ขนมปังแบบแผ่น แบบกลม แบบก้อน มีไส้ ไม่มีไส้ ครัวซอง ซาลาเปา บัน
สารพัดแยม นม น้ำเต้าหู้ ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ข้าวต้มกุ๊ย กับข้าวถาด ผลไม้สด
และไข่ดำ ก็.. คล้าย ๆ ไข่พะโล้ แต่มีความหอม ๆ เค็มๆ ถึงเนื้อใน
อาหารที่เป็นกับข้าวถาด ก็มีสลับสับเปลี่ยนกันไป ใครนอนหลายคืน ก็จะได้มีลุ้นๆ ว่าจะเจอผัดอะไรมั่ง 











แป้ง แป้ง แป้ง





เช็คสภาพอากาศ วันนี้จะมีแดดสดใสทั้งวัน ไร้ฝน เลยจัดทริปวันนี้จะออกนอกเมืองไป จิ่วเฟิน
เป็นหมู่บ้านโบราณบนเขา ดังมาจากการถ่ายทำหนังเรื่อง Spirit Away
ไม่ได้ดูหรอก สนใจของกินมากกว่าตามรอยหนัง
ออกจาก รร สาย ๆ นั่ง mrt แล้วไปต่อรถบัสอีกประมาณ ชม นึง ชมวิวบ้านเมืองไปเพลิน ๆ


สิ่งนึงที่สังเกตุได้ชัดเจนคือความสะอาด บ้านเมืองค่อนข้างสะอาดมาก
ตรอกซอกซอย แทบไม่มีขยะเลย แม้กระทั่งบ้านร้าง ยังไม่มีขยะเลยเธ๊อ ข้าน้อยขอคารวะ 
บ้านเรือนมีความเป็นจีน จะมีบ้าง บางจุดที่แอบคล้ายญี่ปุ่น แต่ไม่มาก ที่เหมือนกันคือความสะอาด
ในความรู้สึกเรา คนจีนที่นี่ต่างจากที่ประเทศจีนนะ คนที่นี่ดูมีความละมุน ไม่โฉ่งฉ่าง มีระเบียบวินัย เคารพกติกาส่วนรวม มีน้ำใจ ทำให้รู้ว่า มนุษย์เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อม 
คนจีนในแผ่นดินใหญ่ เกิดและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ การพูดเสียงดัง โวยวาย แซงคิว
ไม่สนใจคนรอบข้าง ไม่รักษาความสะอาด ทำนองนี้เป็นเรื่องปกติ
ทุกคนก็จะรู้สึกว่าการกระทำเหล่านั้นในทุก ๆ ที่เป็นเรื่องปกติ
คนจีนในไทเป อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีระเบียบวินัย รักษาความสะอาดของพื้นที่ส่วนรวม เคารพกติกาของส่วนรวม ก็จะกลายเป็นคนแบบนั้นไปโดยการหล่อหลอม
สภาพแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ในการเติบโตของมนุษย์เนอะ เข้าใจละ จีนดีดีมีที่ไทเป ^^
สิ่งที่เจอเหมือนกันตอนไปญี่ปุ่นกับไทเปคือ ถามทาง แล้วเค้าอธิบายไม่ถูก
เค้าช่วยเหลือเราโดยการพาเดินไปส่งเลยจ้า เอาให้แบบว่า จากตรงนี้ไป แกไปถึงจุดหมายแน่นวล

ตัดอารมณ์กลับมาที่จิ่วเฟิน ถึงล๊าววววว
ตรอกแคบ ๆ ข้างเซเว่นนั่นหล่ะ เด๋วมันจะไปเบิกบานข้างใน




เดินเข้าตรอกไป ฟิลคล้าย ๆ ตอนไปเมืองเก่าลี่เจียง ทางเดินมีขึ้น ๆ ลง ๆ สองข้างทางมีร้านขายของให้เพลิดเพลินปากท้อง ไม่รอช้า ลองเลย เป็นแผ่นแป้งกลมๆ คล้าย ๆ โรตีสายไหม แต่หนากว่า
ใส่ไอติมลงไป ถั่วบดหยาบคล้าย ๆ ขนมตุบตับ ผักชี แล้วห่อ
 เย็น ๆ หวาน ๆ มัน ๆ เคี้ยวเพลิน ๆ ดี แต่ต้องรีบกินนิดนึง
พอไอติมละลาย มันเสี่ยงต่อการเลอะเทอะ เพราะแป้งมันจะรั่ว




 อันนี้อะไรไม่รู้ คนยืนต่อคิวเต็มหน้าร้าน ขณะกำลังยืนเล็ง เจอแหม่มสาวนางนึง เดินมาถามว่า
สิ่งนี้มันต้องเอาไปทำให้สุกใช่มั้ย อ่า พยายามเล็งต่อเพื่อหาคำตอบให้นาง
นางรีวิวทับเลย นางลองแล้ว ไม่อร่อยเลย เลยไม่แน่ใจว่านางกินผิดวิธีหรือเปล่า
เราเลยบอกนางไป ว่าเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันและยังไม่เคยลอง
แต่คิดว่าน่าจะกินได้เลย ไม่ต้องไปปรุงอีก 
ลักษณะเหมือนเป็นแป้ง ห่อไส้อะไรสักอย่าง ขายเป็นกล่อง มีหลายชิ้น
ซึ่งทางเราก็ไม่อยากลอง เลยปล่อยผ่านไปดีฝ่า




ของทอด ปูตัวเล็ก ๆ อารมณ์ปูกะตอยบ้านเรา เห็ด กุ้ง ปลา เต้าหู้ เอามาชุบแป้งทอด
มีผงปรุงรสโรย อร่อยดี แต่กินเยอะ ๆ เลี่ยน 




บัวลอยยยยย มีทั้งร้อนและเย็น ใจอยากกินร้อน แต่อากาศวันนี้ ขอน้ำแข็งโปะใส่ให้พี่เถิด
กินแบบเย็นชื่นใจยิ่งนัก แป้งมีหลายสี หนุบหนึบ ใส่ถั่วหลากชนิด ต้มเปื่อยๆ น้ำตาลหอมๆ สดชื่นดี




น้ำมะระ ถือเป็นความเลวร้ายสำหรับของกินทริปนี้ ขมพอทนได้
แต่กลิ่นติดปลายลิ้นนี่พี่ไม่ไหวจะกินต่อ อึกเดียวส่งต่อเลย
กลิ่นเหม็นเขียวขั้นทำลายล้างต่อมรับรส กลิ่นเหมือนแมลงอะไรสักอย่างที่มันเหม็นเขียวอ่ะ




น้ำฝรั่ง ซื้อเพราะน้ำฝรั่ง หรือเพราะขวดโดเรม่อน และใช่ค่ะ คนอยากได้ไม่ใช่เก๊า 
รสชาติคือน้ำฝรั่งขี้นกที่มันสุก ๆ หน่อย ใครไม่ชอบกลิ่นแนวนี้  โปรดเร่งฝีเท้าให้ไวเลย 








เดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว แวะกินดีกว่า เมื่อยขาด้วย มีขายหลายอย่าง เตี๋ยวเนื้อ เกี้ยวน้ำ ข้าว
บอกตี๋ขอสั่งเตี๋ยวเนื้อ add เกี้ยวเพิ่มได้มั้ย ตี๊บอก ไม่ได้ เนื้อก็เนื้อ เกี๊ยวก็เกี๊ยว %?/#@) ฮ่วย!! 






ชอบไอเดียที่ทิ้งพลาสติกห่อตะเกียบ ห่อหลอด ไม่ปลิวว่อนให้ตามเก็บ




เดินผ่านร้านนี้ อุ๊ต๊ะ นี่คือการโล้สำเภาใช่หรือไม่คะขุ่นพรี่





ร้านชาร้านนี้น่ารักมากกกก เป็นแกลลอรี่ด้านใน จะนั่งจิบชาก็มีความสุนทรีย์











ศิลปะบนกล่องใส่กระดาษเช็ดมือ





                                                               ไข่ดำ









                                                    ในซอก ในซอย ก็มีร้านแอบ ๆ อยู่


ไส้กรอกย่าง



                                                เห็ดย่าง เหยาะผงปรุงรส อร่อยดี




                                        น้ำผลไม้ปั่น ดูเจ้มจ้นขั้นสุด

ตุ๊กตาผ้าคลุมดำ มีเต็มเมืองไปหมด


พายสัปปะรด ขนมขึ้นชื่อของเค้า






                                  อันนี้เก๋ดี ถุงใส่ชา เอาไว้เสียบขอบแก้ว ใช้เสร็จเอาไปคั่นหนังสือได้อีก




กระเป๋าเป้ใส่หมา น่ารักดี





                                                                    one fine day


อันนี้เป็นที่พัก  อาบน้ำไป เห็นวิวเขาไป 






                                             ล้อมต้นไม้ ไว้เป็นที่นั่งพัก  ดีอะ







ตู้รับบริจาคใบเสร็จ เหมือนว่ารัฐจะมีจับฉลากเลขในใบเสร็จ เหมือนลอตเตอรี่อ่ะ 





                                                     นั่งพักขา หน้าบ้าน








เจอร้านผ้าพันคอ ชอบมาก เลือกไม่ถูกเลย








ถั่วตัด  งาแผ่น





บ่ายแก่ๆ หลังจากที่เดินถ้วนทั่วแล้ว ได้เวลานั่งบัสกลับเข้าเมือง











เย็นนี้จะไปเดินเล่นที่ Wufenpu Market เป็นตลาดขายเสื้อผ้า มีขายปลีก ขายส่ง 
 ข้ามถนนไปตรงตรอกนี่




เดินไปได้พักนึง รู้สึกว่าไม่ใช่แนว เสื้อผ้าค่อนไปทางหวาน ๆ แบ๊ว ๆ เลยเปลี่ยนทิศทาง
เดินย้อนกลับไปตลาด Raohe แทน
 หน้าตลาดมีวัดจีน ประดับโคมไฟสวยงาม








 ออกจากวัด เลี้ยวเข้าตลาด Raohe  ( เหราเหอ )



 คือบั่บ มันโคตรใช่ค่ะ นี่สิที่คู่ควร


อารมณ์เหมือนเดินตลาดโต้รุ่งหัวหิน แต่อันนี้ร้านของกินอย่างแน่น
ติดๆ กันยาวๆๆๆๆ ไปฝั่งนึง กลับอีกฝั่งนึง
เท่าที่สังเกตุ คนที่นี่น่าจะชอบกินเครื่องใน แล้วแบบไม่ใช่มาแค่ ตับ หัวใจ คือเล่นใหญ่อ่ะ
ขนมาหมดทุกส่วนของร่างกันเลยมั้ง



                                                            โอเด้งไต้หวัน


                                           ไม่รู้คืออะไร แท่งใหญ่พอๆกะหมูยอเลย

ตัวอ้วนมาก



 ร้านนี้อยู่หน้าตลาดเลย คนต่อคิวอย่างยาว เท่าที่เล็งดู มันเหมือนแป้งห่อไส้หมูสับ แล้วเอาไปย่างในโอ่ง โดยการเอาไปแปะไว้ข้างโอ่ง จนได้ที่ ก็ค่อยแคะออกมา
                                           

                                     แคะออกมาจากข้างโอ่งแล้ว เกรียม ๆ หน่อย

อันนี้เป็นขนม แป้งใส ๆ ไส้จะเป็นถั่วเขียว ถั่วแดง


ข้าวโพดย่าง โบกด้วยผงปรุงรส เรียกว่าโบกแหล่ะ เพราะพอกซะแทบไม่เห็นเม็ดข้าวโพดเลย


หมูก็มา


อันนี้เป็นปลาหมึกกรอบ เอาไปลวก ใส่ในถุงพลาสติก ใส่น้ำซอสข้นๆ เขย่า ๆ  ใส่โหระพาลวก เสร็จพิธี


เหมือนไพ่นกกระจก ใช่ป่าวไม่รู้ เดาเอา



 เดินผ่านร้านนึง ขายเนื้อตุ๋น เอ็นตุ๋นยาจีน พี่อ้อบอก คนขายหน้าตาดีเชียว ไหน ๆ โอเค ลองร้านนี้เลย เจรจาต่ะอ่วยกับหนุ่มหล่อซ่อนความใสภายใต้เครารุงรัง ได้เอ็นตุ๋นมาถ้วยนึง พร้อมผักกาดดองเป็นเครื่องเคียง มีพริกน้ำส้มราดมาเพื่อเพิ่มรสชาติ 





นี่ถ้าจับพ่อหนุ่มคนนี้ไปโกนหนวดโกนเครา เซ็ตผม แต่งหล่อ ดาราได้เลยนะนี่ 
เดินวนไป 1 รอบ ตัดสินใจนั่งกินร้านนี้



ผักราดซอสหอย อร่อยดี  น้ำจิ้มถ้วยล่างนั่น เอาไว้ช่วยชีวิต




 กินเสร็จ แวะไปด้านข้างตลาด ชมวิวสะพานสายรุ้ง rainbow bridge
เป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำ ที่มีหนุ่มสาววันทีนมานั่งชิทแชทกัน มีคนวิ่ง ปั่นจักรยาน ชิล ๆ ไป


                                       กำแพงริมทางเดิน เปลี่ยนสีสลับไปเรื่อย ๆ สวยดี








                            หนุ่มสาว ดู๋ดี๋





ออกจากสะพาน เดินย้อนไป MRT Songshan นั่งรถไฟกลับไป Ximen อยากจิไปท่องราตรีต่อ
แต่ร่างมันไม่เอื้อ เดินทั้งวัน เมื่อยขาเหลือเกินค่ะคุณป้าเจ้าขา 
แวะเซเว่น กินไอติมชาเขียว แล้วเข้านอนดีฝ่า




ไทเป เดย์ 1
ไทเป เดย์ 3